โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 398

“ พูดเหรอ”

หยางหลิงรุ่ยพอได้ยินประโยคนี้ก็หัวเราะ

ผู้ที่ผ่านชีวิตมามากในโลกใบนี้ถูกหยางหลิงรุ่ยหัวเราะ

ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนดอกไม้ อาจเป็นลักษณะเฉาะตัวของหยางหลิงรุ่ย?

เขาพูดนอกเรื่อง แต่หยางหลิงรุ่ยไม่พูดนอกเรื่อง

หยางหลิงรุ่ยมองไปที่พนักงานหญิงสองคนของ Yang's Entertainment และไม่ได้ถามพวกเขาว่าทำไมพวกเขาถึงแพร่ข่าวลือและทำให้เธอดูไม่น่าเชื่อถือ

เพราะเธอรู้ดีว่า ถ้าเธอปฏิบัติตัวปกติ ไม่ว่าเธอจะคิดอะไรอยู่ สิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจ หลี่ชานชานในฐานะคนเขียนบท ก็คงจะเขียนเรื่องราวอะไรไว้ในใจแน่นอน

ถ้าอย่างนั้น เธอถามไปอย่างไร คำตอบก็คงถูกกำหนดไว้แล้ว ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้ตกเป็นเหยื่อของอีกฝ่าย

“ คุณได้รับข้อความจากฉันเมื่อไหร่?”หยางหลิงรุ่ยถามประโยคแรกนี้

พนักงานหญิงสองคนมองหน้ากันและมีแววประหลาดใจในแววตา ราวกับว่าตอนที่เขาซ้อมมาไม่มีประโยคคำถามเหล่านี้

ดังนั้น พวกเธอซึ่งทำตัวเก้ๆกังๆ และมองไปที่หลี่ชานชาน

ดูเหมือนว่าต้องการจะถามหลี่ชานชานว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร

นี่ทำให้หลี่ชานชานเคืองเล็กน้อย คนสองคนนี้โง่เขลาเสียจริง? การที่มองมาที่ตัวเธอ ก็เหมือนกับการบอกให้คนอื่นสารภาพไง?

"ตอบคำถาม" ซัวรุ่ยมองไปที่พวกเธอ ในใจของเขามีข้อสรุปที่คลุมเครืออยู่

เรื่องนี้กลัวว่ามันจะไม่มีผลอะไรกับหยางหลิงรุ่ย สำหรับหลี่ชานชานนั้นยากที่จะพูด

" ค่ะ เมื่องสองวันก่อนค่ะ"

ผู้หญิงทั้งสองคนที่ตอบคำถามเธอ ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง เธอจึงสงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว

"อ๋อ? ฉันไปพูดที่ไหนคะ ? แล้วฉันบอกกับคุณอย่างไง"

คำถามของหยางหลิงรุ่ย แต่ละคำถามต้องการรายละเอียดแบบเจาะลึก

แต่คำถามสำคัญที่ว่าทำไปทำไม เธอไม่ได้ถาม เพราะคำถามนี้ มันถูกสารภาพออกมาแล้ว ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรอีกฝ่ายจะมีเตรียมคำตอบที่สมบูรณ์แบบมาไว้แล้ว

"ในบริษัท คุณเรียกเราสองคน ไปที่สำนักงานผู้อำนวยการ"

หญิงสาวร่างผอมพร้อมแล้วที่จะแสดง เธอก็เข้าใจดี เพราะตัวเองเคยทำตอนอยู่มัธยม ในใจว่าตั้งแต่เรียนมัธยมต้นปีที่ 1 ถ้าไม่ทำก็คงหาทางออกไม่ได้

"กี่โมง?"

“ บ่ายสองโมง”

หญิงสาวร่างผอมตอบอย่างรวดเร็ว เธอตามจังหวะของหยางหลิงรุ่ยทันแล้ว

แต่คำตอบของเธอ ทำให้หยางหลิงรุ่ยหัวเราะออกมา

เมื่อสองวันก่อน ตอนบ่ายสองโมง?

เธอไม่เคยเจอสองคนนี้ ในทำนองเดียวกันเด็กสาวสองคนนี้ก็ไม่เคยเจอหยางหลิงรุ่ย

ดังนั้นพวกเขาไม่รู้ว่าเวลาพักของหยางหลิงรุ่ยคือระหว่างบ่ายโมงถึงบ่ายสองโมง และเย่ตงก็อยู่ในห้องทำงานของผู้อำนวยการด้วย

คนสองคนจะคุยกันเรื่องจิปาถะ จากนั้นจะงีบหลับโดยตั้งนาฬิกาปลุกตอนบ่ายสอง หลังบ่ายสองหากที่ไม่มีอะไรเร่งด่วนเกินไป พวกเธอจะดื่มกาแฟสักแก้วหรือดื่มชาเพื่อให้ตัวเองสดชื่นและทำงานต่อไป

ซึ่งนั่น มันก็บ่ายสองโมงครึ่งแล้ว

ระหว่างบ่ายสองโมงถึงบ่ายสองโมงครึ่งเย่ตงอยู่ที่นั่นเสมอ

เป็นไปได้ไหมที่หยางหลิงรุ่ยจะเบลอ จะเรียกพวกเธอมาสั่งการตอนที่เย่ตงอยู่ตรงนั้น?

"หลี่ชานชาน คุณเชื่อพวกเธอไหม?"

หยางหลิงรุ่ยไม่ได้ให้ความสนใจกับผู้หญิงพวกนั้นอีกต่อไป แต่ชี้นิ้วไปที่หลี่ชานชาน

หลี่ชานชานมีสีหน้าหม่นลง เมื่อรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ได้พัฒนาไปในทิศทางที่เหนือการควบคุมของเธอแล้ว

เด็กผู้หญิงสองคนนี้เป็นเพียงคนที่รับผิดชอบหน้าที่ในบริษัท หลี่ชานชานซื้อตัวพวกเขาทั้งสองคน และให้ค่าตอบแทนไปคนละ 50,000 หยวน

ค่าตอบแทนอาจไม่สูง แต่ก็ไม่ต่ำเกินไป เพราะสำหรับพนักงานที่Yang's Entertainment ก็เทียบได้่กับเงินเดือนในหนึ่งปี

หลี่ชานชานเลือกพวกเธอเพราะคำนึงถึงต้นทุน เพราะเงินของเธอไม่ได้หามาง่ายๆ

อีกคนเป็นนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบ เธอย่อมมีความทะเยอทะยาน และถูกหลอกง่าย

อย่างไรก็ตามเธอคำนึงถึงความสะดวกของตัวเองเท่านั้น แต่ไม่สนใจว่าเด็กผู้หญิงสองคนนี้ไม่มีสิทธิ์ติดต่อแผนกภาพยนตร์และโทรทัศน์ของบริษัท

ดังนั้นแสดงว่าไม่เข้าใจระบบการทำงานของแผนกภาพยนตร์และโทรทัศน์ ซึ่งการหาคำตอบก็หาได้จากการทำงานในแผนกนี่เอง

สิง่ที่สำคัญคือ เนื่องจากแผนกบริการค่อนข้างยุ่ง ดังนั้นเวลาทำงานในช่วงบ่าย คือบ่ายโมงครึ่ง

นี่ถือเป็นช่องโหว่

หลี่ชานชานรู้สึกเซ็งไม่น้อย เธอไม่คาดคิดว่าพลาดกลอุบายของหยางหลิงรุ่ยเช่นนี้

"หลี่ชานชาน คุณจะไม่ตอบเหรอ งั้นฉันขอพูดนะ!"

หลี่ชานชานรู้สึกไม่พอใจอยู่พักหนึ่ง และไม่ตอบหยางหลิงรุ่ย

เมื่อหยางหลิงรุ่ยพูดออกมาเธอก็ไม่สามารถหยุดอะไรได้อีกต่อไป

"เรื่องแรก สองวันก่อน ฉันไม่อยู่ที่บริษัท"

หลี่ชานชานตอนแรกต้องการจะฉีกร่างของหยางหลิงรุ่ยไม่ใช่เหรอ?

ทำไมตอนนี้มันกลับกัน?

สีหน้ามท่าทางนี่เปลี่ยนได้รวดเร็วเสียจริง?

"ยังไม่พบผู้บงการในเหตุการณ์นี้ กลับมานั่งลงก่อน"

หลี่ชานชาน มองไปที่สายตาลึกล้ำของหยางหลิงรุ่ย ในตอนนี้เธอรู้สึกสับสนเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ถูก

จู่ๆเธอก็รู้สึกเสียใจ ที่ก่อนหน้านี้เธอดูถูกหยางหลิงรุ่ยมากเกินไป

ผู้หญิงคนนี้ดูอ่อนโยน และมีลักษณะโง่เขลามาก แต่แท้จริงแล้วมันเป็นแค่เรื่องเพียงผิวเผิน

เธอได้แสดงให้เห็นถึงเขี้ยวอันแหลมคมของเธออย่างเต็มที่ในวันนี้

แม้ว่าหลี่ชานชานจะกลับมา แต่เธอก็ได้โยนบัตรออกไป

รหัสผ่านถูกเขียนไว้บนการ์ดและมีเงินสองแสนอยู่ในนั้น

เงินแสนที่มอบให้ในตอนแรก ตอนนี้หลี่ชานชานใช้เงินไปสามแสนแล้วสำหรับเรื่องนี้

แต่มันก็ไม่สำเร็จ

แต่เธอไม่มีทางเลือก เพราะตอนนี้ถ้าหากเธอไม่ปิดปากพวกเขา เธอเองจะเป็นคนที่โชคร้าย

เธอก็แตกต่างจากเด็กผู้หญิงสองคนนี้ ตำแหน่งของเธอกำลังมั่นคง และเมื่อเทียบกับรายได้ต่อปี เงินหลายแสนเหล่านี้เป็นเพียงความเจ็บปวดสำหรับเธอ

"เชลลีย์คุณพบว่าเสื้อผ้าขาดประมาณกี่โมง"

เมื่อเห็นหลี่ชานชานกลับมานั่งลง หยางหลิงรุ่ยก็เริ่มพูดคุยเรื่องนี้อีกครั้ง

เชลลีย์ไม่ได้พูดอะไร เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าหยางหลิงรุ่ยที่ดูอ่อนโยนและสง่างามจะมีด้านที่เฉียบคมเช่นนี้

เธอร้องอุทานออกมา มองไปที่ดวงตาของหยางหลิงรุ่ย ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นเล็กน้อยและหลังจากคิดสักเล็กน้อยเธอก็พูดว่า "น่าจะก่อนหน้านั้นห้าสิบนาที เพราะการแสดงมันกำลังจะเริ่มขึ้น ดังนั้นฉันจึงต้องไปเอาชุดแสดงมาสวม และตรวจสอบเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีที่สุดบนเวที "

"แต่ พอฉันไปที่ห้องการแสดง ฉันเห็นว่าเครื่องแต่งกายของฉันถูกกระจายไปบนโต๊ะและมันก็ถูกเผา"

“ ช่วงนี้มีใครหรือทีมงานคนไหนเข้าและออกจากห้องการแสดงบ้างไหม?” หยางหลิงรุ่ยถาม

เชลลีย์ต้องการจะบอกว่ามีหยางหลิงรุ่ย แต่จู่ๆเธอก็จำได้ว่าเมื่อ เพื่อเธอเข้าไปจัดเตรียม เธอได้เดินผ่านหลี่ชานซานไป

ถ้าหยางหลิงรุ่ยไม่เตือนเธอ เธอก็คงคิดไม่ออก

แต่เมื่อรวมกับคำให้การของคนสองคนที่หลี่ชานชานพามาพบ เชลลีย์ก็รู้เลยว่าใครคือผู้บงการตัวจริง

“ คุณเข้ามากับฉัน และเมื่อฉันเข้ามาฉันก็เห็นหลี่ชานซาน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง