พอนึกถึงว่าชิงหรงจะได้เจอกับลั่นลานในอนาคต พวกเธอก็คงจะรู้ว่าพวกเธอเป็นพี่น้องกัน
รอยยิ้มที่ขมขื่นปรากฎบนใบหน้าของหยางหลิงรุ่ย
เธอกล้าที่จะคาดหวังเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้หรือไม่?
ความรักของเธอกับฮั่วเทียนหลันเป็นเหมือนสิ่งที่ล่องลอยอยู่ในอากาศจะล่มลงเมื่อไหร่เธอก็ไม่สามารถคาดเดาได้
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพชิงหรงที่กำลังนอนหลับอยู่
เปิดวีแชทไปที่หน้าต่างของฮั่วเทียนหลันเพื่อที่จะส่งรูปให้ แต่จู่ๆเธอก็ลังเลขึ้นมา
สิ่งนี้เหมือนกับว่าจะส่งไปไม่ได้ใช่ไหม?
ถ้าหากผู้ชายคนนี้รู้ว่ายังมีลูกสาวอีกคนอยู่ในบ้านของตระกูลหยาง
ตามนิสัยของฮั่วเทียนหลันแล้ว เขาคงจะมาพาตัวชิงหรงไปจากตระกูลหยางใช่ไหม?
หยางหลิงรุ่ยยิ้มออกมาอย่างขมขื่นอีกครั้ง รอยยิ้มที่บิดเบี้ยวกับอาการที่ตัวสั่น เธอกำลังบังคับให้ตัวเองสงบลงอีกครั้ง
เธอกระตุกปากขึ้น ทำไมเธอถึงคิดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว?
หลังจากที่มองชิงหรงที่หลับอยู่ เธอก็เดินลงไปที่ด้านล่าง
เธอลงไปเก็บของเล่นที่อยู่ในห้องนั่งเล่นจากนั้นก็นั่งดูซีรี่ส์ต่อบนโซฟา
นี่เป็นละครครอบครัวที่กำลังโด่งดังในขณะนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นค่ายเล็กๆและมีฉากจัดแสดงเพียงไม่กี่ห้อง
ละครเรื่องนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของแม่ที่เลี้ยงลูกหลายๆคนด้วยตัวคนเดียว
คนที่ชอบดูละครประเภทนี้ต้องเป็นพวกผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว
ก็เหมือนกับหยางหลิงรุ่ยที่สูญเสียความทรงจำไป แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอก็คงไม่เข้ามาดู
แต่ไม่รู้ว่าทำไมหยางหลิงรุ่ยถึงเข้ามาดูด้วยความสนใจ
เมื่อเห็นแม่และลูกอีกสองคนสูญเสียครอบครัวไปในใจของหยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกเจ็บปวด
เนื่องจากเธออินกับบทละครมากจึงทำให้ดวงตาของเธอแดงขึ้นมา
แต่จู่ๆก็มีคนกดออด
คนที่จะเข้ามาในคฤหาสน์ของตระกูลหยางได้ก็มีแต่คนของตระกูลหยางเท่านั้น
ดังนั้นหยางหลิงรุ่ยจึงทำได้แค่ลุกขึ้นและลุกขึ้นไปเปิดประตูอย่างไม่เต็มใจ
หลังจากเปิดประตู คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของเธอก็พูดออกมาอย่างสุภาพว่า “คุณหนู นายท่านให้คุณไปพบ”
หยางหลิงรุ่ยตกใจ เธอรู้จักคนรับใช้คนนี้ เขาเป็นคนสนิทของพี่ชายของเธอ
“มีเรื่องอะไร?”
เธอถามออกไปโดยไม่ทันคิด เนื่องจากใจของเธอไม่ค่อยดีเธอจึงอยากคุยกับหยางหยวนมานานแล้ว
แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีความกล้าและไม่ได้เข้าไปพบกับเขามาโดยตลอด
“นายท่านไม่ได้พูดอะไร บอกแค่ว่าคุณหนูไปก็จะรู้เอง” คนรับใช้พูดต่อ
หยางหลิงรุ่ยเกิดความลังเล พี่ชายเป็นคนเรียก แน่นอนเธอไม่สามารถปฏิเสธได้
เธอให้คนรับใช้รอหน้าประตูสักครู่ เธอขึ้นไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า สิบห้านาทีผ่านไปเธอก็ลงมาและเดินตามคนรับใช้ไป
“นายท่านคุณหนูมาแล้วครับ”
หยางหลิงรุ่ยเดินตามคนรับใช้เข้ามา คนรับใช้พาหยางหลิงรุ่ยมาที่ห้องอ่านหนังสือจากนั้นก็เคาะประตู
เมื่อมีเสียงออกมาจากด้านใน คนรับใช้ก็ทำท่าเชื้อเชิญให้หยางหลิงรุ่ยเข้าไป
ถึงแม้ว่าในใจของหยางหลิงรุ่ยจะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่เธอก็เก็บมันไว้อยู่ในใจไม่ให้ใครเห็น
เธอเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้อง
ห้องอ่านหนังสือของหยางยานมีขนาดใหญ่มาก มีขนาดถึงยี่สิบกว่าตารางเมตร และด้านในยังมีห้องพักผ่อนส่วนตัว
ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่โต๊ะทำงาน แต่เขานั่งอยู่บนโซฟาถือถ้วยชา จากนั้นเขายกขึ้นจิบและวางมันลง
เมื่อหยางหลิงรุ่ยมองเห็นหยางหยวนก็เกิดความกลัวขึ้นเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ
ถึงแม้ว่าในยามปกติเขาจะไม่ได้อะไรกับเธอมากนัก แต่ด้วยความสัมพันธ์ของพี่น้อง
และช่วงนี้ก็มีเรื่องราวเกิดข้นมากมายทำให้ใจของหยางหลิงรุ่ยรู้สึกมีลางสังหรณ์ขึ้นมา
พอเดินไปถึงตรงหน้าของหยางยาน หยางหลิงรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเด็กๆ
“นั่งเลยหลิงรุ่ย”
เขายิ้มพร้อมพูดออกมา
“ค่ะพี่” หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยนั่งลง มองเห็นใบหน้าของหยางหยวนที่อ่อนโยนอยู่ด้านหน้าเธอ จึงพูดออกมาว่า “พี่ใหญ่ พี่เรียกฉันมากมีเรื่องอะไรไหม?”
“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วเรียกเธอมาดื่มชาไม่ได้หรอ?”
ถ้าหากรู้ความสัมพันธ์ระหว่างหยางหลิงรุ่ยและฮั่วเทียนหลันก็ต้องรู้เรื่องราวเหล่านี้ งั้นคนของตระกูลฮั่วก็คนจะรู้เรื่องมากกว่าคนของตระกูลหยาง
แต่ว่าคนของตระกูลฮั่วจะปล่อยให้ข้อมูลเหล่านี้รั่วไหลหรอ?
หยางหลิงรุ่ยจำได้ในตอนที่เธอไปที่บ้านของตระกูลฮั่ว คนที่นั้นรักใคร่ปรองดองกันมาก รักและดูแลกันอย่างดี
ครอบครัวที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันขนาดนี้จะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นได้อีกหรอ?
หยางหลิงรุ่ยที่ตกอยู่ในความสงสัยจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและทักไปหาฮั่วเทียนหลันผ่านทางวีแชท
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไม่ได้ระบุอัตลักษณ์ที่ชัดเจน
แต่ที่เมืองsแห่งนี้มีผู้ที่มีอิทธิพลทางการเมืองไม่มาก จึงไม่ยากที่จะหาต้นต่อของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้
ตอนที่เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหยางหยวนก็กระแอมออกมา เขาหันหน้าไปมองหยางหลิงรุ่ยยิ้มและพูดออกมาว่า “นี่มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องไปคุยกับฮั่วเทียนหลัน แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับฮั่วเทียนหลันก็ใกล้ชิดกันเสียขนาดนี้แล้วทำไมไม่บอกพี่บ้าง?”
หยางหลิงรุ่ยก้นึกขึ้นมาได้ตอนที่เธอเข้ามาดวงตาของเธอถึงกระตุก
แน่นอนสัญชาตญาณของเธอแม่นยำมาก!
หยางหยวนออกหน้าถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับฮั่วเทียนหลัน นี่ทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกประหลาดใจมาก
ที่ผ่านมาหยางหยวนไม่เคยพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับฮั่วเทียนหลันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
มีแต่ตงเหยียนเท่านั้นที่คอยดูแลอย่างห่างๆ
ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะเป็นผลดีสำหรับหยางหลิงรุ่ยก็ตาม
แต่สามีและภรรยาก็มีความคิดที่เหมือนกัน ตอนนี้หยางหยวนถามเธอออกมาถึงความสัมพันธ์ของเธอกับฮั่วเทียนหลัน แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้เขาจะต้องรู้มาจากตงเหยียน
“พี่ใหญ่ เรื่องนี้....”
หยางหลิงรุ่ยมีเหตุผลอยู่ในใจสองสามข้อ ถึงแม้ว่าเธอจะเกียจความรู้สึกของตัวเองที่ถูกคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตลอดเวลา
แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถแยกแยะชั่วดีได้อย่างชัดเจน
แต่ในตอนที่เธอจะพูดออกไป แววตาที่แหลมคมของหยางหยวนก็จ้องมาที่เธอ นั่นทำให้เธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อไป
คนฉลาดอย่างหยางหยวนนี้ เขามองมาที่หยางหลิงรุ่ยแบบนั้นเพราะต้องการให้เธอพูดความจริงออกมา ถ้าเธอมีพิรุจเขาก็สามารถดูออกได้ทันที
ดังนั้นหยางหลิงรุ่ยจึงลังเลอยู่สักพัก สุดท้ายเธอก็ยิ้มออกมาอย่างหดหู่พร้อมกับส่ายหน้า
“ไม่อยากบอกพี่หรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง