ปกติแล้วเธอก็ถูกผู้ชายคนนี้แกล้งอยู่บ่อยๆดังนั้นถ้ามีโอกาสเธอจะต้องเอาคืนฮั่วเทียนหลันเป็นแน่
แต่ความคิดของเธอก็แหลกสลายไป
เนื่องจากผู้ชายคนนี้ไม่ยอมตอบเธอเลย
ฮั่วเทียนหลันที่นอนอยู่บนตักของหยางหลิงรุ่ยรับรู้ได้ถึงผิดหนังที่นุ่มนวลที่อยู่ใต้กางเกงของเธอ
กลิ่นกายที่เป็นที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอฟุ้งเข้ามาในจมูกของฮั่วเทียนหลัน
ตอนนี้ฮั่วเทียนหลันรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก ความรู้สึกพึงพอใจค่อยๆเติมเต็มหัวใจของเขา
ถึงแม้ว่าท่าทางของทั้งสองคนอาจจะดูแปลกไปสักหน่อย เป็นผู้ชายควรจะให้ผู้หญิงอยู่ในอ้อมแขน
แต่สำหรับฮั่วเทียนหลันแล้ว เป็นแบบนี้แล้วมันจะยังไงหละ?
เขาสัมผัสได้ถึงการเต้นของหัวใจของหยางหลิงรุ่ย ปัง ปัง ปัง....มันเร็วขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอกำลังประหม่า
เขาขยับตัวเล็กน้อยเปลี่ยนท่าที่สบายขึ้นและหลับตาลงในที่สุด
ในห้องที่เงียบสงัด ออร่าของชายคนนี้กำลังซึมซับเข้าไปในร่างกายของหยางหลิงรุ่ย
ดูเหมือนในอากาศจะมีลมหายใจที่คลุมเครือมากขึ้น
หยางหลิงรุ่ยต้องการจะทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัดแบบนี้ เธอเตรียมถามฮั่วเทียนหลันว่าจะลงมาจากหน้าตักของเธอเมื่อใด
แต่เธอก็ลังเลอยู่หลายครั้ง เนื่องจากตอนนี้ฮั่วเทียนหลันกำลังหลับอยู่ ดูเหมือนจะหลับสบายมาก
สุดท้ายเธอก็รวบรวมความกล้าและพูดออกมา
“คุณฮั่ว คุณจะลงมาได้แล้วหรือยัง?”
ถ้าครั้งนี้เธอยังมองไม่ออกว่าฮั่วเทียนหลันแกล้งทำ งั้นหยางหลิงรุ่ยก็คงต้องกลับเข้าไปในท้องแม่ใหม่อีกครั้ง
อย่างน้อยที่สุดก็คือสมองของเธอ
ยังคงไม่มีเสียงอะไรออกมาจากปากของฮั่วเทียนหลัน นอกจากเสียงของหยางหลิงรุ่ยและในห้องก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“คุณฮั่ว?” หยางหลิงรุ่ยตะโกนออกไปอีกครั้ง เธอมั่นใจว่าฮั่วเทียนหลันกำลังแกล้งตาย
แต่ฮั่วเทียนหลันยังคงไม่พูดอะไร
ตอนนี้เหมือนว่าหยางหลิงรุ่ยเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว เธอเอนตัวลงไปมอง และคิดว่าสัญชาตญาณของเธอไม่ถูกต้องจริงๆ
ฮั่วเทียนหลันนอนหลับไปจริงๆ
ดวงตาของเขาปิดแบบธรรมชาติ การหายใจของเขาสม่ำเสมอและดูเหมือนว่าเขากำลังจะฝันดี มีรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากของเขา
หยางหลิงรุ่ยเอนตัวลงไปมองฮั่วเทียนหลัน ถึงแม้ว่ามุมนี้จะค่อยข้างลำบากแต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของเธอในการมองใบหน้าอันหล่อเหล่าของฮั่วเทียนหลัน
ใบหน้าแบบสามมิติขนตายาว และอารมณ์ที่เป็นธรรมชาติทำให้ผู้ชายคนนี้เปล่งประกายออกมาอย่างเย้ายวน
หยางหลิงรุ่ยหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะละสายตา
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากดูต่อแต่ถ้าหากเธอดูต่อไปเธอคงจะน้ำลายไหล
ในกรณีนี้มันจะส่งผลต่อนิสัยใจคอของเธอมากเกินไป
และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือถ้าผู้ชายคนนี้เห็นเข้า ไม่แน่เขาอาจจะเอาประเด็นนี้มาแกล้งเธออีกในอนาคต
แต่เมื่อผ่านไปสักพักหยางหลิงรุ่ยก็เห็นว่าฮั่วเทียนหลันยังไม่ตื่นขึ้นมา
เขาหลับลึกมาก อีกนานกว่าเขาจะตื่น
ดังนั้นเธอจึงเอนตัวลงไปอีกครั้งเพื่อมองหน้าผู้ชายคนนี้อย่างละเอียด
อ่า หล่อจริงๆ ถึงแม้จะบ้าอำนาจแต่ก็มีน้ำใจ
ผู้ชายคนนี้เหมาะที่จะมาเป็นสามีมาก เธอลืมเรื่องราวในอตีดไป แต่อย่างน้อยตอนนี้มันก็เป็นแบบนั้น
หยางหลิงรุ่ยมองไปสักพักเธอก็รู้สึกปวดคอ
และเนื่องจากฮั่วเทียนหลันหนุนตักของเธอมานานจึงทำให้ขาของเธอชา
ความรู้สึกชาแบบนี้มันทรมานจริงๆ หยางหลิงรุ่ยอยากที่จะขยับตัวแต่ก็กลัวคนที่กำลังนอนอยู่อย่างฮั่วเทียนหลันตื่นขึ้นมา
หลังจากผ่านการขัดแย้งในใจของตัวเอง เธอก็ยืดเวลาออกไปอีก 15 นาที แต่สุดท้ายเธอก็ทนต่อไปไม่ได้
เธอสงสัยว่าถ้าหากปล่อยให้ฮั่วเทียนหลันหลับต่อไปแบบนี้ขาข้างนี้ของเธอจะไม่มีเลือดมาเลี้ยงใช่ไหม?
หยางหลิงรุ่ยนำมือทั้งสองข้างของเธอไปไว้ข้างๆศีรษะของฮั่วเทียนหลัน จากนั้นค่อยๆใช้แรงยกศีรษะของเขาขึ้น
ฮั่วเทียนหลันที่หายใจราบเรียบมาโดยตลอด จู่ๆการหายใจก็เร็วขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขากำลังจะตื่นขึ้นมา
หยางหลิงรุ่ยรู้ว่าเวลาเดินอยู่ตลอดเวลา เธอรีบขยับขาออกอย่างทุลักทุเลแต่วินาทีถัดมาจู่ๆฮั่วเทียนหลันก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า “หลิงรุ่ย....”
การเอ่ยชื่อที่แสดงถึงความใกล้ชิดเช่นนี้ทำให้หยางหลิงรุ่ยถึงกับตะลึง
เขากำลังเรียกเธอ? มันก็น่าจะเป็นแบบนั้น ในเมื่อในห้องนี้มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น
“อ่า” หยางหลิงรุ่ยตอบไปเบาๆ เนื่องจากเธอรบกวนการนอนหลับของฮั่วเทียนหลันเธอจึงรู้สึกผิดเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีทางเลือกก็ตาม
“ต้องขอโทษด้วยนะคุณฮั่ว คุณบอกว่านอนบนตักของฉันแล้วคอของคุณจะดีขึ้น แต่คุณนอนมานานขนาดนี้ขาของฉันชาไปหมดแล้วดังนั้นฉันจึงต้อง...”
น้ำเสียงของหยางหลิงรุ่ยแผ่วลง ถึงแม้ว่าสิ่งที่เธอพูดจะเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล แต่สำหรับการแสดงออกของเธอแล้ว ก็เหมือนกับเด็กน้องที่กำลังทำผิดคนหนึ่ง
เธอมองออกไปมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง ตอนนี้ท้องฟ้ามืดสลัวเล็กน้อยมีเมฆสีแดงอยู่บนท้องฟ้าและสวยงามเป็นพิเศษ
ทุกคนล้วนมีความกังวล ความรักเป็นเรื่องของชายและหญิง แต่เรื่องของการแต่งานเป็นเรื่องของครอบครัวทั้งสองฝ่าย
ฮั่วเทียนหลันยังคงมีชีวิตเหมือนเดิม แต่หยางหลิงรุ่ยมีชีวิตที่เปลี่ยนไป
เธอเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลหยางดังนั้นสิ่งที่เธอทำจะไม่สามารถทำเหมือนเด็กสาวของตระกูลอันที่ไร้เดียงสาได้
หยางหลิงรุ่ยมองไปที่ฮั่วเทียนหลันแต่ก็ไม่ได้ตอบรับคำพูดของเขา
ความผิดหวังปรากฏขึ้นในดวงตาของฮั่วเทียนหลัน แต่เขาปกปิดมันไว้อย่างดี
เขาครุ่นคิดสักพักและพูดว่า “คุณนายหยาง ตอนนี้ก็ดึกพอสมควรแล้ว วันนี้อยู่ทานข้าวที่นี่นะ!”
ถึงแม้ว่าหยางหลิงรุ่ยจะรับปากกับป้าdingไว้แล้วว่าวันนี้จะอยู่ทานข้าวที่นี่
แต่ตอนนี้ฮั่วเทียนหลันกลับมาเชิญเธออีกครั้ง แน่นอนเธอต้องปฏิเสธเป็นธรรมดา
“ไม่เป็นไรจะดีกว่า คุณฮั่วฉันต้องกลับไปดูแลลูกสาวที่บ้านของฉัน!”
หยางหลิงรุ่ยพูดแบบนี้เพื่อเตือนฮั่วเทียนหลันว่าอย่าลืมว่าเธอมีลูกสาว
เด็กคนนั้นจะยอมรับฮั่วเทียนหลันหรือไม่นี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง
“ก็ใช่ แต่รออีกสักพักเรื่องแบบนี้ปล่อยให้ผมเป็นคนทำ คุณแค่ดูแลความงามของคุณไปวันๆก็พอ” ฮั่วเทียนหลันพูดอย่างผ่อนคลายและพาทุกอย่างมาที่ตัวเอง
หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะเม้มปาก เขาพูดออกมาแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร เหมือนกับทั้งสองคนแต่งงานกันแล้วและกำลังใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
“ไม่มีความจำเป็นต้องรบกวนคุณฮั่ว ตอนนี้คุณฮั่วก็ตื่นแล้วฉันก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่”
พูดจบเธอก็ดึงขาของเธอออกเบาๆแต่เธอก็ไม่ลืมที่จะนำหมอนมาหนุนแทนให้ฮั่วเทียนหลัน
แต่เธอยังไม่ทันลงมาจากเตียงก็มีเสียงของฮั่วเทียนหลันดังมาด้านหลัง
“คุณนายหยางจะไปจริงๆหรอ?”
“อ่า” หยางหลิงรุ่ยตอบอย่างแน่วแน่
“ไม่อยู่ทานข้าวแล้วหรอ?”
“ไม่อยู่แล้ว” เธอเคยปฏิเสธไปแล้วครั้งหนึ่งเดิยที่เธอคิดว่าฮั่วเทียนหลันจะรั้งเธอไว้แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้น ตอนนี้ถ้าเธอไม่ไปก็คงไม่เหมาะสม
“ถ้าหากฉันขอร้องให้คุณนายหยางอยู่ต่อไปหละ? เหมือนกับว่าผมขอร้องคุณเพื่อตอบแทนการขอบคุณ คุณนายหยางจะว่าอย่าง?”
“หา?” ตอนนี้หยางหลิงรุ่ยตกตะลึงกับคำพูดของฮั่วเทียนหลันที่ว่าอยู่ที่บ้านของตระกูลฮั่วทานข้าวเพื่อเป็นการขอบคุณเขา?
ความรู้สึกแบบนี้ความจริงใจอยู่ที่ไหน? นี่มันไม่ใช่การทานข้าวเฉยๆหรอ?
หยางหลิงรุ่ยมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก แต่เมื่อฮั่วเทียนหลันพูดแบบนี้แวเธอจะปฏิเสธได้อย่างไร?
ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าพร้อมพูดว่า “ถ้าหากฉันอยู่ทานข้าวที่นี่ เรื่องที่คุณฮั่วช่วยฉันเท่ากับว่าเราหายกันแล้วใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง