โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 204

พูดจบ ฮั่วเทียนหลันก็เดินผ่านฉวนฉีเหลียนไป ก่อนจะมุ่งหน้าไปทางอันหรัน

ฉวนฉีเหลียนมองตามทิศทางที่ฮั่วเทียนหลันกำลังเดินไป เธอเดินตามหลังไปได้สองสามก้าว ก่อนจะเอื้อมมือหวังจะคว้าเสื้อของฮั่วเทียนหลันไว้

แต่เมื่อเห็นสายตาของคนในบริเวรนั้นที่มองมา ถึงได้รู้ว่าตัวเองนั้นกำลังเป็นจุดสนใจ

ถ้าเกิดคุณพ่อและคุณปู่ทราบว่าเธอตามตอแยผู้ชายที่แต่งงานแล้วแบบนี้ จนทำให้ครอบครัววงศ์ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียขึ้นมา เธอจะต้องมีปัญหาตามแน่ๆ

ฉวนฉีเหลียนเป็นคนหุนหันพลันแล่นก็จริง แต่กลับสามารถบริหารธุรกิจขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ แน่นอนว่าเธอก็ต้องควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้ในระดับหนึ่ง

คนหนุ่มสาวที่ทำผิดพลาดในเรื่องเล็กๆน้อยๆกับคนหนุ่มสาวที่มุทะลุจนทำให้ครอบครัวเสียหน้า ผลรับที่ได้นั้นมันช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ท้ายที่สุดเธอจึงยอมวางมือ มองดูฮั่วเทียนหลันที่เดินจากไปไกลเรื่อยๆ

ภาพเงาของคนตัวใหญ่และคนตัวเล็กสองคนที่ยืนขอพรภายใต้แสงสีทองของดวงอาทิตย์ในยามที่มันกำลังจะลาลับขอบฟ้าไปนั้น กำลังแตกสลายอยู่ภายในใจของเธอ

อันหรันเรียนรู้วิธีทำตัวดั่งนกกระจอกเทศ หลังจากที่หนีออกมาจากหยูซิงเหวินได้แล้ว เธอก็เดินไปหยิบอาหารติดมือมาเล็กน้อย ก่อนจะไปนั่งหลบมุมตรงโซฟาและลงมือกินอย่างเอร็ดอร่อย

แต่บางครั้งยิ่งอยากจะหลีกเลี่ยงปัญหามากเท่าไหร่ ปัญหาก็ยิ่งจะตามมามากขึ้นเท่านั้น

"อันหรัน ไม่เจอกันนานเลยนะ!"

น้ำเสียงที่คุ้นเคยนี้ ทำให้อันหรันรีบเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะอึ้งไปชั่วขณะ

หลี่รอซี ทำไมเธอถึงมาโผล่ที่นี่ได้ล่ะ

หลี่รอซีตั้งใจมาหาเรื่องอย่างแน่นอน เห็นได้จากสุภาพสตรีที่ตามมาด้วยด้านหลังสามสี่คน

พวกหล่อนต่างก็แสร้งทำตัวเป็นคนมีหน้าตามีฐานะ ที่แทบจะไม่ยอมก้มลงนั่งคุยกับอันหรันดีๆด้วยซ้ำ กลับยืนพูดค้ำหัวเธออยู่อย่างนั้น

อันหรันพยักหน้าโดยไม่คิดจะเอ่ยอะไรออกไป เธอคิดในใจถ้าหากหลี่รอซีอยู่ที่นี่ หยางจื่อหยินก็ต้องมาด้วยอย่างแน่นอน

เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหยางจื่นหยินตามตอแย วิธีที่ดีที่สุดก็คงจะเป็นการหลบซ่อนตัวอยู่กับฮั่วเทียนหลัน

เธอกำลังเตรียมลุกขึ้นเดินหนีไป แต่ก็ถูกผู้หญิงหนึ่งในนั้นดักทางไว้ก่อน

"ฉันควรเรียกเธอว่าคุณหญิงฮั่วหรือผู้หญิงที่มีพรสวรรค์หมายเลขหนึ่งดีล่ะ"

ผู้หญิงที่มีพรสวรรค์หมายเลขหนึ่งนั้นคือชื่อของอันหรันในตอนที่ครอบครัวอันยังมีหน้ามีตาในสังคมอยู่ ในขณะนั้นอันหรันเองก็ถือว่าเหมาะสมกับคำเรียกนี้อยู่มากเหมือนกัน

แต่ตอนนี้ การที่ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยเรียกเธอเช่นนี้มันไม่ได้หมายถึงกำลังเอ่ยชมเธอเลยสักนิด แต่มันคือการดูถูกเยียดหยามว่าเธอในตอนนี้ต่ำต้อยกว่าคนธรรมดาเสียอีก

อันหรันขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นอย่างเฉยเมย แล้วจึงเอ่ยขึ้น : "หลบทางหน่อย!"

"โย่! เด็กสาวผู้มีพรสวรรค์ควรจะอ่อนโยนไม่ใช่เหรอ ทำไมท่านนี้ถึงได้พูดจาไม่สุภาพอย่างนี้เล่า!" ผู้หญิงด้านข้างอีกคนเอ่ยเสริมขึ้น

สำหรับพวกเขาแล้ว การได้เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของอันหรันนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียว

อันหรันหัวเราะเยาะขึ้นและพูดว่า : "ตำแน่งของผู้หญิงที่มีพรสวรรค์ ก็เป็นสิ่งที่พวกเธอไม่สามารถเป็นได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ!"

พูดจบอันหรันก็มีท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อย เธอผลักผู้หญิงที่ขวางทางอยู่ให้หลบไปอีกด้าน ก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่ใส่ใจ

เดิมทีหลี่รอซีตั้งใจมาที่นี่เพื่อทำให้อันหรันรู้สึกอับอาย แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าอันหรันจะตอบกลับด้วยท่าทางแข็งกร้าวหัวรั้นเช่นนี้ได้

เธอมองตามอันหรันอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะหันกลับมาเอ่ยกับกลุ่มผู้หญิงที่มาด้วยกันเสียงแข็ง : "ไร้ประโยชน์เสียจริง!

ครอบครัวของผู้หญิงคนนี้อยู่ในชนชั้นกลาง เพียงแค่เธอกิ๊กกับทายาทของเศรษฐีมีตังค์ ดังนั้นเธอจึงได้รับเกียรติให้เข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วย

เมื่อได้ยินหลี่รอซีกล่าวว่าตัวเองเช่นนั้น ดวงตาของเธอก็ฉายแววโกรธเล็กน้อย แต่ก็ยอมก้มหน้าลงและกล่าวขอโทษ

อันหรันเดินตามหาฮั่วเทียนหลันจนเจอ ก่อนจะพบว่าตอนนี้รอบตัวของเขาถูกรายล้อมไปด้วยผู้หญิงหน้าตาสะสวยอยู่หลายคน

อย่างที่ว่ากันว่าผู้ชายที่เพรียบพร้อมก็มักจะมีผู้หญิงเข้ามาไม่ขาดสาย

อันหรันไม่อยากสร้างปัญหาให้กับตัวเอง ดังนั้นเธอจึงเดินเลี่ยงไปที่ห้องรับรองแขกแทน

การกระทำของเธอเป็นการตบหน้าอันหรันเบาๆ และในตอนนี้ผู้คนรอบๆต่างก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

อันหรันไม่ยอมรับมัน เธอปล่อยให้บัตรธนาคารตกลงไปที่พื้น

ผู้หญิงคนดังกล่าวเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดี ทันใดนั้นเองฉวนฉีเหลียนก็เดินเข้ามา ก่อนจะพูดขึ้น : "ชานชาน ในเมื่อคุณหญิงฮั่วไม่อยากรับเธอก็เก็บเอาไว้เถอะ! ไม่รู้เหรอว่าการบังคับฝืนใจใครนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ดี

คำพูดที่ฮั่วเทียนหลับมอบให้เธอในตอนนั้น ตอนนี้เธอได้ส่งกลับคืนให้กับอันหรันแล้ว

อันหรันมองจ้องไปที่ฉวนฉีเหลียนครู่หนึ่ง ก่อนเตรียมจะเดินผ่านพวกเธอออกไป แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้นมาก่อน : "ใครเป็นคนทำ"

อันหรันเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าเย็นชาของฮั่วเทียนหลัน เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อย นี่เขากำลังจะออกหน้าให้เธออย่างนั้นหรือ

ฉวนฉีเหลียนคว้าเข้าที่แขนของฮั่วเทียนหลันในทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อน : "พี่เทียนหลันคะ เพื่อนของฉันเธอไม่ทันได้ระวัง!"

ฮั่วเทียนหลันรีบดึงแขนของตัวเองออกจากเกาะกุม ก่อนจะก้าวไปด้านข้างเล็กน้อย

การกระทำเช่นนี้เกือบทำให้ฉวนฉีเหลียนที่ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนตัวของฮั่วเทียนหลันล้มลงกับพื้นอย่างน่าอาย

ฮั่วเทียนหลันมองจ้องไปที่ฉวนฉีเหลียนและผู้หญิงอีกคนอย่างไม่ยอมวางตา

ความจริงแล้วฮั่วเทียนหลันก็ยังถือว่าฉวนฉีเหลียนเป็นน้อง แต่ฉวนฉีเหลียนเองก็อย่าได้รนหาที่ตายก็พอ

บางครั้งที่เธอตามวอแวเขาราวกับเด็กงอแงร้องไห้ขอลูกอม เขานั้นก็ยังพอทนได้

แต่ตอนนี้เธอสั่งให้ลูกน้องของตัวเองสาดไวน์แดงลงบนตัวของอันหรัน มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทนต่อไปได้อีกจริงๆ

อันหรันเดินไปข้างๆฮั่วเทียนหลัน ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา : "เทียนหลัน หยุดแค่นี้เถอะเธอคงไม่ได้ตั้งใจ อีกอย่างตอนนี้มีคนกำลังมองมาเยอะแยะเลย... "

ทุกครั้งที่อันหรันยอมความไม่เอาเรื่อง มันยิ่งทำให้ฮั่วเทียนหลันรู้สึกไม่สบายอยู่ในใจ

เธอเป็นนายหญิงน้อยของตระกูลฮัวและเป็นภรรยาของเขา คนที่คอยหาเรื่องเธอต่างก็เป็นพวกอ่อนปวกเปียกหมดทั้งนั้น มีอะไรให้น่าเกรงกลัวนักเหรอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง