โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 471

คำพูดของหยางหลิงรุ่ยทำให้ฮั่วเทียนหลันตกใจ

คำพูดที่เขาพูดออกมาเมื่อสักครู่นั้นออกมาจากจิตใต้สำนึกของเขา ดังนั้นเป็นการขอโทษหรือไม่เขาก็ไม่ได้คิดมากขนาดนั้น

แต่หยางหลิงรุ่ยก็พูดออกมาแล้ว ดังนั้นเขาก็ต้องแสดงความรักต่อผู้หญิงคนนี้อย่างจริงใจ

“คุณสามารถเข้าใจแบบนั้นก็ได้ เพราะเมื่อก่อนผมทำไม่ดีกับคุณไว้เยอะมาก!”

ฮั่วเทียนหลันพูดออกปะร้อมกับยื่นมือไปกุมมือของหยางหลิงรุ่ยไว้

เขาจับมันไว้แน่นราวกับว่ามีความกังวลในใจตราบใดที่เขาปล่อยมือของหยางหลิงรุ่ย เขาจะสูญเสียหยางหลิงรุ่ยไป

เมื่อต้องเผชิญกับความเสน่หาที่รุนแรงจากผู้ชายนี้ หยางหลิงรุ่ยก็หดตัวลงอย่างไม่รู้ตัว

เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนกล้าหาญ อย่างน้อยเมื่อเผชิญกับความเป็นจริงบางอย่าง หากทำได้เธอก็อยากทำตัวโง่ ๆ ต่อไป

“ขอโทษด้วย ฉันทำอะไรไม่ได้เลย”

คำพูดที่คลุมเครือของเธอทำให้ฮั่วเทียนหวาดกลัว

ฮั่วเทียนหลันกุมมือของหยางหลิงรุ่ยไว้แน่น จากแรงที่กระทำบ่นฝ่ามือนั้นทำให้หยางหลิงรุ่ยขมวดคิ้วขึ้นมา

“คุณฮั่ว เจ็บ...”

หยางหลิงรุ่ยคิดว่าเธอพูดออกไปแบบนี้ฮั่วเทียนหลันจะต้องปล่อยมือเธอแน่ๆ

แต่ไม่นานเธอก็รู้ว่าเธอคิดผิดไปแล้ว

ฮั่วเทียนหลันต้องการขังหยางหลิงรุ่ยไว้ในคฤหาสน์ของเขา เพื่อที่เธอจะได้อยู่กับเขาตลอดไป

แต่การกักขังนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่นึกถึงจิตใจของเธอเลยไหม?

เขาไม่ได้ปล่อยมือทันที แต่ภายใต้สัญชาตญาณของเขาแล้ว ฮั่วเทียนหลันก็ค่อยไปล่อยมือออก

“อันหรัน คุณลืมเรื่องราวทั้งหมดผมก็สามารถเล่าให้คุณฟังได้ทุกเรื่อง แค่คุณกลับมา มาอยู่ข้างผม กลับมาหาลั่นลาน กลับมาที่ตระกูลฮั่ว....”

ตอนที่ฮั่วเทียนหลันพูดถึงคำสุดท้าย ชายผู้ที่แข็งแกร่งคนนี้ก็มีร่องรอยของการสั่นเทาในน้ำเสียงของเขา

หยางหลิงรุ่ยมองไปที่ฮั่วเทียนหลันอย่างลึกซึ้ง ถ้าบอกว่าไม่หวั่นไหวก็โกหกแล้ว

แต่เธอที่ลืมเรื่องราวทั้งหมดไปจะทำอย่างไรถึงจะคุ้นเคยกับชีวิตใหม่?

เธอไม่สามารถเพิกเฉยต่อความคับข้องใจที่ตระกูลหยางมีต่อตระกูลฮั่วก่อนหน้านี้ได้

“คุณฮั่ว คุณบอกว่าฉันชื่ออันหรัน ฉันมีลูกสาวหนึ่งคนชื่อลั่นลาน แต่ฉันจำอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้ฉันจำได้เพียงอย่างเดียวคือการมีชีวิตอยู่ที่ตระกูลหยาง และส่วนที่เหลือที่คุณกำลังจบอกฉัน ฉันจะรู้ได้ไงว่าคุณไม่ได้หลอกฉัน?”

การรู้ความจริง ไม่ได้แปลว่าหยางหลิงรุ่ยจะยอมรับกับความเป็นจริงนั้นได้ ถ้าหากตอนที่เธอได้ยินความจริงแล้วเธออาจจะรับไม่ได้ก็ได้

สุดท้ายเธอก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับฮั่วเทียนหลันนั้นลึกซึ้งเพียงใด

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตอนนั้นพวกเธอจะรักกันมากแค่ไหนก็เถอะ สุดท้ายตอนนี้เธอก็จำอะไรไม่ได้อยู่ดี

ตอนนี้เธอมีชื่อว่าหยางหลิงรุ่ย มีลูกสาวหนึ่งคนชื่อชิงหรง และเกิดในตระกูลหยาง

อย่างน้อยข้อมูลที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ไร้ที่ติ

“ผมไม่ได้หลอกคุณ!”

คำตอบที่ฮั่วเทียนหลันตอบมานั้นมีเพียงแค่ห้าพยางค์

แต่การแสดงออกของเขาไม่ได้มีแค่คำพูด แต่ยังมีทัศนคติของเขา

เขาสื่อความหมายออกไปทั้งในรูปของคำพูดและการแสดงออก

เขาจะปฏิบัติต่อเธอด้วยความจริงใจและจะไม่มีวันหลอกลวงเธอ

“ตอนที่ฉันรู้จักกับคุณฉันก็ยังเด็ก และตอนที่ฉันคลอดลั่นลานออกมา ฉันก็ยังเป็นเด็ก ไม่ว่าเวลาไหนฉันเป็นแค่คนธรรมดาที่ดิ้นรนอยู่ก้นบึ้งของสังคม....”

หยางหลิงรุ่ยพูดเบา ๆ แต่หันหน้าไปทางแนวสายตาของฮั่วเทียนหลัน หลังจากนั้นเสียงนั้นต่ำลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็หายไปอย่างสมบูรณ์

เหมือนกับดวงตาของฮั่วเทียนหลันนั้นพูดได้

แม้ว่าหยางหลิงรุ่ยจะพยายามที่ทำทุกอย่างให้เป็นปกติตอนคุยกับฮั่วเทียนหลัน

แต่สายตาของฮั่วเทียนหลันนั้นราวกับกำลังบอกเธอว่าเธอกำลังโกหกตัวเอง เธอกำลังสับสนกับหัวใจของตนเอง เธอพยายามทำเหมือนคนตาบอดและปฏิเสธที่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเอง....

หยางหลิงรุ่ยทำได้แค่ยอมรับความพ้ายแพ้ในที่สุด

“ตอนแรก ผมเป็นคนทำกับคุณไม่ดีเอง และการที่ได้พบกับคุณนั้นก็เป็นอุบัติเหตุ และผมก็ไม่ได้ดูแลคุณอย่างดีดังนั้น อันหรัน.....”

“คุณฮั่ว ฉันคือหยางหลิงรุ่ย”

เมื่อได้ยินคำที่ฮั่วเทียนหลันเรียกเธอ หยางหลิงรุ่ยก็เงยหน้าขึ้น และพูดขัดจังหวะของฮั่วเทียนหลันไปอย่างนุ่มนวล

“หลิงรุ่ย ได้โปรดเชื่อใจฉัน ต้องมีสักวันหนึ่งความจำของคุณจะคืนกลับมา ผมเชื่อแบบนั้น แต่ตอนนี้ผมแค่อยากจะดูแลคุณตลอดทั้งชีวิตของผม!”

แววตาที่จริงจังของฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกหวั่นไหว

ทำสาบานของผู้ชายคนนี้เข้าไปอยู่ในใจของหยางหลิงรุ่ยแล้ว

มีเสียงตะโกนดังอยู่ตลอดว่า ถ้าหากไม่ตอบรับเขาไปในครั้งนี้แล้ว ต่อไปหยางหลิงรุ่ยอาจจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สองแล้ว

ผู้ชายคนนี้รู้สึกกับเธอจริงๆ โดยมีฟ้าและสวรรค์เป็นพยาน

หัวใจของหยางหลิงรุ่ยหวั่นไหวมาก เธอหลับตาลงเพราะไม่อยากให้ฮั่วเทียนหลันเห็นแววตานั้นของเธอ

“ฉันยังเด็กขนาดนี้ก็มีลั่นลานแล้ว คุณฮั่วหรือว่าตอนนั้นคุณเป็นคนบังคับฉันมา?”

หยางหลิงรุ่ยต้องทำเป็นปากแข็งและพูดประโยคนี้ออกไป

ฟังฉบับของหยางหลิงรุ่ยไปแล้ว ยังมีฉบับของฮั่วเทียนหลันอยู่

ฮั่วเทียนหลันในตอนนั้นมีหรอจะบังคับเธอ ถึงแม้มันจะเป็นแค่อุบัติเหตุ

เมื่อได้ยินหยางหลิงรุ่ยพูดออกมาแบบนี้ ฮั่วเทียนหลันก็มองต่ำลง

ใบหน้าของเขาไม่ได้สูญเสียความหวังไปทั้งหมด ตอนนี้ความหวังของเขาหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง

เขาปล่อยมือออกจากหยางหลิงรุ่ย

หยางหลิงรุ่ยพูดจบก็เปิดประตูห้องครัว

ความหมายของจัดเจนอยู่แล้ว เรื่องราวที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาเอง

มีความหมายอีกอย่างที่เขาไม่ได้พูดและเขารู้สึกว่าหยางหลิงรุ่ยก็เข้าใจเขาอยู่แล้ว

เขาอยากอยู่เงียบๆและคิดอะไรตามลำพัง

หยางหลิงรุ่ยเม้มริมฝีปากของเธอ ในที่สุดเธอก็ปัดเป่าความคิดที่จะปลอบโยนฮั่วเทียนหลัน

เนื่องจากเธอรู้ดีกว่าการปลอบโยนที่ดีที่สุดของฮั่วเทียนหลันก็คือการกลับมาอยู่ข้างกายเขา

หยางหลิงรุ่ยเดินออกมาจากห้องครัว เธอไม่ได้กลับไปที่ห้องนั่งเล่นในตอนแรก และเดินไปที่ห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่ง

เธอโน้มตัวเพื่อมองตัวเองในกระจก

โชคดีที่แม้ว่าฮั่วเทียนหลันจะมีอำนาจเหนือกว่า แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้บนใบหน้าของเธอ

แค่รอยลิปสติกที่อยู่บนปากของเธอที่มีรอยด่างๆหลงเหลืออยู่ นั้นมันเกิดขึ้นเนื่องจากผู้ชายคนนี้จูบเธอเพื่อสนองความต้องการของเขา

กระเป๋าของเธออยู่ในห้องนั่งเล่นและถ้าเธอเดินกลับไปหยิบมันลูกสาวของเธอทั้งสองก็จะเห็น

เด็กสองคนนี้ฉลาดมาก หยางหลิงรุ่ยไม่สงสัยเลยหากพวกเขาเห็น พวกเขาจะนึกถึงความเป็นจริงได้อย่างชัดเจน

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจอย่างชาญฉลาด

เธอเปิดก๊อกน้ำและล้างหน้าโดยทันที

น้ำทำให้ผมที่กระจัดกระจากอยู่บนใบหน้าของเธอเปียกชุ่ม และอุณหภูมิบนใบหน้าของเธอก็ลดลงอย่างมาก

หยางหลิงรุ่ยคิดเหตุผลเอาไว้ดีแล้ว ถ้าหากเธอเดินออกไปแล้วมีคนถามเธอว่าล้างหน้าทำไม เธอก็จะตอบไปว่าในห้องครัวร้อนเกินไปเธอจึงออกมาล้างหน้าสักหน่อย

หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยเดินออกมาจากห้องน้ำเธอก็เห็นคนรับใช้กำลังจัดโต๊ะเพื่อเตรียมที่จะจัดวางอาหาร

ป้าdingกำลังไปปิดทีวีและพาชิงหรงกับลั่นลานมาทานอาหาร

แต่เด็กทั้งสองคนนั้นยังไม่รู้สึกหิวแม้แต่นิดเดียว

ป้าdingที่เห็นหยางหลิงรุ่ยเดินออกมาก็ส่งสายตาของความช่วยเหลือมาทางเธอ

หยางหลิงรุ่ยกระแอมในลำคอพร้อมพูดว่า “เด็กๆมาทานข้าว!”

เธอพูดออกมาแค่ไม่กี่คำแต่ผลของมันมากกว่าที่ป้าdingพูดออกมาเยอะเลย

ชิงหรงและลั่นลานรีบวิ่งมาที่โต๊ะอาหาร และเมื่อชิงหรงเห็นหยดน้ำบนใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยเธอก็ผงะแล้วถามออกมาว่า “ทำไมแม่ถึงล้างหน้าหละคะ?”

“ในห้องครัวร้อนมาก” หยางหลิงรุ่ยอธิบายออกไป

เธอรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย เธอเป็นคนที่ไม่มีไหวพริบแต่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้เพราะความคิดที่ผ่านมาเท่านั้น

แต่หยางหลิงรุ่ยประเมินความสามารถของเด็กๆต่ำเกินไป

ชิงหรงจึงพูดออกมาอย่างดื้อรั้นว่า “ถ้าอย่างนั้นแม่ก็ต้องแต่งหน้าใหม่ ไม่อย่างนั้นรอยตีนกาก็จะโผล่ออกมา!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง