บทที่191 ลู่หลุ่ยหึง
“ใครจะไปเชื่อ!”
หวางเสี่ยวโก๋กลอกตาใส่หลี่ฝาง:“พ่อคุณเป็นชาวนา แล้วเบนซ์G-Classของคุณเอามาจากไหน?”
“พ่อคุณเป็นชาวนา ข้าวมื้อหนึ่งคุณจ่ายไปหกแสนกว่าเลย?”
“ชาวนาของประเทศเรามีเงินมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
หลี่ฝางจ้องหวางเสี่ยวโก๋เขม็ง:“คุณพูดเบาๆหน่อย อย่าให้เพื่อนนักเรียนคนอื่นได้ยินสิ”
“ได้ยินแล้วไงล่ะ?ผมพูดความจริงทั้งนั้นนี่”หวางเสี่ยวโก๋พูดอย่างมีเหตุผล
ถึงจะเป็นความจริง แล้วใครจะเชื่อ?
น่าจะนอกจากรูมเมทของหลี่ฝางแล้ว ทั้งห้องก็ไม่มีใครเชื่อสักคน
ข้าวมื้อหนึ่งจ่ายไปหกแสนกว่า เป็นข่าวได้เลย
“เจียมตัวหน่อยสิ”
หลี่ฝางตบไหล่ของหวางเสี่ยวโก๋ ลากเขาไปฝึกทหาร
ตอนที่ฝึกทหารใกล้จะเสร็จ ทันใดนั้นฉินวี่เฟยก็มา
หลี่ฝางเห็นฉินวี่เฟย แล้วก็ร้อนตัวหน่อยๆ
ยังไงเมื่อเช้า ตัวเองก็เพิ่งแกล้งเธอไป
มาเอาคืนหรือเปล่านะ?
หลี่ฝางลังเลเล็กน้อย แล้วจึงพูดกับครูฝึก แล้วก็ไปหาฉินวี่เฟย
“คุณมาได้ไง?”เดินไปตรงหน้าฉินวี่เฟย หลี่ฝางถามอย่างสงสัย
“คงไม่ได้มาคิดบัญชีกับผมใช่ไหม?”หลี่ฝางถามอย่างขำๆ
“ไม่ใช่”ฉินวี่เฟยส่ายหน้า
“ไม่ใช่ว่าคุณกำลังหาสวีเถิงเฟยเหรอ”ฉินวี่เฟยพูดอย่างจริงจัง“ฉันรู้เบาะแสเขา”
ได้ยินคำนี้ หลี่ฝางถามอย่างร้อนใจทันที:“ตอนนี้เขาอยู่ไหน?”
“ตอนนี้เขาอยู่ไหนฉันไม่รู้ แต่ฉันรู้ว่าตอนดึกเขาอยู่ไหน”ฉินวี่เฟยพูด
ฉินวี่เฟยหยิบนามบัตรมาจากกระเป๋ากางเกง:“โทรหาเขา เขาจะพาคุณไปหาสวีเถิงเฟย”
“เขาคือใคร?”หลี่ฝางถาม
บนนามบัตรมีเบอร์โทร ไม่มีชื่อสกุล และก็ไม่มีข้อมูลเขา
มีนามบัตรแบบนี้ด้วย?
อีกอย่างนามบัตรก็ชุบทอง พอส่องแสงอาทิตย์แล้ว จะเป็นประกายแวววาว
ดูเหมือนเจ้าของนามบัตรนี้ จะเป็นคนรวยคนหนึ่ง
“คุณถามเขาเองละกัน”ฉินวี่เฟยพูดอย่างเย็นชา
พูดจบ ฉินวี่เฟยก็ไป
หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ ผู้หญิงคนนี้นี่ ยังแค้นเรื่องเมื่อเช้าอยู่จริงๆ
หลี่ฝางคิดจะตามฉินวี่เฟยไป เพื่อพูดขอโทษเธอ
แต่สุดท้ายหลี่ฝางก็มองเห็นไม่ไกลจากตรงนั้น ลู่หลุ่ยกำลังจ้องมาทางนี้
“ลู่หลุ่ย!”
หลี่ฝางเรียกลู่หลุ่ย วิ่งไปทางลู่หลุ่ย
ส่วนลู่หลุ่ย หมุนตัวแล้วออกไป
ตอนที่ตามลู่หลุ่ยไป ลู่หลุ่ยก็กลับไปในห้องตัวเองแล้ว
เธอนั่งอยู่ในฝูงคน พูดคุยหัวเราะกับพวกผู้หญิง เหมือนว่าเมื่อกี๊ไม่เห็นอะไร
หลี่ฝางยืนตรงหน้าลู่หลุ่ย แต่สายตาของลู่หลุ่ย ไม่ได้มองไปที่หลี่ฝาง ทำเป็นเหมือนว่าไม่มีหลี่ฝาง
“เอ๋ เขาไม่ใช่คนที่วันนั้นทะเลาะกับพี่ส้วยหน้าโรงเรียนนั่นเหรอ?”
“เป็นเขาจริงๆด้วย”
มีผู้หญิงสวมต่างหูคนหนึ่งยืนขึ้นทันที แล้วเดินไปตรงหน้าหลี่ฝาง:“นี่ คุณชื่ออะไร?”
หลี่ฝางมองผู้หญิงสวมต่างหู ผู้หญิงคนนี้ กำลังคุยกับตัวเองเหรอ?
กล้าหาญมากเลย?
ผู้หญิงสวมต่างหูคนนี้ในปากกำลังเคี้ยวหมากฝรั่ง ที่คอก็ยังมีรอยสักจิ้งจอกเล็กอยู่
ดูเป็นผู้หญิงไม่ดีไปทั้งตัว
ผู้หญิงสวมต่างหูเห็นหลี่ฝางไม่ตอบ ก็เอาแขนไปวางตรงไหล่ของหลี่ฝาง:“ถามคุณอยู่นะ คุณคงไม่ได้หูหนวกใช่ไหม?”
“ผมชื่อหลี่ฝาง”หลี่ฝางพูด
“มีแฟนยัง?”ผู้หญิงสวมต่างหูถามอย่างตรงไปตรงมา:“ถ้าไม่มี ลองพิจารณาพี่สาวคนนี้หน่อยไหม”
“พี่สาวชอบผู้ชายที่ชอบทะเลาะเบาะแว้งแบบนี้แหละ”
หลี่ฝางส่ายหน้า:“ขอโทษครับ คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ใช่คนทะเลาะเบาะแว้ง”
หลี่ฝางหมดคำพูด ได้ยินว่าผู้หญิงชอบคนหล่อ รวย เล่นบาสเป็นร้องเพลงได้ ไม่เคยได้ยินว่าผู้หญิงที่ไหนชอบทะเลาะเบาะแว้ง
ผู้หญิงสวมต่างหูคนนี้ เป็นของแปลก
ลู่หลุ่ยยังคงพูดคุยหัวเราะกับเพื่อนในห้องตัวเอง ถึงแม้ผู้หญิงสวมต่างหูกำลังจีบหลี่ฝาง ลู่หลุ่ยก็ไม่หันมามองสักนิด
“คุณไม่ชอบทะเลาะ?งั้นหน้าคุณเป็นอะไร อย่าบอกว่าล้มลงไปกับพื้นล่ะ ฉันไม่เชื่อ”ผู้หญิงสวมต่างหูพูด
“หรือว่า คุณไม่สนใจฉัน?”
ผู้หญิงสวมต่างหูไม่ค่อยพอใจนัก ความงามของเธอ ถึงไม่สวยเท่าฉินวี่เฟยหรือลู่หลุ่ย แต่ก็ถือว่าหน้าตาพอใช้ได้
ถ้าหากเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ ลู่หลุ่ยกลับไม่โกรธ
แต่ที่สำคัญคือฉินวี่เฟยหน้าตาดีมาก แล้วก็ยังโดดเด่นอีกด้วย ลู่หลุ่ยมองฉินวี่เฟยไกลๆ ก็ยังอิจฉาหน่อยๆ
การปรากฏตัวของฉินวี่เฟย ทำให้ลู่หลุ่ยรู้สึกถึงวิกฤตลึกซึ้งมากขึ้น
หลี่ฝางมองสีหน้าของลู่หลุ่ย ก็ยิ้มออกมา:“คุณหึงใช่ไหมเนี่ย?”
“ใครหึง ฉันแค่ถามไปงั้นๆ”
ลู่หลุ่ยกลอกตาใส่หลี่ฝาง:“ฉันรู้ว่าพวกคุณเป็นเด็กบ้านมีเงินกัน ไม่น่าเชื่อถือ”
“ไม่น่าเชื่อถือ?”
หลี่ฝางส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด:“งั้นเด็กบ้านยากจนน่าเชื่อถือเหรอ?”
“คนๆหนึ่งน่าเชื่อถือหรือไม่ ไม่เกี่ยวอะไรกับจนหรือรวยนะ”
หลี่ฝางดึงแขนของลู่หลุ่ย ดึงเธอกลับมา ทั้งสองนั่งลงใต้ต้นไม้
ลู่หลุ่ยนั่งลงแล้ว แต่ยังไม่พูด
ถกเถียงกันอยู่นาน หลี่ฝางก็ไม่สามารถอดกลั้นได้ พูดไปว่า:“คุณคิดจะไม่สนใจผมไปถึงไหนเหรอ?”
“หลี่ฝาง พวกเราห่างกันสักพักหนึ่งละกัน”ลู่หลุ่ยสูดหายใจลึกๆ แล้วพูด
“ทำไม?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ถาม:“คุณอยากห่างกันนานแค่ไหน?”
หลี่ฝางคิดในใจ ถ้าห่างกันไม่กี่วัน หรือว่าหนึ่งอาทิตย์ หลี่ฝางก็จะยอม
ถ้านานไปหลี่ฝางไม่เห็นด้วย
“เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกว่าไม่มีหน้าไปเผชิญหน้ากับคุณ ฉันติดเงินคุณ ติดเงินคุณตั้งเยอะ ฉันยืนอยู่ต่อหน้าคุณ ก็รู้สึกว่าสู้หน้าไม่ได้”
“ส่วนห่างกันนานแค่ไหน ฉันตัดสินไม่ได้”
“รอฉันเอาเงินคืนคุณได้เมื่อไหร่ ตอนนั้นพวกเราก็ดีกันละกัน”ลู่หลุ่ยพูดหน้านิ่งๆ
หลี่ฝางได้ยินก็โมโห
“ลู่หลุ่ย จากที่คุณพูดแล้ว ถ้าทั้งชีวิตคุณคืนเงินผมไม่ได้ ก็จะไม่คบกับผมไปทั้งชีวิตเหรอ?”
หลี่ฝางพูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง
ยังไงหนี้ก้อนนี้ ก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ
ตั้งสามแสนกว่า ตอนนี้ลู่หลุ่ยเป็นนักเรียน จะเอาอะไรมาคืน?
ถึงแม้หลี่ฝางจะคิดวิธีแทนลู่หลุ่ยได้แล้ว แต่ได้ยินคำพูดของลู่หลุ่ยนี้ ต่างอะไรกับบอกเลิกล่ะ?
“ฉันจะต้องหาเงินมาคืนคุณให้ได้”ลู่หลุ่ยพูดอย่างเด็ดเดี่ยว
หลี่ฝางยังคงพูดไม่ออก
“ทำไมคุณถึงหมกมุ่นอยู่กับเงินขนาดนั้น?ผมสำคัญ หรือว่าเงินก้อนนั้นสำคัญเหรอ?”
หลี่ฝางมองลู่หลุ่ย แล้วพูด:“คุณเลือกมา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง