โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 472

พอพูดประโยคนี้เสร็จชิงหรงก็รู้ตัวว่าเธอไปสะกิดต่อมของหยางหลิงรุ่ยเข้าแล้ว เธอจึงรีบวิ่งหนีออกมา

รอยตีนกาสามคำนี้เหมือนกับสายฟ้าที่ผ่าลงมากลางใจของหยางหลิงรุ่ย

นี่มันเกียจอะไรได้แบบนั้นจริงๆ คำพูดของชิงหรงไปสะกิดต่อมตรงกลางใจของหยางหลิงรุ่ย

เธอรีบล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบกระจกออกมาส่อง

เป็นอย่างที่ชิงหรงพูด ที่ขอบตาของเธอมีรอยตีนกาเล็ก แต่ถ้าหากไม่สังเกตดีๆก็ไม่สามารถมองเห็นได้

หยางหลิงรุ่ยหัวเราะในใจ เธอรีบหยิบครีมบังรุงขึ้นมาทาอย่างเอาจริงเอาจัง

และคนที่เห็นเรื่องราวความวุ่นวายอย่างนี้มาโดยตลอดอย่างป้าdingก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

การที่เธอได้เจออันหรันในครั้งนี้ ตอนแรกเธอคิดว่าทำให้เธอคุ้นเคยขึ้นมาก

แต่ดูจากตอนนี้ เธอเปลี่ยนชื่อเป็นหยางหลิงรุ่ย เธอาจจะถูกตระกูลหยางชุบเลี้ยงมาเป็นอย่างดี ตอนนี้ก็เหมือนกับเด็กคนหนึ่ง

หยางหลิงรุ่ยใช้เวลากว่าสิบนาทีในการแต่งหน้าทาปาก หลังจากเธอส่องกระจกดูอีกครั้งและไม่พบว่ามีร่องรอยใดๆเธอถึงสบายใจขึ้น

ในตอนที่เธอวางกระจกลง แต่รู้สึกว่าดูเหมือนจะมีแรงกดดันที่มองไม่เห็นซึ่งจะบีบคั้นเธอ

เธอเงยหน้าขึ้นจากนั้นก็เห็นเงารูปร่างสูงใหญ่อยู่ด้านหน้าเธอ

ฮั่วเทียนหลันกำลังมองเพื่อเร่งเธออยู่

“คุณฮั่ว มีอะไร?”

หยางหลิงรุ่ยรู้สึกเขินอายเนื่องจากชายคนนี้เห็นตอนที่เธอกำลังแต่งหน้าอยู่

อะไรคือสิ่งที่ผู้หญิงกลัวมาที่สุด? ไม่ใช่ไม่อยากให้ผู้ชายรู้ว่าตนเองมีร่องรอยแห่งการเวลาใช่หรือไม่?

“แต่งหน้าเสร็จแล้วหรอ?”

ฮั่วเทียนหลันตอบมาแบบผิดหวังเบาๆ

“อ่า”

“งั้นก็ทานข้าวกัน!”

ฮั่วเทียนหลันยื่นมือออกมา จับมือเธอโดยพลการจากนั้นก็จูงเธอมาที่โต๊ะอาหาร

ที่โต๊ะมีเก้าอี้วางอยู่ 5 ตัว และแต่ละที่นั่งก็แบ่งแยกไว้ชัดเจน

ป้าding ลั่นลาน และชิงหรงนั่งอยู่ฝั่งหนึ่ง ส่วนฮั่วเทียนหลัน1และหยางหลิงรุ่ยนั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง

วิธีการแบบนี้ทำให้หยางหลิงรุ่ยค่อนข้างตะกุกตะกัก

เนื่องจากมีเด็กนั่งอยู่ด้านหน้าเธอจึงไม่อยากแสดงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับฮั่วเทียนหลัน

แต่หลังจากที่เธอนั่งตะกุกตะกักอยู่หลายวินาทีก็พบว่าเด็กทั้งสองคนก็ทำท่าทางเป็นปกติ ทำให้เธอรู้สึกระอายในใจ

ตอนแรกก่อนที่จะทานข้าวเธอคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฮั่วเทียนหลันน่าจะคลุมเครือมากกว่าเดิม

แต่เด็กสองคนนี้ทำเหมือนกับทุกอย่างเป็นปกติ

อาหารบนโต๊ะ 6 อย่าง วูป 1 อย่าง เป็นอาหารที่ฮั่วเทียนหลันเป็นคนทำ

นอกจากอาหารจานที่ 4 และซุป เห็นได้ชัดว่าฮั่วเทียนหลันทำขึ้นมาใหม่

หยางหลิงรุ่ยนึกถึงเวลาหลังจากตอนที่เธอออกมาจากห้องครัว จากนั้นเธอก็ตกประหลาดใจ ผู้ชายคนนี้เป็นสัตว์ประหลาด

เขาทำอาหารพวกนี้โดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

ในช่วงเวลาครึ่งชั่วโมงนี้เป็นเพราะเธอคิดมากเกินไป เนื่องจากเมื่อสักครู่เธอเห็นผู้ชายคนนี้มายืนอยู่ด้านหน้าและมีท่าทางที่ดีขึ้น

ตอนแรกป้าdingอยากจะแบ่งซุปแต่ก็ถูกฮั่วเทียนหลันห้ามเอาไว้

เขาหยิบถ้วยซุปของป้าdingเข้ามา จากนั้นก็ตักเสิร์ฟที่ละถ้วยตามอายุ

สุดท้ายถึงเป็นของเขา

อาหารที่ฮั่วเทียนหลันทำนั้นเป็นอาหารทั่วไปแต่ว่ารสชาติของมันนั้นเกินคำบรรยาย

ฝีมือของเขาไม่เคยตกจริงๆ

เป็นอาหารมื้อที่สนุกสนาน เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องครัวเมื่อสักครู่ทำให้เธอเกิดความตึงเครียดไปไม่น้อยพลังงานของเธอจึงถดถอย

ดังนั้นเธอจึงทานอาหารมื้อนี้อย่างเอร็ดอร่อยและทานมากกว่าปกติถึงสองเท่า

และในตอนที่เธอทานจนอิ่มแล้ว เธออยากจะลุกแต่ก็ลุกไม่ขึ้น

เธอทานมากเกินไปจนทำให้อาการเฉื่อยชา

นี่ทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

แต่โชคดีที่ในโต๊ะมีแต่คนกันเอง เมื่อเธอมองขึ้นไปก็เห็นป้าdingกำลังยิ้มให้เธอ

และชิงหรงกับลั่นลานก็มองมาที่เธอด้วย

ตอนแรกหยางหลิงรุ่ยอยากจะช่วยป้าdingเก็บชามเก็บช้อนแต่ป้าdingก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่จะใช้เธอ

“คุณนายหยาง ถ้าคุณยังมีเวลาก็สอนการบ้านลั่นลานสักหน่อยเถอะ!”

สอนการบ้าน? หยางหลิงรุ่ยตกตะลึง

แต่ถึงก็นึกขึ้นได้ว่าเรื่องเล็กๆแบบนี้มันก็เป็นเรื่องที่เธอควรทำอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับฮั่วเทียนหลัน ทุกวันเธอตรวจและสอนการบ้านของชิงหรง

ถึงแม้ว่าทุกครั้งชิงหรงจะทำออกมาได้ดี ในสมุดการบ้านของเธอไม่เคยพบความผิดพลาดมาก่อน

อย่างไรก็ตามในฐานะของคนเป็นแม่เธอมีหน้าที่ในการรับผิดชอบและสั่งสอนลั่นลาน

เธอก้าวไปข้างหน้าปิดทีวีกึ่งบังคับและดึงลั่นลานที่มีสีหน้าขมขื่นขึ้นไปชั้นบน

เธอเคยมาที่นี่แล้วดังนั้นเธอรู้ว่าห้องนอนของลั่นลานอยู่ที่ไหน

ตอนแรกชิงหรงไม่อยากตามไปด้วยเพราะไม่อยากเห็นห้องนอนที่น่ารักของลั่นลาน แต่เมื่อได้ยินว่าลั่นลานจะขึ้นไปทำการบ้านเธอก็สนใจขึ้นมา

บทเรียนบทเดียวกัน หากให้หยางหลิงรุ่ยท่อง ไม่ว่าจะให้เวลาเธอกี่ชั่วโมง เธอก็คงอ่านไม่เข้าใจสักรอบ

ในเวลานั้นหยางหลิงรุ่ย ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพ่อของชิงหรงคือใคร

เพราะถ้าเด็กฉลาดแบบนี้ ก็ต้องเหมือนใครสักคนในครอบครัว

เพราะIQของหยางหลิงรุ่ย ไม่ต้องพูดถึงเลย เธออายทุกครั้งที่ต้องมาท่องจำอะไรแบบนี้

หลังจากรู้ว่าพ่อของชิงหรงคือฮั่วเทียนหลันทันใดนั้น เธอก็ไม่แปลกใจ

มีเพียงฮัวเทียนหลันเท่านั้นที่สามารถให้กำเนิดเด็กที่ฉลาดเช่นนี้ได้

หยางหลิงรุ่ย นั่งบนเตียงและดูเด็กทั้งสองคนที่กำลังยุ่ง

ในช่วงเวลานั้นลั่นลานดูเหมือนความคิดของเธอจะชะงักไปสักพักขณะที่เธอวาดภาพ ชิงหรงที่กำลังเรียนอย่างตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ ก็ชูนิ้วขึ้นมา

หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกัน ลั่นลานก็วาดต่อ

เสียงของทั้งสองไม่ดังมาก ลั่นลานนึกไอเดียไม่ออก ซึ่งหยางหลิงรุ่ยก็ได้ยิน

ทุกความเข้าใจของชิงหรง อาจกล่าวได้ว่าจี้ถูกจุดสำคัญ

หากเธอไม่มีปัญหาอะไรหล่ะก็ มันก็คงเป็นการจัดองค์ประกอบตามที่ชิงหรงพูด เธอแสดงว่ามันเป็นปัญหาในการจัดองค์ประกอบ ที่ยังดูเด็กๆอยู่

อย่างไรก็ตามนี่เป็นประสบการณ์สะสมมาไม่นาน หยางหลิงรุ่ยเองก็ยอมรับว่าตอนที่เธออายุเท่าชิงหรง ก็เคยค้นพบกับปัญหาเหล่านี้

เด็กๆฉลาดมาก!

หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ขณะที่เธอมองไปที่ลูกสาวสองคนที่กำลังดูยุ่งๆ

เธอถอนหายใจแล้วก็ใจคอห่อเหี่ยวเล็กน้อย เพราะเธอรู้สึกเสมอว่าว่าต้องคอยดูเด็กๆทั้งสองเติบโตไปเรื่อยๆ

เธอไม่ใช่คนที่มีสมองหรือมีไหวพริบ ทำอะไรก็จัดว่าไม่ดี

หยางหลิงรุ่ยลุกขึ้นบนเตียงเบาๆ ชิงหรงหันหน้าไปมองเธอทันที

หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยมองไป เธอก็หันกลับไปอย่างรวดเร็ว

หยางหลิงรุ่ย เดินไปที่ระเบียงช้าๆ หน้าต่างของระเบียงเปิดอยู่แล้ว และติดมุ้งลวดไว้แล้วสำหรับฤดูร้อนนี้

เนื่องจากมีแสงสว่าง ยุงจำนวนมากจึงรวมตัวกันอยู่นอกมุ้งลวด

หยางหลิงรุ่ยที่เป็นคนขี้กลัวอยู่แล้ว ก็รู้สึกขนลุกขนพอง

เธอมองไปที่ดวงจันทร์สว่างภายนอก ดวงจันทร์สว่างมาก เป็นแสงสีเหลืองที่ดูอบอุ่น

ท้องฟ้ามีดวงดาวเยอะมาก และเห็นได้ชัดว่าพรุ่งนี้อากาศดี

เธออยากให้เวลาหยุดอยู่กับที่

ปล่อยให้ทั้งสามคนอยู่ชั้นบน รวมทั้งอีกคนที่อยู่ชั้นล่าง มีชีวิตอยู่อย่างเงียบ ๆ ในคฤหาสน์นี้

สุขสบายและสวยงามแบบนี้ ไปตลอดกาล!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง