โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 205

"เธอตาบอดหรือไง"

ฮั่วเทียนหลันเอ่ยกับผู้หญิงคนดั่งกล่าวอย่างเฉียบพลัน

ประโยคที่เขาเอ่ยออกมานั้นค่อนข้างรุนแรง

แต่กับการที่พวกเธอมารังแกผู้หญิงของเขาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ถ้าไม่สั่งสอนสักหน่อย เกรงว่าคราวหน้าจะยิ่งโอหัง

ผู้หญิงคนดังกล่าวยืนนิ่ง ก่อนที่ขอบตาของเธอเริ่มจะขึ้นสีแดง

เธอโตมาจนป่านนี้ พึ่งเคยถูกพูดจาแรงๆใส่เป็นครั้งแรก

"ฉันขอโทษค่ะคุณชายฮั่ว ฉันแค่ แค่รีบเร่งไปสักหน่อยจึงไม่ทันได้มอง ... "

เธอพยายามอธิบายอย่างไม่รู้ต้องทำอย่างไร น้ำตาพลันไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง

ฮั่วเทียนหลันมองผู้หญิงคนนี้อย่างเย็นชา เขาไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก หากเพียงแค่ทำท่าราวกับจะบอกเธอว่าเชิญเล่นละครอย่างเต็มที่

ฉวนฉีเหลียนเดินเข้ามาบังหน้าผู้หญิงคนนี้ไว้ราวกับจะปกป้อง : "พี่เทียนหลัน ทำไมถึงพูดให้พี่ชานชานแบบนี้ล่ะ เธอ... "

"เธอเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับเธอ?"

เมื่อเรื่องลามมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องจะเสแสร้งใดๆ

ในตอนนี้ฮั่วเทียนหลันไม่สามารถเปิดโอกาสให้ฉวนฉีเหลียนและคนอื่นๆเอ่ยปัดความรับผิดชอบได้อีกต่อไป

ฉวนฉีเหลียนหน้าซีดเผือดลงในทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างน้อยใจ : "พี่เทียนหลันกำลังพูดอะไรอยู่คะ ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย นี่พี่ไม่เชื่อฉันจริงๆเหรอ"

ฮั่วเทียนหลันยิ้มเยาะพร้อมทั้งหัวเราะขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน : "ไม่เข้าใจก็ช่างมันเถอะ ถึงอย่างไรพวกเธอก็ถนัดทำเรื่องแบบนี้อยู่แล้วนี่"

ผู้คนรอบข้างต่างได้ยินที่ฮั่วเทียนหลันพูดถากถางฉวนฉีเหลียนถึงธาตุแท้ที่ต่ำตมของเธอ แต่เธอยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอยู่อย่างนั้น

ฉวนฉีเหลียนไม่ใช่คนโง่ที่จะฟังไม่ออก เธอรู้สึกอับอายขายขี้หน้าขึ้นมาทันที ก่อนจะมองไปที่อันหรันอย่างโกรธแค้น : "ไม่ทราบว่าคุณหญิงฮั่วต้องการให้พวกเราขอโทษยังไงเหรอคะ คุณถึงจะได้พอใจ"

อันหรันไม่ได้อยากเข้าร่วมสงครามประสาทในครั้งนี้เลยสักนิด ฉะนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกพาดพิง

เธอดึงแขนของฮั่วเทียนหลัน แล้วพูดขึ้นเสียงเบา : "พวกเราไปกันเถอะนะ คุณชายฮั่ว"

ฮั่วเทียนหลันมองอันหรันอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือเธอไว้ แล้วเดินออกไปจากงานเลี้ยงในทันที

ฉวนฉีเหลียนโมโหจนโตสั่นที่เธอถูกเพิกเฉย

เธอก้าวไปข้างหน้าเตรียมจะเดิมตามไป แต่ยังไม่ถึงไหนก็ถูกดึงรั้งเอาไว้ซะก่อน

"ฉีเหลียน อย่าหุนหันพลันแล่น!"

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้น ฉวนฉีเหลียนจึงรีบหันกลับไป ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกอดอีกคนไว้แน่น พร้อมทั้งเอ่ยขึ้นอย่างสะอื้น : "พี่คะ ฮั่วเทียนหลันเขาเปลี่ยนไปแล้ว!"

ฮั่วเทียนหลันขับรถกลับไปที่วิลล่า โดยมีอันหรันนั่งอยู่ด้านข้าง

แต่พอขับไปได้ครึ่งทางก็พบว่าทางด้านหน้ากำลังซ่อมไม่สามารถขับผ่านไปได้

ฮั่วเทียนหลันให้อันหรันนั่งรอในรถ ส่วนเขาจะเดินลงไปสอบถามคนงานสักหน่อย เพราะวิลล่าของพวกเขาอยู่แถบชานเมืองและมีเพียงถนนเส้นนี้เส้นเดียวเท่านั้นที่สามารถขับไปได้

สักพักเขาก็ขึ้นมาบนรถดังเดิม ก่อนจะเอ่ยพูดกับอันหรัน : "คืนนี้พวกเขาจะซ่อมถนน เราคงกลับไปที่วิลล่าไม่ได้แล้ว"

อันหรันอ้าปากค้าง ก่อนจะคิดได้ว่าตัวเองควรถามฮั่วเทียนหลันว่าจะไปที่ไหน

ฮั่วเทียนหลันราวกับอ่านความคิดของเธอออก เขาเอ่ยขึ้น : "เธอมันพวกชอบหลงทาง บอกไปเธอก็ไม่รู้หรอก "

อันหรันหน้าแดง เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธขึ้นมาในใจ ผู้ชายคนนี้นี่มันยังไง แม้ว่าเธอจะขับรถไม่ค่อยคล่องและไม่ค่อยรู้จักเส้นทางเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เห็นต้องมาพูดวิพากษ์วิจารณ์เธอขนาดนี้เลยนี่นา

ฮั่วเทียนหลันขับไปตามถนนและตรอกซอกซอย จนในที่สุดก็ขับเข้ามาจอดตรงหน้าประตูที่ปิดสนิทของหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง

เขาลงจากรถไปลงทะเบียน ขณะเดียวกันนั้นอันหรันเองก็เพ่งมองชื่อของหมู่บ้านนี้

Jinxiu Garden สถานที่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Z เมื่อก่อนเคยเป็นย่านของชนชั้นสูง แต่ตอนนี้หลงเหลือเพียงตึกอาคารเก่าแก่ของเมื่อสิบปีที่แล้วเท่านั้น

หลังจากที่ฮั่วเทียนหลันลงทะเบียนเสร็จแล้ว เขาก็พาอันหรันขับเข้าไปในหมู่บ้าน จนถึงประตูวิลล่า

อันหรันลงจากรถแล้วเดินตามเขาไปยังชั้นหนึ่ง

เธอเดินตามฮั่วเทียนหลันเข้าไปในตัวบ้าน เมื่อเขากดเปิดไฟ ก็ทำให้ทราบว่าตึกหลังนี้คงไม่ค่อยมีใครแวะเข้ามาเท่าไหร่ เห็นได้จากเศษใยของฝุ่นที่เกาะอยู่บนตู้เก็บรองเท้าตรงหน้าประตู

ฮั่วเทียนหลันหยิบรองเท้าแตะจากข้างในตู้ออกมาสวม ก่อนจะโยนให้อันหรันอีกคู่หนึ่ง เขาเอ่ยขึ้น : "มันมีแค่ไซต์ของฉัน เธอก็ใส่ๆไปก่อนละกัน"

อันหรันตอบรับเสียงเบา ก่อนจะสวมใส่รองเท้าแตะแล้วเดินเข้าไปห้องนั่งเล่น

โซฟาในห้องนั่งเล่นถูกคลุมไว้ด้วยผ้ากันฝุ่น ฮั่วเทียนหลันดึงมันออกก่อนจะให้อันหรันนั่งลงที่ตรงนี้รอ แล้วตัวเองเดินเข้าไปห้องครัวเพื่อต้มน้ำร้อน

"ขึ้นไปทำความสะอาดห้องนอนชั้นบนไป!"

เสียงเยือกเย็นของฮั่วเทียนหลันทำให้อันหรันสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองฮั่วเทียนหลัน ก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปที่ชั้นบนของบ้าน

เธอผลักประตูห้องนอนออกแล้วรีบกดเปิดไฟ ก่อนจะพบว่าข้างในห้องนอนถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย แต่ทว่ากลับดูอบอุ่นมากเลยทีเดียว

บนโต๊ะทำงานมีกรอบรูปตั้งอยู่ ในกรอบรูปนั้นเป็นรูปถ่ายของครอบครัวที่มีสมาชิกด้วยกันทั้งหมดหกคน

คนแก่สุดสองคนที่อยู่ตรงกลางนั้นไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าเป็นคุณปู่และคุณย่าของฮั่วเทียนหลันแน่นอน

อันหรันพยายามมองหาฮั่วเทียนหลันจากภาพถ่าย​ อายุเขากับฮัวเส้าซู่ห่างกันไม่มากนัก​ ในรูปนั้นคนเเก่สองคนกำลังอุ้มเด็กน้อยอีกสองคน​อยู่ในอ้อมแขน และยังมีคนที่อายุดูมากขึ้นหน่อยอีกสองคนยืนอยู่ข้างๆสองสามีภรรยา​คู่นั้น

ด้านซ้ายมือปรากฏรูปภาพของเด็กคนหนึ่งที่กำลังยกยิ้มแฉ่ง อันหรันไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่เลยว่านี่คือฮั่วเทียนหลันตอนเด็ก

คุณปู่คุณย่าของฮั่วเทียนหลันเสียชีวิตไปก่อนที่อันหรันจะเข้ามา

ว่ากันว่าเป็นเพราะเหตุการณ์ในตอนนั้น ที่มีคนหนุ่มคนนึงได้เสียชีวิตลงไปก่อน จึงทำให้ผู้สูงอายุสองคนต่างจมอยู่กับความเศร้าโศกจนจากโลกนี้ไปทีละคนทีละคน

เมื่อย้อนคิดเกี่ยวกับชีวิตของฮั่วเทียนหลันแล้ว อันหรันก็รู้สึกว่าชีวิตของเขาคงจะน่าสงสารกว่าชีวิตของเธออยู่ไม่ใช่น้อย

เมื่อตอนที่เธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ เธอก็ได้ยินเสียงไอดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

อันหรันตัวแข็งทื่อ เธอรีบวางกรอบรูปลงในทันที

ในตอนนั้นเองฮั่วเทียนหลันก็เอ่ยขึ้นมา : นั่นคือภาพครอบครัวแสนสุขของพวกเรา!"

อันหรันผงะเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองฮัวเทียนหลันอย่างอดไม่ได้

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าฮั่วเทียนหลันจะเอ่ยเรื่องนี้กับเธอ

ใบหน้าของฮั่วเทียนหลันยากที่จะคาดเดา เขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ก่อนจะหยิบกรอบรูปบนโต๊ะขึ้นมาแล้วใช้นิ้วลูบเบาๆ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแห่งความคิดถึง : “คุณปู่และคุณย่ารักฉันมาก ทุกครั้งที่ฉันสร้างปัญหา ฉันมักจะยกเอาพี่ชายคนโตมาอ้างเสมอ พี่ชายคนโตของฉันก็ปฏิเสธไม่เคยได้ แต่จริงไแล้วคุณปู่คุณย่าของฉันรู้อยู่แล้วแหละว่าคนที่ทำผิดคือฉัน แต่พวกเขาก็ไม่เคยที่จะตำหนิฉันเลย"

ฮั่วเทียนหลันกำลังตกอยู่ในห้วงของความทรงจำ อันหรันเม้มริมฝีปากเล็กน้อย เธออยากจะเอ่ยอะไรขึ้นมา แต่ฮั่วเทียนหลันกลับทำท่าทางบอกให้เธอไม่ต้องพูด

“ไม่ต้องปลอบฉันหรอก ฉันไม่ใช่คนอ่อนแอขนาดนั้น”

ฮั่วเทียนหลันวางกรอบรูปลง ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างแล้วมองดูบรรยากาศตอนกลางคืนอันมืดมิด ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ซ่อนความน่ากลัวเอาไว้ : "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนั้น ถ้าฉันสืบพบว่าใครที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมในครั้งนั้น ฉันจะฆ่ามันให้หมดทั้งครอบครัวเลยคอยดูสิ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง