อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 556

“หนิงเอ๋อร์?”

เสียงของโม่เยว่ดังเข้ามา

ข่าวกรองของชายผู้นี้เร็วจริงๆ นางเพิ่งเข้ามาในเรือนชิงหยิ่งเขาก็เดินตามหลังนางเข้ามา

นางเพิ่งยืนขึ้น เงาของโม่เยว่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

ประกายความดีใจเปร่งประกายในดวงตาของเขาอย่างรวดเร็ว มังกรตาเดียวที่อยู่ด้านข้างถูกมองข้ามไป เขารีบเดินเข้าไปกดนางเข้ามากอดไว้แน่น “เหตุใดถึงกลับมากะทันหันเช่นนี้”

หยุนหว่านหนิงถูกเขากอดไว้แน่น รู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย

กอดกันในคุกหลวง นางไม่รู้สึกเขินอายมากมาย

เพราะแสงสว่างในคุกหลวงค่อนข้างสลัว

แต่ตอนนี้ นางสามารถมองเห็นแม้แต่เส้นขนเล็กๆ บนใบหน้าของโม่เยว่อย่างชัดเจน!

มังกรตาเดียวยังอยู่ตรงหน้าด้วย...

นางเคยโอ้อวดต่อหน้าคนอื่น ว่านางสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายอย่างโม่เยว่!

และเป็นไปตามที่คิดไว้ มังกรตาเดียวกำลังมองนางราวกับเห็นผี

แต่พอหยุนหว่านหนิงมองมา เขาก็รีบปรบมือ “ขอให้กูหน่ายนายกับอ๋องหมิงครองรักกันไปตลอดกาล มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง...”

หยุนหว่านหนิงกรอกตา โม่เยว่พยักหน้ายิ้มๆ “อวยพรได้ดี”

“ตกรางวัล!”

หรูโม่หยิบเงินออกมาแล้วยื่นให้มังกรตาเดียว

“โอ้โห”

มังกรตาเดียวทั้งตกตะลึงทั้งดีใจ เขาจึงรีบรับเงิน “ขอบเจ้าท่านอ๋อง ขอบเจ้าท่านอ๋อง!”

“ขอให้ท่านอ๋องกับกูหน่ายนายรักกันตลอดไป มีความรักที่มั่นคง อยู่ดีมีสุขมีอายุยืนยาว!”

หยุนหว่านหนิง “...”

มีอวยพรเช่นนี้ด้วยหรือ? !

โม่เยว่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ รู้สึกแค่ว่าสองประโยคแรกยังใช้ได้ถูกประเด็น ทำให้เขาพอใจมาก “ตกรางวัลให้อีก!”

หรูโม่ยื่นเงินให้เพิ่ม

มังกรตาเดียวยิ้มแก้มแทบปริ ก่อนจะเกาท้ายทอยด้วยความลำบากใจ “ข้าไม่รู้หนังสือ พูดอวยพรได้ไม่เยอะ ดังนั้นข้าอวยพรได้แค่นี้แล้ว”

คำพูดนี้ทำให้หยุนหว่านหนิงกับโม่เยว่หัวเราะออกมา

“เอาล่ะ”

หยุนหว่านหนิงผลักโม่เยว่ออกห่าง หลังจากที่ทั้งสองนั่งลงแล้ว นางก็เอ่ยถาม “เมื่อครู่นี้เจ้าบอกว่ามาส่งจดหมายให้หรูโม่คือจดหมายอะไร”

“อ๋อ เป็นเรื่องเกี่ยวกับโม่หุยเหยียน!”

มังกรตาเดียวจับแท่งเงินสองแท่งใส่กระเป๋าของเขา แล้วกลับมาเข้าเรื่อง “คุณชาย​หรูโม่บอกให้ข้าจับตาดูโจวถง อดีตพ่อบ้านของตระกูลโจวว่ามีการติดต่อกับโม่หุยเหยียนหรือไม่”

“ข้าจับตาดูแล้ว ไม่มี!”

เรื่องนี้เขาบอกหรูโม่แล้ว

เหตุผลที่หรูโม่ไปรายงานโม่เยว่ แล้วให้เขารอที่ประตูหลังด้านหลัง ก็เพราะมังกรตาเดียวยกมืออาสา ถามว่ามีธุระอะไรให้เขาทำอีกหรือเปล่า

หรูโม่พยักหน้า “เป็นเรื่องจริงขอรับ”

หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว “อยู่ดีๆ เหตุใดถึงพูดถึงพ่อบ้านของตระกูลโจวด้วย”

เรื่องของโม่หุยเหยียนเกี่ยวข้องอะไรกับโจวถงด้วย?

โม่เยว่ทำการบอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้นางฟังอย่างชัดเจน หยุนหว่านหนิงจึงเข้าใจทันที “อ๋อ! ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าหมายความว่าสาเหตุที่โจวถงทรยศต่อตระกูลโจว เป็นเพราะการยุยงของโม่หุยเหยียน”

“อืม”

โม่เยว่พยักหน้า “โจวถงทรยศต่อตระกูลโจว ไม่ใช่แค่ตระกูลโจวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจวนอ๋องฮั่นด้วย”

ปกติแล้ว ถึงแม้จะกล้าทรยศต่อตระกูลโจว แต่ก็ไม่น่าจะกล้ามีปัญหากับจวนอ๋องฮั่นใช่หรือไม่? !

แต่โจวถงกลับใจกล้ามาก เห็นได้ว่ามีใครบางคนคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังเขา

และฐานะของคนคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

อย่างน้อยก็ต้องมีฐานะเทียบเท่ากับโม่ฮั่นอี่ว์

รวมถึงเรื่องที่ตระกูลโจวเกิดเรื่องครั้งนี้ ก็เพราะโม่หุยเหยียนรายงานโม่จงหราน มันยากที่จะเชื่อว่าโม่หุยเหยียนไม่ได้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้!

หยุนหว่านหนิงเองก็คิดว่าสมเหตุสมผล

นางพยักหน้าพร้อมกับครุ่นคิด “แล้วพวกเจ้าได้ข่าวคราวอะไรมาบ้าง”

“ตอนนี้โจวถงถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินของจวนเรา”

สีหน้าของโม่เยว่เคร่งเครียด “แต่คนผู้นี้ปากแข็งมาก และไม่กลัวตายด้วย หลังจากถูกทรมานจนแทบตาย เขาก็ยังไม่ยอมเปิดปากสารภาพ”

หรูโม่กล่าวเสริม “โจวถงอายุมากแล้ว และสุขภาพก็ไม่ค่อยดี”

เขามองไปที่โม่เยว่ แล้วเห็นว่าเขาพยักหน้าให้ ดังนั้นหรูโม่จึงรีบแก้มัดให้โจวถง

หลังจากแก้มัดแล้ว โจวถงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แล้วพูดอย่างอ่อนแรง “พระชายาหมิงอย่าคิดว่าถ้าท่านให้ความเมตตาแก่ข้าเพียงนิด ข้าจะยอมบอกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร”

“ข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะบอกเช่นกัน”

หยุนหว่านหนิงรู้สึกขบขัน

แม้ว่าในตอนแรกนางจะคิดเช่นนั้นจริงๆ

แต่พอเห็นว่าโจวถงไม่เพียงแต่ปากแข็ง แล้วยังดื้อรั้นมากอีกด้วย...

เห็นได้ชัดว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับเขา

ก่อนหน้านี้โม่เยว่พูดแล้ว ว่าใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนโจวถงก็ยังปากแข็ง

ในเมื่อใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนก็ไม่ได้ผล นางยังมีวิธีอีกมากมายที่จะทำให้เขายอมพูด!

ดังนั้น หยุนหว่านหนิงจึงยกเก้าอี้มานั่งตรงหน้าเขา แล้วไขว่ห้างมองหน้าเขา “ถ้าเจ้าไม่บอกข้า ข้าก็จะไม่บังคับเจ้า”

“เพราะข้ามีเวลาที่จะเสียเวลากับเจ้าอีกมาก”

“อยากจะรู้ว่าใครร่วมมือกับเจ้า เพื่อยึดครองตระกูลโจวกับจวนอ๋องฮั่น ข้าได้ส่งคนไปตามสืบแล้ว”

“ตอนนี้เหลือแค่เรื่องของเวลา”

หยุนหว่านหนิงยกมือยันคาง “ข้ารอได้ เพราะอย่างไร ตอนนี้เสด็จพ่อแค่สั่งจำคุกโม่ฮั่นอี่ว์กับโจวฉางเฟิงเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าจะลงโทษพวกเขาอย่างไร”

“ส่วนเจ้า... พ่อบ้านโจว ด้วยอายุของเจ้ายังรอได้อีกนานเท่าไหร่”

โจวถงนิ่งเงียบ

“เจ้าจะไม่พูดก็ได้ เพราะข้าเองก็สามารถพูดพร่ำต่อไปได้ ไม่ว่าเจ้าจะอยากฟังหรือไม่ก็ตาม ข้าก็พูดของข้าต่อไป”

นางเริ่มพูดพร่ำต่อเหมือนพระถังซัมจั๋ง

หลังจากพูดไปสักพัก โจวถงก็ปิดหูของเขาด้วยความรำคาญ

นึกว่าจะใช้วิธีการใดก็ไม่ได้ผลจริงๆ อะไรก็ไม่กลัวเสียอีก!

แค่แผนการพูดพร่ำ เขาก็ทนไม่ได้แล้ว

ในเมื่อเริ่มทนไม่ได้ ก็จู่โจมง่ายแล้ว...

วิธีการของหยุนหว่านหนิง ไม่ได้มีแค่พูดพร่ำ!

นางยกยิ้มชั่วร้ายเหมือนปีศาจร้าย ก่อนจะก้มลงไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของเขา แล้วสีหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวทันที!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์