ชิงหรงคิดว่าแม่ของเธอจะต้องเปลี่ยนใจ แต่เธอก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานที่จัดเจนได้
หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยพาลั่นลานเดินออกไป ชิงหรงที่ยืนอยู่ตรงที่เดิม เธอมองมาที่ฮั่วเทียนหลันด้วยแววตาที่น่ารัก
และฮั่วเทียนหลันก็มองกลับไปที่ตาของเธอ ทั้งสองคนมองตากัน สุดท้ายชิงหรงก็นั่งไม่ติด
“คุณลุง พวกเราไปเข้าบ้านผีสิงไหม?”
ถึงแม้บ้านผีสิงจะระทึกใจมาก แต่จากก้นบึ้งของหัวใจแล้วชิงหรงก็ยังคิดว่ามันไม่เท่าไหร่
ฮั่วเทียนหลันพยักหน้าพร้อมกับจูงมือชิงหรงเดินไป
แต่เมื่อเดินผ่านโลกจำลอง มือของฮั่วเทียนหลันก็หนักขึ้น จู่ๆเขาก็ไม่สามารถดึงมือของชิงหรงได้อีกต่อไป
เขาหันมามองชิงหรงที่เมื่อสักครู่ยังร้องโวยวายว่าอยากไปเล่นบ้านผีสิง แต่ตอนนี้เธอมองไปที่บ้านจำลองที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกับว่าถูกดึงดูดไปแล้ว
“อยากเข้าไปเล่นหรอ?” หยางหลิงรุ่ยถาม
เขาหันไปมอง แบบจำลองนี้เกี่ยวกับปริศนา มาถึงที่นี่แล้วใครหละจะไม่อยากเล่น
เนื่องจากด้านในมีเพียงไม่กี่คนและคนที่อยู่ในนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กผู้ชาย
ชิงหรงขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างน่ารักเหมือนเธอจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเล่นอะไรระหว่างบ้านผีสิงกับแบบจำลองนี้
ฮั่วเทียนหลันอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เขาคุกเข่าลง จากนั้นมองไปที่หน้าของชิงหรงพร้อมกับถามเธอเบาๆว่า “ไม่อยากเล่นหรอ?”
เด็กซื่อสัตย์อย่างชิงหรงส่านหน้า พูดว่าไม่อยากเล่น นั่นแปลว่าโกหก
“งั้นไปเล่นกัน!”
ฮั่วเทียนหลันผลักชิงหรงไปด้านหน้า ตอนนี้ชิงหรงต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อย
หลังจากที่ฮั่วเทียนหลันผลักเธอเข้าไป เธอก็ได้เข้าบ้านแบบจำลองเรียบร้อย
ฮั่วเทียนหลันนั่งมองอยู่ด้านนอก เนื่องจากลั่นลานก็ชอบสิ่งเหล่านี้ด้วย ดังนั้นฮั่วเทียนหลันก็สะสมของเหล่านี้ไว้ไม่น้อย
แน่นอนเขาจะไม่ยอมรับเป็นอันขาดว่าตอนที่เขายังเด็กของเล่นที่เขาชอบเล่นก็คือโมเดล
มาถึงตอนประถม ของเล่นที่ฮั่วเทียนหลันชอบเล่นก็คือโมเดลที่ต้องใชไอคิวให้การประกอบสูง
ไม่นานเขาก็พบว่าความสามารถของมือและเท้าของชิงหรงนั้นสมบูรณ์แบบ
นี่เป็นแค่ความสามารถหนึ่งอย่าง เพียงไม่นานชิงหรงก็ประกอบโมเดลทั้งหมดที่มีอยู่
ทำให้เด็กผู้ชายคนอื่นถึงกับตกตะลึง
มีเด็กชายชาวต่างชาติคนหนึ่งที่ดูเหมือนเด็กอายุห้าหรือหกขวบ เขาใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและต้องการมาท้าแข่งกับชิงหรง
ชิงหรงมีความสนใจในการแข่งขันนี้มาก เธอคิดอยู่นานหลังจากนั้นก็มองไปที่ฮั่วเทียนหลันเหมือนกับว่ากำลังขออนุญาตเขาอยู่
เนื่องจากตอนที่แยกกับหยางหลิงรุ่ย เธอบอกให้ชิงหรงฟังคำสั่งของคุณลุง
แต่ในตอนนั้นชิงหรงก็ไม่ได้พูดอะไร เธอเป็นคนแบบนี้ สุดท้ายเธอก็ทำตามคำสั่งนั้นอย่างสมบูรณ์แบบ
ฮั่วเทียนหลันค่อยๆพยักหน้าเพื่อบ่งบอกว่าอนุญาต
การมีส่วนร่วมในสังคมแบบนี้ของเด็กและพบปะเพื่อนฝูงไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
หลังจากนั้นฮั่วเทียนหลันก็ตกใจมากที่พบว่าการแข่งขันระหว่างชิงหรงกับเด็กผมทองเป็นการกลั่นแกล้งชัดๆ
แน่นอนการกลั่นแกล้งครั้งนี้ไม่ใช่เด็กผมทองกลั่นแกล้งชิงหรง
แต่เป็นชิงหรงที่เป็นคนกลั่นแกล้งเขา
พวกเขาทั้งสองคนเริ่มต่อโมเดลพร้อมกัน แต่หลังจากไม่นาน ชิงหรงก็ต่อเสร็จแล้ว
ฮั่วเทียนหลันบีบนาฬิกาเพื่อหยุดเวลา ในตอนที่เขาหันไปมองนาฬิกาเขาก็ต้องตกใจ ชิงหรงใช้เวลาไปเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้น
ต้องรู้ก่อนว่าสมัยตอนที่ฮั่วเทียนหลันเป็นเด็ก เขาต่อโมเดลที่ง่ายกว่าที่ชิงหรงกำลังต่ออยู่ตอนนี้เขายังต้องใช้เวลาถึงยี่สิบนาที
ฮั่วเทียนหลันมองไปที่ชิงหรงด้วยแววตาที่อยากรู้อยากเห็น เนื่องจากเขาคิดไม่ออกจริงๆว่าต้องเป็นพ่อแม่แบบไหนถึงให้กำเนิดลูกที่ฉลาดขนาดนี้ออกมา
และสุดท้ายเด็กที่เป็นอัจฉริยะคนนี้ตอนนี้เธอเรียกหยางหลิงรุ่ยว่าแม่
นั่นหมายความว่าหลังจากที่ฮั่วเทียนหลันได้อยู่ร่วมกันกับหยางหลิงรุ่ยแล้ว ส่งแรกที่เขาจะได้พบเจอก็คือเด็กสาวที่มหัศจรรย์คนนี้
หลังจากที่ชิงหรงต่อเสร็จแล้ว เด็กผมทองก็ต้องตะลึง
เขาไม่คิดว่าจะมีคนที่ต่อโมเดลได้ไวขนาดนี้
เขาปฏิเสธที่จะยอมรับความพ้ายแพ้ เขาคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้คงถนัดการต่อโมเดลบ้าน เขาจึงท้าชิงหรงแข่งใหม่อีกครั้ง
ครั้งนี้ชิงหรงไม่ได้มาขออนุญาตฮั่วเทียนหลัน เธอตอบรับไปทันที
เด็กทั้งสองคนแข่งกันต่อไปอีกห้าครั้ง ทั้งหมดเป็นของที่สวนสนุกจัดเตรียมให้ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรแตกต่างกัน
แต่ถ้าหากว่าพวกเขาใช้เวลาต่อกันถึงสองสามชั่วโมง เด็กคนอื่นที่มาที่นี่จะเล่นอะไรกันหละ?
ฮั่วเทียนหลันเฝ้ามองชิงหรงอยู่ตั้งแต่ตอนแรกแข่งขัน ทุกครั้งชิงหรงสามารถเอาชนะเด็กผมทองได้อย่างเด็ดขาด
สีหน้าที่ไม่ยอมรับความพ้ายแพ้ของเด็กผมทอง ค่อยๆเปลี่ยนไป
สุดท้ายก็มาถึงการแข่งขันในตอนจบ เขาไม่ได้ทำอะไรเลย เขามองมาที่ชิงหรง ชิงหรงต่อโมเดลที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างรวดเร็ว
ฮั่วเทียนหลันมองเห็นเด็กผมทองที่แพ้อย่างราบคาบก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
ไม่แปลกที่เด็กผมทองคนนี้ไม่คิดที่จะต่อโมเดลและไม่คิดที่จะแข่งกับเธอต่อไป
ความสามารถของชิงหรงนั้นแกร่งเกินไป
ถ้าหากเป็นฮั่วเทียนหลัน เมื่อเขาแพ้ชิงหรงในเกมแรกแล้วเขาจะไม่มีทางแข่งกับเธอต่อในเกมที่สอง
ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนรับความพ้ายแพ้ไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นตอนเด็กหรือตอนนี้ฮั่วเทียนหลันก็เป็นคนที่ยอมรับความเป็นจริงหรือความล้มเหลวต่างๆได้อย่างง่ายดาย
ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าสู้ไม่ได้จะทำให้ขายหน้าตัวเองไปเพื่ออะไ?
มองเห็นเด็กผมทองที่ยอมรับความพ้ายแพ้กำลังกล่าวชมชิงหรงอย่างจริงใจ
ฮั่วเทียนหลันก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เด็กคนนี้มีบุคลิกเฉพาะตัวจริงๆ
แต่ตอนนี้ก็มีคู่สามีภรรยาชาวต่างชาติมาเรียกชื่อของเด็กผมทองนั้น เขามีชื่อว่า สแตนฟอร์ด
เมื่อได้ยินชื่อขิงเด็กคนนี้ฮั่วเทียนหลันถึงกับตกใจ
สัญชาตญาณบอกเขาว่าเด็กผมสีทองตัวเล็ก ๆ คนนี้จะต้องเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมในอนาคตอย่างแน่นอน
แค่ได้ยินชื่อของเด็กคนนี้ สแตนฟอร์ด เขาก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก
เป็นชื่อที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ
เมื่อเด็กผมทองได้ยินที่พ่อแม่เรียก เขาก็บอกลากับชิงหรง
แค่การอำลาของเขาในสายตาของคนอื่นก็เหมือนกับการแก้แค้นโดยเจตนา
ตอนแรกๆฮั่วเทียนหลันก็ยังคงเป็นมือใหม่ ทำอะไรไปบ้างครั้งก็ไม่ค่อยจะดี
แต่เมื่อทำไปนานแล้วๆเขาก็คุ้นชินกับมัน
ตลอดสองปีที่ผ่านมา ฮั่วเทียนหลันดูแลลั่นลานมาเป็นอย่างดี
จากคนที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ กลับกลายมาเป็นพ่อที่ดูแลเอาใจใส่ลูกอยู่ตลอดเวลา
ฮั่วเทียนหลันคิดไม่ถึงว่าชิงหรงจะมีอะไรในใจ เขาแค่บอกให้เธอยืนดีๆ หลังจากนั้นก็เริ่มมัดผมให้เธอ
แม้ว่าเขาจะมีความเชี่ยวชาญ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ละเอียดอ่อนมากนัก แต่เขาก็ช่วยชิงหรงจัดผมของเธอให้เป็นระเบียบและมัดมันอีกครั้ง
แต่ไม่รู้ว่าทำให้ชิงหรงถึงรู้สึกไม่ค่อยสบายผม มีอะไรแปลกๆ
แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดตรงไหน
หลังจากที่เธอส่องกระจกอยู่หลายครั้งเธอก็ยอมแพ้
เนื่องจากไม่ว่าเธอจะพบว่ามีตรงไหนไม่ดี ก็เห็นได้ชัดว่าฮั่วเทียนหลันก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรให้กับเธอได้
หลังจากที่ทำผมให้ชิงหรงเสร็จแล้ว ฮั่วเทียนหลันก็พาเธอเดินไปที่บ้านผีสิง
ตอนที่สวนสนุกแห่งนี้เปิดใหม่ๆสิ่งที่น่าพิศวงที่สุดก็คือบ้านผีสิง
การสร้างของมันเป็นการผสานระหว่างนวัตกรรมจีนกับตะวันตกทำให้มีความหลากหลาย
ดังนั้นเมื่อผู้คนเข้าไปเล่นก็จะส่งเสียงกรีดร้องออกมา
หลังจากออกมาแล้วก็อยากที่จะเข้าไปใหม่อีกครั้ง
แต่สวนสนุกแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองs ซึ่งเป็นเมืองที่ไม่ได้ใหญ่ และบ้านผีสิงก็ไม่ได้เหมาะกับเด็กๆจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไหร่
ในหนึ่งวันรับแขกแค่สิบกว่ากลุ่ม
แน่นอนส่วนมากจะเป็นผู้ปกครองที่พาเด็กๆเข้ามา ส่วนคู่รักหนุ่มสาวนั้นมีน้อยมาก
มีคนมากมายกังวลว่าเด็กๆจะตกใจกับของสิ่งนี้ดังนั้นจึงพากันไม่ให้เด็กเข้ามา
และตอนนี้ฮั่วเทียนหลันพาชิงหรงมาต่อที่ด้านหน้าประตู
เนื่องจากเธอคือชิงหรงจึงอยากเล่นกิจกรรมนี้
ฮั่วเทียนหลันหาวิธีเพื่อเอาใจลั่นลาน
ลั่นลานเหมือนคุณปู่แก่ๆ ที่เขาต้องทำตามคำสั่งโน่นนี่นั่น เกลี้ยกล่อมกันพักใหญ่ หยางหลิงรุ่ยก็เข้ามา เธอจึงไม่ค่อยต่อต้าน
“อยากเล่นไหม?” มองไปที่บ้านผีสิงที่ดูสยองขวัญตรงหน้า พร้อมกับฟังคู่หนุ่มสาวที่เพิ่งเดินออกมา พวกเขาเดินมาด้วยใบหน้าซีดเซียว และพวกเขายังคงพูดถึงสิ่งที่น่ากลัวข้างใน แม้ว่าได้อ่านคำวิจารณ์ในเว็บมากมายแต่สุดท้ายก็ต้องถามชิงหรงเพื่อตัดสินใจอีกครั้ง
ชิงหรงได้ยินคู่รักเมื่อสักครู่พูดกัน และเธอก็ยืนอยู่ข้างๆพวกเขาจึงได้ยินมันอย่างชัดเจน
คนผู้ชายถูกซอมบี้สองคนอุ้มไป
และผู้หญิง เธอมองไปที่หลุมศพ ทันใดนั้นก็มีเลือดพุ่งขึ้นมาและจู่ๆก็มีคนพาตัวเธอเข้าไปในโรงศพนั้น
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงตะโกนของเธอ
ไม่ใช่เพราะเธอไม่อยากตะโกน แต่เป็นเพราะเธอกลัวจนไม่สามารถตะโกนออกมาได้
ถึงแม้ว่าชิงหรงอยากจะเล่นอะไรที่ท้าทาย แต่ก็ไม่อยากจะเข้าไปกับเขา
เธอครุ่นคิดอยู่ในใจ สุดท้ายเธอก็ตะโกนออกความในใจออกมา “ไป ไปแน่นอน อย่าให้ผู้ชายคนนี้รู้ว่าเธอมีความรู้สึกกลัวอยู่ในใจ ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องรังแกเธอ เธอก็รู้ถึงเหตุผลที่เขาพาเธอมา ก็เพราะว่าเขาต้องการแย่งแม่ของเธอไปจากเธอ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง