โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 442

พอนึกถึงว่าชิงหรงจะได้เจอกับลั่นลานในอนาคต พวกเธอก็คงจะรู้ว่าพวกเธอเป็นพี่น้องกัน

รอยยิ้มที่ขมขื่นปรากฎบนใบหน้าของหยางหลิงรุ่ย

เธอกล้าที่จะคาดหวังเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้หรือไม่?

ความรักของเธอกับฮั่วเทียนหลันเป็นเหมือนสิ่งที่ล่องลอยอยู่ในอากาศจะล่มลงเมื่อไหร่เธอก็ไม่สามารถคาดเดาได้

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพชิงหรงที่กำลังนอนหลับอยู่

เปิดวีแชทไปที่หน้าต่างของฮั่วเทียนหลันเพื่อที่จะส่งรูปให้ แต่จู่ๆเธอก็ลังเลขึ้นมา

สิ่งนี้เหมือนกับว่าจะส่งไปไม่ได้ใช่ไหม?

ถ้าหากผู้ชายคนนี้รู้ว่ายังมีลูกสาวอีกคนอยู่ในบ้านของตระกูลหยาง

ตามนิสัยของฮั่วเทียนหลันแล้ว เขาคงจะมาพาตัวชิงหรงไปจากตระกูลหยางใช่ไหม?

หยางหลิงรุ่ยยิ้มออกมาอย่างขมขื่นอีกครั้ง รอยยิ้มที่บิดเบี้ยวกับอาการที่ตัวสั่น เธอกำลังบังคับให้ตัวเองสงบลงอีกครั้ง

เธอกระตุกปากขึ้น ทำไมเธอถึงคิดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว?

หลังจากที่มองชิงหรงที่หลับอยู่ เธอก็เดินลงไปที่ด้านล่าง

เธอลงไปเก็บของเล่นที่อยู่ในห้องนั่งเล่นจากนั้นก็นั่งดูซีรี่ส์ต่อบนโซฟา

นี่เป็นละครครอบครัวที่กำลังโด่งดังในขณะนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นค่ายเล็กๆและมีฉากจัดแสดงเพียงไม่กี่ห้อง

ละครเรื่องนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของแม่ที่เลี้ยงลูกหลายๆคนด้วยตัวคนเดียว

คนที่ชอบดูละครประเภทนี้ต้องเป็นพวกผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว

ก็เหมือนกับหยางหลิงรุ่ยที่สูญเสียความทรงจำไป แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอก็คงไม่เข้ามาดู

แต่ไม่รู้ว่าทำไมหยางหลิงรุ่ยถึงเข้ามาดูด้วยความสนใจ

เมื่อเห็นแม่และลูกอีกสองคนสูญเสียครอบครัวไปในใจของหยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกเจ็บปวด

เนื่องจากเธออินกับบทละครมากจึงทำให้ดวงตาของเธอแดงขึ้นมา

แต่จู่ๆก็มีคนกดออด

คนที่จะเข้ามาในคฤหาสน์ของตระกูลหยางได้ก็มีแต่คนของตระกูลหยางเท่านั้น

ดังนั้นหยางหลิงรุ่ยจึงทำได้แค่ลุกขึ้นและลุกขึ้นไปเปิดประตูอย่างไม่เต็มใจ

หลังจากเปิดประตู คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของเธอก็พูดออกมาอย่างสุภาพว่า “คุณหนู นายท่านให้คุณไปพบ”

หยางหลิงรุ่ยตกใจ เธอรู้จักคนรับใช้คนนี้ เขาเป็นคนสนิทของพี่ชายของเธอ

“มีเรื่องอะไร?”

เธอถามออกไปโดยไม่ทันคิด เนื่องจากใจของเธอไม่ค่อยดีเธอจึงอยากคุยกับหยางหยวนมานานแล้ว

แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีความกล้าและไม่ได้เข้าไปพบกับเขามาโดยตลอด

“นายท่านไม่ได้พูดอะไร บอกแค่ว่าคุณหนูไปก็จะรู้เอง” คนรับใช้พูดต่อ

หยางหลิงรุ่ยเกิดความลังเล พี่ชายเป็นคนเรียก แน่นอนเธอไม่สามารถปฏิเสธได้

เธอให้คนรับใช้รอหน้าประตูสักครู่ เธอขึ้นไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า สิบห้านาทีผ่านไปเธอก็ลงมาและเดินตามคนรับใช้ไป

“นายท่านคุณหนูมาแล้วครับ”

หยางหลิงรุ่ยเดินตามคนรับใช้เข้ามา คนรับใช้พาหยางหลิงรุ่ยมาที่ห้องอ่านหนังสือจากนั้นก็เคาะประตู

เมื่อมีเสียงออกมาจากด้านใน คนรับใช้ก็ทำท่าเชื้อเชิญให้หยางหลิงรุ่ยเข้าไป

ถึงแม้ว่าในใจของหยางหลิงรุ่ยจะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่เธอก็เก็บมันไว้อยู่ในใจไม่ให้ใครเห็น

เธอเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้อง

ห้องอ่านหนังสือของหยางยานมีขนาดใหญ่มาก มีขนาดถึงยี่สิบกว่าตารางเมตร และด้านในยังมีห้องพักผ่อนส่วนตัว

ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่โต๊ะทำงาน แต่เขานั่งอยู่บนโซฟาถือถ้วยชา จากนั้นเขายกขึ้นจิบและวางมันลง

เมื่อหยางหลิงรุ่ยมองเห็นหยางหยวนก็เกิดความกลัวขึ้นเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ

ถึงแม้ว่าในยามปกติเขาจะไม่ได้อะไรกับเธอมากนัก แต่ด้วยความสัมพันธ์ของพี่น้อง

และช่วงนี้ก็มีเรื่องราวเกิดข้นมากมายทำให้ใจของหยางหลิงรุ่ยรู้สึกมีลางสังหรณ์ขึ้นมา

พอเดินไปถึงตรงหน้าของหยางยาน หยางหลิงรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเด็กๆ

“นั่งเลยหลิงรุ่ย”

เขายิ้มพร้อมพูดออกมา

“ค่ะพี่” หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยนั่งลง มองเห็นใบหน้าของหยางหยวนที่อ่อนโยนอยู่ด้านหน้าเธอ จึงพูดออกมาว่า “พี่ใหญ่ พี่เรียกฉันมากมีเรื่องอะไรไหม?”

“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วเรียกเธอมาดื่มชาไม่ได้หรอ?”

ถ้าหากรู้ความสัมพันธ์ระหว่างหยางหลิงรุ่ยและฮั่วเทียนหลันก็ต้องรู้เรื่องราวเหล่านี้ งั้นคนของตระกูลฮั่วก็คนจะรู้เรื่องมากกว่าคนของตระกูลหยาง

แต่ว่าคนของตระกูลฮั่วจะปล่อยให้ข้อมูลเหล่านี้รั่วไหลหรอ?

หยางหลิงรุ่ยจำได้ในตอนที่เธอไปที่บ้านของตระกูลฮั่ว คนที่นั้นรักใคร่ปรองดองกันมาก รักและดูแลกันอย่างดี

ครอบครัวที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันขนาดนี้จะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นได้อีกหรอ?

หยางหลิงรุ่ยที่ตกอยู่ในความสงสัยจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและทักไปหาฮั่วเทียนหลันผ่านทางวีแชท

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไม่ได้ระบุอัตลักษณ์ที่ชัดเจน

แต่ที่เมืองsแห่งนี้มีผู้ที่มีอิทธิพลทางการเมืองไม่มาก จึงไม่ยากที่จะหาต้นต่อของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้

ตอนที่เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหยางหยวนก็กระแอมออกมา เขาหันหน้าไปมองหยางหลิงรุ่ยยิ้มและพูดออกมาว่า “นี่มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องไปคุยกับฮั่วเทียนหลัน แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับฮั่วเทียนหลันก็ใกล้ชิดกันเสียขนาดนี้แล้วทำไมไม่บอกพี่บ้าง?”

หยางหลิงรุ่ยก้นึกขึ้นมาได้ตอนที่เธอเข้ามาดวงตาของเธอถึงกระตุก

แน่นอนสัญชาตญาณของเธอแม่นยำมาก!

หยางหยวนออกหน้าถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับฮั่วเทียนหลัน นี่ทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกประหลาดใจมาก

ที่ผ่านมาหยางหยวนไม่เคยพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับฮั่วเทียนหลันเลยแม้แต่ครั้งเดียว

มีแต่ตงเหยียนเท่านั้นที่คอยดูแลอย่างห่างๆ

ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะเป็นผลดีสำหรับหยางหลิงรุ่ยก็ตาม

แต่สามีและภรรยาก็มีความคิดที่เหมือนกัน ตอนนี้หยางหยวนถามเธอออกมาถึงความสัมพันธ์ของเธอกับฮั่วเทียนหลัน แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้เขาจะต้องรู้มาจากตงเหยียน

“พี่ใหญ่ เรื่องนี้....”

หยางหลิงรุ่ยมีเหตุผลอยู่ในใจสองสามข้อ ถึงแม้ว่าเธอจะเกียจความรู้สึกของตัวเองที่ถูกคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตลอดเวลา

แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถแยกแยะชั่วดีได้อย่างชัดเจน

แต่ในตอนที่เธอจะพูดออกไป แววตาที่แหลมคมของหยางหยวนก็จ้องมาที่เธอ นั่นทำให้เธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อไป

คนฉลาดอย่างหยางหยวนนี้ เขามองมาที่หยางหลิงรุ่ยแบบนั้นเพราะต้องการให้เธอพูดความจริงออกมา ถ้าเธอมีพิรุจเขาก็สามารถดูออกได้ทันที

ดังนั้นหยางหลิงรุ่ยจึงลังเลอยู่สักพัก สุดท้ายเธอก็ยิ้มออกมาอย่างหดหู่พร้อมกับส่ายหน้า

“ไม่อยากบอกพี่หรอ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง