โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 428

ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของชีวิตเช่นนี้ หยางหลิงรุ่ยราวกับถูกสวรรค์กลั่นแกล้ง

หลังจากผ่านบทเรียนที่ยากลำบาก หยางหลิงรุ่ยจ้องมองรอยคล้ำตรงขอบตาที่เกิดจากการนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ก่อนจะทำการตัดสินใจอะไรบางอย่าง

ความเจ็บปวดระยะยาวไม่ดีเท่าความเจ็บปวดระยะสั้น ในเมื่อหัวใจของเธอได้ตัดสินใจดีแล้ว เธอจะไม่อยากทำตัวอืดอาดอีกต่อไป

เธอตัดขาดการติดต่อกับฮั่วเทียนหลัน

หยางหลิงรุ่ยกลับมาใช้ชีวิตอย่างเดิมอีกครั้ง ที่วกวนอยู่แค่ที่ทำงาน บ้านและโรงเรียน

เธอตัดสินใจดีแล้ว แต่ฮั่วเทียนหลันกลับยังคงมึนงง

เขาพยายามติดต่อหยางหลิงรุ่ยทุกช่องทาง แต่ก็เหมือนจมหายไปในมหาสมุทร ไม่มีการตอบรับใด ๆ จากผู้หญิงคนนี้เลย

เขาโทรหา แต่ก็ไม่มีใครรับสาย

ส่งข้อความไป เธอก็ไม่ตอบกลับมา

เธอไม่ตอบกลับข้อความ WeChat

หลังจากพักฟื้นมาห้าวันจนเขาสามารถกลับไปเดินได้ตามปกติแล้ว สิ่งแรกที่ฮั่วเทียนหลันสั่งให้โจวหยวนทำ ก็คือตรวจสอบการเคลื่อนไหวในช่วงนี้ของหยางหลิงรุ่ย

แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวตามปกติ

เธอยังคงออกจากบ้านหยางทุกวันเพื่อไปทำงานที่บริษัท แต่ตารางเวลาช่วงบ่ายมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ก็คือเลิกงานเร็วกว่าเดิม จากนั้นไปรับชิงหรงที่โรงเรียน

ทุก ๆ วันต่างก็ดำเนินไปเช่นนี้ เธอไม่ได้ออกไปเล่นที่ไหนและไม่มีกิจกรรมนันทนาการอื่น ๆ

แต่จากข้อมูลของโจวหยวน ดูเหมือนว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยจะลดน้อยลงไปมาก

แต่ทำไมถึงลดน้อยลงนั้น ไม่มีเหตุผลที่สามารถบ่งบอกได้ชัดเจน

แต่เหตุผลโดยตรงที่ทำให้คนยิ้มน้อยลงนั้น ฮั่วเทียนหลันเข้าใจดีว่ามันเป็นเพราะเธอไม่มีความสุขยังไงล่ะ

แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้หยางหลิงรุ่ยไม่มีความสุขล่ะ กลัวว่าจะเป็นสิ่งนี้ ที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้ราวกับเป็นผู้ร้ายที่หายสาบสูญไปจากโลกใบนี้

ฮั่วเทียนหลันกำลังคิดหาวิธีเพื่อให้ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้โดยบังเอิญ แต่ก็ประสบกับปัญหา

เขาพบว่ารถของเขาไม่สามารถขับเข้าไปโผล่ที่ Yang's Entertainment ได้อีกต่อไป

และตอนนี้ Yang's Entertainment ก็ใช้วิธีการตอกบัตรเพื่อเข้าไปทำงาน ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการป้องกันไม่ให้คนแปลกหน้าสามารถปรากฏตัวอยู่ข้างในนั้นได้

ความสัมพันธ์กับคนที่ทำงานในบริษัท Yang's Entertainment ก็มีการปรับเปลี่ยนไปแล้ว จึงทำให้ก็ไม่มีใครสามารถช่วยฮั่วเทียนหลันได้ในขณะนี้

ขณะที่ฮั่วเทียนหลันกำลังครุ่นคิดจนปวดสมองอยู่ทางนี้ ลั่นลานที่อยู่ทางโน้นกลับมีความคืบหน้า

ช่วงบ่ายตอนเวลาเลิกเรียน ลั่นลานที่เพิ่งเดินออกมาจากโรงเรียนก็มองเห็นร่างที่แสนคุ้นเคย

ร่างนี้เคยปรากฏอยู่ที่บ้านตระกูลฮัวหนึ่งครั้ง หลังจากได้มอบความสุขให้แก่ลั่นลานในครั้งนั้น ก็ไม่เคยปรากฏมาให้เห็นอีกเลย

ในหัวใจของลั่นลานเต็มไปด้วยความคิดถึงคำนึงหา

เธอจงใจทำเป็นโมโหเพื่อให้ฮั่วเทียนหลันพาหยางหลิงรุ่ยกลับมา

แต่ทว่าการกระทำที่มักจะได้ผลเสมอของเธอนั้น ครั้งนี้กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า

ดูเหมือนว่าคุณพ่อจะไม่มีวิธีพาคุณแม่กลับมาที่บ้านตระกูลฮัวได้เลย

ลั่นลานเป็นเด็กที่มีความคิดเป็นของตัวเองมาก เมื่อเธอเห็นว่าไม่สามารถพึ่งฮั่วเทียนหลันได้ เธอจึงตัดสินใจพึ่งตัวเอง

เธอรีบวิ่งโลดเข้าไปหาและตะโกนเรียกคุณแม่เสียงหวาน

หยางหลิงรุ่ยที่กำลังยืนรอชิงหรงออกมา ร่างกายของเธอก็หยุดชะงักในทันที

เสียงที่คุ้นเคยนี้ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะลดศีรษะลง ก่อนจะมองเห็นใบหน้าเล็กที่น่ารักนั้น

“ลั่น..ลั่นลาน ... ”

หยางหลิงรุ่ยเอ่ยทักทายอย่างผะอืดผะอม

เธอไม่ได้มาคนเดียว บนรถยังมีบอดี้การ์ดอีกสองคน

หนึ่งในนั้นก็บังเอิญยืนอยู่ข้าง ๆ เธอตอนนี้ และเขากำลังมองมาที่หยางหลิงรุ่ยด้วยสายตาแปลก ๆ

หยางหลิงรุ่ยมองเห็นแววตาที่ต้องการพูดซุบซิบนินทาของเขาได้อย่างชัดเจน

ใบหน้าของเธอมีความอึดอัดใจเล็กน้อย แต่ลั่นลานกลับเอื้อมมือมาจับมือของเธอไว้ จากนั้นเอ่ยขึ้นด้วยความรักใคร่ : "คุณแม่ หนูไม่ได้เจอคุณแม่มาหลายวันแล้ว คุณแม่ไปอยู่ไหนมาคะ ไปกัน กลับไปที่บ้านกับลั่นลานนะคะ!"

ขณะที่พูด ลั่นลานก็ออกแรงดึงตัวหยางหลิงรุ่ยไปด้วย เพื่อให้เธอเดินไปขึ้นรถของครอบครัวฮัวที่จอดรออยู่ตรงนั่นด้วยกัน

คนที่มารับลั่นลานบางครั้งก็เป็นป้า Ding บางครั้งก็เป็นโจวหยวน

และคนที่มาในวันนี้คือโจวหยวน ตอนเห็นลั่นลานวิ่งไปอีกทาง โจวหยวนก็เตรียมจะตะโกนเรียกเธอเอาไว้

แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่าทางที่ลั่นลานวิ่งไปนั้นมีหยางหลิงรุ่ยยืนอยู่

ดังนั้นโจวหยวนจึงทำตัวราวกับเป็นคนล่องหนขึ้นมาทันที

หยางหลิงรุ่ยที่ถูกลั่นลานดึงตัวให้เดินตามไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็พูดกำชับกับบอดี้การ์ดเสียงเบาว่า : "พวกนายรอชิงหรงอยู่ตรงนี้นะ ถ้าเธอออกมาแล้วฉันยังไม่กลับมาอีก พวกนายก็พาเธอกลับไปก่อน"

“รับทราบครับ คุณผู้หญิง”

บอดี้การ์ดเฝ้ามองดูหยางหลิงรุ่ยถูกเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ลากออกไป จากนั้นก็หันหน้ากลับมาและมองจ้องตากับบอดี้การ์ดอีกคนที่อยู่บนรถ

“เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวนอกสมรสของคุณผู้หญิงเหรอ”

บอดี้การ์ดที่อยู่นอกรถเริ่มเปิดบทสนทนาขึ้มาก่อน

บอดี้การ์ดที่อยู่บนรถมีอายุมากกว่าเล็กน้อยและอยู่ที่บ้านตระกูลฮัวมา 7-8 ปีแล้ว

การทำงานในสายนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะไรที่ผิดจริยาอย่าดู อะไรที่ผิดจริยาอย่าฟัง

ดังนั้นเขาจึงส่ายหน้าตอบกลับไปและทำท่าบอกให้บอดี้การ์ดคนที่อยู่นอกรถเงียบปาก จากนั้นพูดขึ้นเสียงต่ำ : "เรื่องที่พบเห็นทั้งหมดในวันนี้เก็บให้มิด โดยเฉพาะคำพูดของนายเมื่อสักครู่ อย่าได้พูดขึ้นมาอีกเด็ดขาด!”

ถ้าคิดจะทำงานสายนี้ไปนาน ๆ ก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของผู้ที่อาวุโสกว่า

ดังนั้น บอดี้การ์ดที่อยู่นอกรถคนนั้นจึงหุบปากลงทันที จากนั้นเริ่มสอดส่องหาคุณหนูเล็กของบ้านจากกลุ่มฝูงชน

แต่บอดี้การ์ดคนที่อยู่บนรถกลับตกอยู่ในห้วงความคิด

เด็กหญิงตัวเล็กที่วิ่งเข้ามาเมื่อสักครู่นี้ หน้าตาดูคล้ายกับคุณหนูชิงหรงมาก ๆ!

ลั่นลานดึงมือของหยางหลิงรุ่ยให้เดิมตามมา แต่หลังจากเดินมาได้สองสามเมตรก็ไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป

หยางหลิงรุ่ยชะงักฝีเท้า จากนั้นนั่งยอง ๆ ลงและพูดกับลั่นลานว่า : "เด็กดี วันนี้ฉันไม่ว่างเลย ไปกับหนูไม่ได้หรอก หนูกลับบ้านเองได้ไหมคะ"

เมื่อได้ยินว่าหยางหลิงรุ่ยจะไม่ไปกับตัวเอง ใบหน้าของลั่นลานก็ราวกับพังทลายลงไปในทันที

ลั่นลานส่ายหัวทันที ก่อนจะเอ่ย : "ไม่ใช่ค่ะ"

"แล้วคนที่มารับหนูล่ะ" หยางหลิงรุ่ยเอ่ยถาม เธอรู้สึกว่าเธอไม่ได้มองผิด คนที่เธอมองเห็นเมื่อสักครู่นั้นคือโจวหยวน 100%

เมื่อสักครู่เธอเสียเวลากับลั่นลานเพียงครู่เดียวเท่านั้น แล้วตอนนี้โจวหยวนล่ะ หายไปกับอากาศแล้วเหรอ

"คุณลุงโจวน่าจะกลับไปแล้ว!" ลั่นลานพูดอย่างลังเล

กลับแล้ว? สมองของหยางหลิงรุ่ยชะงักไปชั่วขณะ ราวกับไม่เข้าใจว่าลั่นลานหมายถึงอะไร

โจวหยวนมารับลั่นลานไม่ใช่เหรอ นี่ยังไม่ทันได้รับแต่ทำไมถึงกลับไปก่อนล่ะ

หรือว่านี่คือแผนของเขากับลั่นลานงั้นเหรอ

หยางหลิงรุ่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ต้องปฏิเสธ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและส่งให้ลั่นลาน : "หนูโทรหาลุงโจวให้เขากลับมารับหนูเร็ว!"

แม้ว่าจะไม่รู้ว่าโจวหยวนทำโดยตั้งใจหรือไม่ แต่หยางหลิงรุ่ยรู้สึกว่าลั่นลานได้รับนิสัยของฮั่วเทียนหลันมาเต็ม ๆ เลยล่ะ เจ้าเล่ห์ไม่ต่างกันเลยสักนิด

ลั่นลานไม่ได้รับโทรศัพท์มือถือของเธอมา แต่อีกฝ่ายทำเพียงยักไหล่ก่อนจะพูด : "หนูจำเบอร์โทรศัพท์ของลุงโจวไม่ได้"

“แล้วของคุณพ่อหนูล่ะ”

"เบอร์คุณพ่อ หม่ามี๊น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอคะ"

หยางหลิงรุ่ยนิ่งค้างไปทันที เธอไม่ควรพูดมากจริง ๆ นั่นแหละ

เธอถอนหายใจและพูดว่า : "ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งละกัน!"

แม้ว่าเธอจะรู้สึกไม่ค่อยเต็มใจ พูดอ้อมแอ้มไปมา แต่สุดท้ายเธอก็ยังเป็นคนต้องไปส่งลั่นลานอยู่ดี

แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นก้อนเนื้อที่หลุดออกมาจากร่างกายของเธอ แต่หยางหลิงรุ่ยก็สามารถบังคับตัวเองไม่ให้นับญาติกับอีกฝ่ายได้เช่นกัน

และยังสามารถเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งลั่นลานที่บ้านแทน

แต่เธอไม่วางใจ ถ้าเกิดลั่นลานประสบอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา เธอจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่นอน

นอกจากนี้แล้ว เธอยังจดชื่อโจวหยวนใส่ไว้ในบัญชีอีกด้วย

กล้าดียังไงที่ละทิ้งหน้าที่ไปและปล่อยลั่นลานไว้กับเธอเช่นนี้ กลับไปเธอจะต้องหาทางบอกฮั่วเทียนหลันเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้

ช่วงเวลานี้การจราจรค่อนข้างคับคั่ง และทุกคนต่างก็กำลังรอรถประจำทาง หยางหลิงรุ่ยที่ยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามรถเรียกรถได้เลยสักคัน

เธอเหลือบมองไปอีกด้านเล็กน้อย ตอนนี้รถของบ้านตระกูลหยางออกไปแล้ว ชิงหรงก็คงจะถูกรับกลับไปแล้ว

ดังนั้นเธอจึงจับมือของลั่นลานและเตรียมจะเดินไปเรียกรถแท็กซี่ที่ถนนอีกมุมหนึ่ง

ทันทีที่เดินไปถึงที่หมาย ลั่นลานก็ชี้ไปที่ร้านขนมหวานที่มีคนยืนต่อแถวยาวเยียด ก่อนจะพูดขึ้น : "หม่ามี๊ หนูอยากกินพุดดิ้ง"

ร้านขนมหวานร้านนี้เป็นร้านเล็ก ๆ ข้างทาง แต่กลับขายดิบขายดีจนตอนนี้มีคนต่อแถวรอซื้อเป็นสิบกว่าคนได้

หยางหลิงรุ่ยเหลือบมองเพียงนิดเดียวก็รู้ทันทีว่าถ้าหากจะซื้อขนมร้านนี้ต้องรอไม่ต่ำกว่า 20 นาทีแน่

เธอไม่สามารถเสียเวลาอยู่ที่นี่นานเกินไป อีกทั้งไปส่งลั่นลานกลับบ้านก็น่าจะเป็นเวลาอาหารค่ำพอดี ถ้ากินขนมหวานไปก็อาจจะทำให้ไม่หิวข้าวได้

"ลั่นลาน กลับไปถึงบ้านก็ได้เวลาทานอาหารแล้ว ของหวานทำให้อิ่มง่าย ไม่ต้องกินหรอกเนาะ"

"แต่ว่า หม่ามี๊หนูหิว!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง