น้ำเสียงของหยางหยวนมีความโกรธแฝงอยู่
แน่นอน ว่าความโกรธนี้แฝงออกมา ความรักของเขาที่มีต่อหยางหลิงรุ่ย ยังไงเขาต้องพูดกับหยางหลิงรุ่ยสักหน่อย
“ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากจะบอก แต่ฉันเห็นว่าไม่มีอะไรที่จะต้องพูด เพราะก่อนหน้านี้ก็จัดการเรื่องของบริษัทกับฮั่วเทียนหลัน ทำให้ฉันละเลยที่จะดูแลชิงหรง”
หยางหลิงรุ่ยพูดเบา ๆ ด้วยบุคลิกแบบคนที่ได้รับการอบรมสั่งสอน
ด้วยความที่เป็นครอบครัวเดียวกัน หยางหยวนก็รู้จักนิสัยใจรู้นิสัยของหยางหลิงรุ่ยแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงเลี่ยงที่จะไม่พูด เขาพูดถึงเรื่องราวในหนังสือพิมพ์แทน
“ หนังสือพิมพ์นั่น ถ้าฉันเดาไม่ผิด ข้อมูลในนั้นมันน่าจะรั่วไหลออกมาจากตระกูลฮั่ว”
เมื่อฟังคำพูดที่เชื่อมั่นของหยางหยวน หยางหลิงรุ่ยก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
ไม่ว่าจะเป็นตระกูลฮัวหรือตระกูลหยางหากข้อมูลร้ายแรงเช่นนี้รั่วไหลออกไป คนๆนั้นอาจจะรอคอยการแก้แค้นครั้งใหญ่
เป็นไปเหรอที่คน ๆ นั้นจะทนได้?
“ จะใช่คนในตระกูลฮั่วหรือคะ? ตามที่ฉันเช็คคนในตระกูลฮั่วแล้ว ฉันรู้สึกว่าพวกเขาก็เป็นคนดีนะคะ ”
หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะวิเคราะห์ในมุมมองของตัวเอง
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางหลิงรุ่ยหยางหยวนก็คิดตาม ดูเหมือนว่าเธอคงจะไปที่บ้านของตระกูลฮั่วอยู่หลายครั้ง
ถ้าไม่งั้น จะรู้จักตระกูลฮั่วมากขนาดนี้ได้ยังไง?
ช่วงนี้หยางหยวนมีเรื่องที่ต้องจัดการมากมาย ดังนั้นจึงมีความประมาทเรื่องราวเกี่ยวกับหยางหลิงรุ่ยอยู่บ้าง
ถ้าไม่ใช่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ หรือถ้าตงเหยียน ไม่มาบอกเขา ความสัมพันธ์ของหยางหลิงรุ่ยกับฮั่วเทียนหลันก็คงใกล้ชิดกันมากขึ้น
เขาคงต้องใช้เวลาสักวันเพื่อคุยกับหยางหลิงรุ่ย
ตงเหยียนตอนแรกก็อยู่ที่นั่น แต่บังเอิญว่าเพื่อนคนหนึ่งโทรมาหาเธอ เธอจึงออกไป
"ข้อมูลในนี้ มันเอนเอียงไปทางตระกูลฮั่ว ยิ่งไปกว่านั้นรายงานนี้เผยแพร่ผ่านช่องทางใต้ดิน ฉันตรวจสอบ เป็นสำนักหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่งทางตอนใต้ ฉันติดต่อกับคนที่อยู่ที่นั่น และส่งคนเข้าไป ก็พบว่าไม่พบกับสำนักหนังสือพิมพ์แห่งนี้ และได้หยุดการผลิตไปหลายปีแล้ว"
ต้องใช้ความกล้าอย่างมากที่จะนำเรื่องราวระหว่างตระกูลฮั่วและตระกูลหยางส่งไปให้หนังสือพิมพ์เมืองZ
ดังนั้นเมื่อหนังสือพิมพ์ออกมา หยางยานจึงส่งคนไปตรวจสอบทันที
แม้ว่าจะเป็นความลับของอีกฝ่าย แต่หยางหยวนก็พบของเบาะแสอย่างรวดเร็ว
แต่ที่เขาบอกกับหยางหลิงรุ่ย ว่าเขาก็ไม่พบอะไรเลย
เบาะแสทั้งหมดจึงขาดหายไป ความสามารถในการปกปิดข้อมูลในการสืบสวนของฝ่ายตรงข้ามนั้นแข็งแกร่งมาก ตระกูลหยางก็ไม่พบอะไรที่นั่น
นี่แสดงให้เห็นว่าหนังสือพิมพ์ที่รายงานข่าวนั้นต้องมีเป้าหมายจงใจชี้าที่ที่ตระกูลหยางหรือตระกูลฮั่ว
สำนักหนังสือพิมพ์แห่งนี้ปิดตัวลงมาหลายปีแล้ว แต่ดันมีข้อมูลรายงานออกมา แสดงว่ามันต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง
ถ้าเป็นมันเจาะจงมาที่หยางหยวน หยางหยวนก็ไม่กลัว เพราะสำหรับเขาช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้การฟันฝ่ากับพายุใหญ่เลย
แต่หยางหลิงรุ่ยนั้นแตกต่างออกไป หยางหลิงรุ่ยมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมานานกว่ายี่สิบกว่ปี
แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องราวในอดีต และก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหยางหยวน
แต่หยางหยวนรู้สึกเสมอว่าเขาควรปกป้องหยางหลิงรุ่ย อย่างน้อยตราบใดที่เขายังอยู่ในตระกูลหยาง หยางหลิงรุ่ยจะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ
แต่เมื่อเรื่องนี้ไม่มีเงื่อนงำหยางหยวนก็กังวลเล็กน้อย
เป็นที่ชัดเจนว่ามีผู้คนจำนวนมากกำลังกดดันหยางหลิงรุ่ย
“ พี่ พี่คิดว่าควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี?"
หยางหลิงรุ่ย ไม่เก่งในเรื่องแบบนี้
การที่หยางหยวนบอกเธอเกี่ยวกับหนังสือพิมพ์ ก็น่าจะมีความคิดอยู่ในใจอยู่แล้ว
“ช่วงนี้เธอยังติดต่อกับฮั่วเทียนหลันหรือเปล่า?” หยางหยวนถามเบาๆ แต่ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ย
การแสดงออกของหยางหลิงรุ่ยนิ่งเฉย และใบหน้าเธอแดงก่ำโดยสัญชาตญาณ
สิ่งนี้ทำให้หยางหยวนรู้สึกเอือมระอาเล็กน้อย เขารู้สึกเหมือนว่าผักกาดขาวที่ครอบครัวของเขาเลี้ยงดูมาอย่างดี แต่กลับถูกหมูของคนอื่นแย่งไป
"ไม่ค่ะ" หยางหลิงรุ่ย ตอบอย่างตรงไปตรงมา
อาจเพราะความห่วงใย และที่สำคัญคือฮั่วเทียนหลันไม่ได้ติดต่อเธออย่างจริงจัง หยางหลิงรุ่ยกับฮั่วเทียนหลันจึงขาดการติดต่อไป
เมื่อได้ยินสิ่งที่หยางหลิงรุ่ยพูด หยางหยวนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เพราะตามคำพูดของตงเหยียน ความสัมพันธ์ระหว่างหยางหลิงรุ่ยและฮั่วเทียนหลันน่าจะดีในตอนนี้ แต่ทำไมถึงไม่มีการติดต่อกันนะ?
"ฉันจำได้ว่าวันก่อนเธอกลับบ้านดึกมาก? เธอไปไหนมาเหรอ?"
หยางหยวนยังคงถามต่อ ซึ่งเขาเองก็รู้คำตอบของคำถามเหล่านี้
แต่เขาต้องการดูว่า หยางหลิงรุ่ยจะโกหกเขาหรือไม่
“ ช่วงนี้บริษัทค่อนข้างยุ่ง เลิกงานฉันก็นัดกันกับเพื่อนๆ บ้างเป็นครั้งคราว ทั้งงานที่บริษัททั้งนัดกับเพื่อนก็เลยกลับดึก ส่วนกับฮั่วเทียนหลันก็มีบ้าง แต่ก็น้อยมาก "
หยางหลิงรุ่ยไม่แน่ใจว่าหยางหยวนรู้เรื่องเธอจริงหรือเปล่า แต่เพื่อที่เธอจะได้ไม่กดดัน จึงเลือกที่จะไม่โกหกพี่ชายของเธอ
เมื่อเห็นว่าหยางหลิงรุ่ยพูดความจริง สายตาของหยางหยวนก็ดูเบาใจลง
หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เขาก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ
กลิ่นชาที่เข้มข้น มีรสขมและหวาน ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายในใจเล็กน้อย
อยู่ใกล้ตัวจริงๆ!
หลังจากอ่านบางส่วน หยางหลิงรุ่ย ก็เก็บข้อมูลกลับเข้าไปในแฟ้ม
“ พี่ใหญ่ พี่ตรวจสอบเรื่องนี้เองหรือคะ?”
"ไม่ ฮั่วเทียนหลันให้คนส่งมาให้"
"อะไรนะคะ?"
หยางหลิงรุ่ยมีข้อสงสัยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างฮั่วเทียนหลันกับหยางหยวนนั้นไม่ดีหรือไม่ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคำเตือนของตงเหยียน ที่บอกว่าตระกูลฮั่วกับตระกูลหยางมีความเกลียดชังกันอยู่ หยางหลิงรุ่ยก็ไม่รู้เหตุผลที่ฮั่วเทียนหลันจะส่งข้อมูลพวกนี้มา
“ ทำไมเขาต้องการให้ข้อมูลกับเรา?” หยางหลิงรุ่ยถาม
“ ฉันโทรหาเขา แล้วก็ตำหนิเขาไปว่า แม้แต่ครอบครัวตัวเองยังปกป้องไม่ได้ แล้วจะไปทำเรื่องอื่นๆได้อย่างไรกัน?”
คำพูดที่ดูเหมือนเรียบง่ายของหยางหยวนแต่กลับเงื่อนงำบางอย่างอยู่ในนั้น
จิตวิญญาณของพี่ชายที่ต้องการปกป้องน้องสาว สิ่งนี้ทำให้หัวใจของหยางหลิงรุ่ยซาบซึ้ง
“ พี่ใหญ่ ... ” เธอไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
เพราะเธอค้นพบว่าเธอกังวลเกี่ยวกับบทบาทของตัวเองในตระกูลหยางมาโดยตลอด
รวมถึงครั้งนี้ ถ้าคนเหล่านั้นถูกหลอกใช้
ข่าวนี้ก็จะนำไปสู่ความปั่นป่วนในตลาดหุ้นของตระกูลหยางและตระกูลฮั่วได้อย่างแน่นอน
และหยางหลิงรุ่ย เธอก็เป็นผู้กระทำความผิด
โชคดีที่ต้นตอของอันตราย ถูกยับยั้งได้ทันเวลา
ไม่เช่นนั้นหยางหลิงรุ่ยไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหยางได้อย่างไร
“ โอเค ฉันไม่ได้ขัดขวางการคบหาของเธอกับฮัวเทียนหลัน”
หยางหยวนมองไปที่ดวงตาสีแดงของหยางหลิงรุ่ย แล้วพูดขึ้น
สิ่งนี้ทำให้หยางหลิงรุ่ยนิ่ง ไม่ขัดขวาง?
แต่แล้วเธอก็คิดถึงคำพูดของหยางหยวนก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะเขาไม่เคยก้าวก่ายเรื่องระหว่างเธอกับฮัวเทียนหลัน
“ ฉันก็แค่คิดว่า คงบางเรื่องที่เธอก็น่าจะอยากรู้ใช่มั้ย?”
หยางหยวนเห็นว่าหยางหลิงรุ่ยไม่ตอบจึงตามไปพูดประโยคอื่น
หยางหลิงรุ่ยตอบรับ ในที่สุดเธอก็เรียกความกล้าหาญและพูดว่า: "พี่ใหญ่ พี่ช่วยบอกฉันเกี่ยวกับสิ่งต่างๆในปีนั้นได้ไหม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง