เมื่อเห็นหยางหลิงรุ่ยวางกาแฟลง พนักงานก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจ "ผู้อำนวยการหยางครับ กาแฟนี้มีชื่อเสียงและแพงมาก คุณสามารถดื่มด่ำกับมันก่อรอีกหน่อยนะครับ อันนี้ผู้อำนวยการของเราไปอินโดนีเซีย การซื้อในแหล่งกำเนิดที่แท้จริงที่สุด ที่มีการหมุนเวียนอยู่นอกตลาด ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่นะครับ ..."
หยางหลิงรุ่ยแค่นเสียงอืม แต่ทว่ายังคงตัดบทด้วยการส่ายหน้า
เธอรู้แน่นอน ว่ากาแฟนี้มีชื่อเสียงและแพงมาก ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกาแฟที่ที่ดีที่สุดในโลก เพียงอันเดียว
อีกทั้งรสชาติของกาแฟอันนี้ เป็นอย่างที่พนักงานบอกเหมือนกัน ดีมาก ๆ ยังคงหอมติดปากและฟัน
ตอนที่หยางหลินรุ่ยเคยดื่มกาแฟครั้งก่อนนั้น เทียบกับครั้งนี้ ยังคงมีความแตกต่างกันเล็กน้อย
ที่จริงแล้ว แหล่งกำเนิดไม่เหมือนกัน ผลผลิตออกมาก็ไม่เหมือนกันนี่เอง
ทว่า...
การแฟอันนี้ ตอนที่ดื่มลงไป มักจะทำให้หยางหลินรุ่ยรู้สึกไม่ดีอยู่เล็กน้อย
ก็เป็นเพราะว่า หยางหลินรุ่ยตั้งแต่ต้นจนจบยังไม่ได้พบกับกาแฟที่มีชื่อเสียงและแพงที่สุดเลย
สักพัก คนของอัลฟ่าเวิร์คช็อปก็เดินเข้ามา
หลังจากที่พนักงานเห็นคนเข้ามา ก็ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
เดิมทีเขาคิดว่า น่าจะเป็นเพียงระดับหัวหน้างานที่มาคนหนึ่ง แต่คิดไม่ถึงว่า แท้จริงแล้วประธานอัลฟ่าจะมาด้วยตัวเอง
"คุณหยาง ได้ยินชื่อเสียงมากเนิ่นนานนะครับ!"
。
เจ้าของอัลฟ่าเดินผ่านมา ก้มตัวลงเล็กน้อย และจับมือกับหยางหลินรุ่ย
ท่าทีนี้ของเขา เห็นได้ชัดว่าเอาหยางหลินรุ่ยไว้สูงกว่าตำแหน่งของเขา
นี่ทำให้พนักงานด้านนี้ อึ้งจนปากค้างไป
การเดินทางที่ฝ่าลมมรสุมนี้ เรียกได้ว่าไม่เคยประนีประนอมกับอำนาจใด ๆ เพียงแค่มีสไตล์การเป็นประธานอัลฟ่าของตนเอง ที่แท้ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นคนนอบน้อมขนาดนี้แล้วหรอ?
นี่แบ่งประเภทได้ชัดเจน ว่าเป็นพฤติกรรมที่ประจบประแจง!
หยางหลินรุ่ยก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ที่แท้ประธานของอัลฟ่าเวิร์คช็อป ก็เป็นผู้อวุโสของอาชีพแล้ว
ก่อนหน้าที่หยางหลินรุ่ยยังไม่ปรากฏรายชื่อชื่อในการแข่งขันการออกแบบ เขาได้รับชื่อเสียงแล้ว
จากสุนทรียศาสตร์ของหยางหลินรุ่ย ความจริงแล้วเธอกลับไม่ค่อยชอบผลิตภัณฑ์ของอัลฟ่าเวิร์ช็อปนัก
แต่นั่นเป็นเพียงชุดแรกเท่านั้น และการออกแบบก็ยากมากจริง ๆ
หลังจากนั้นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมา ก็ทำลายวิธีการคิดที่หยางหลินรุ่ยมีต่อประธานอัลฟ่า
ผลงานในภายหลัง เห็นได้ชัดว่ามีการเชื่อมต่อกับตลาดเล็กน้อย และใช้การออกแบบบางอย่างที่สาธารณชนสามารถยอมรับแบบถู ๆ ไถ ๆ ไปได้บ้างเล็กน้อย
พฤติกรรมที่ติดดินเช่นนี้ ทำให้หยางหลินรุ่ยชื่นชมเป็นอย่างมาก
ที่แท้ นักออกแบบส่วนใหญ่ ทำเพื่อสไตล์ของตนเอง และต่างก็มีเอกลักษณ์ของตนเอง
ในโลกนี้ สุนทรียศาสตร์มีหลายประเภทขนาดนั้น
ความมีเอกลักษณก็หลากหลาย จึงทำให้คนมีความรู้สึกที่แตกต่างการเวลาสวมใส่เสื้อผ้า
ผลิตภัณฑ์ของครั้งสุดท้าย มีความเป็นไปได้ที่จะใม่หมุนเวียน
"ท่านประธานอัลฟ่าคะ ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว ที่ฉันมาที่นี่ เพียงแค่อยากให้ท่านช่วยเหลือเสื้อผ้าของฉันไม่กี่ชุดเองค่ะ"
ระยะเวลาจำกัดมาก หยางหลินรุ่ยกับประธารอัลฟ่าพูดอย่างเกรงใจกันสองสามประโยค แล้วหยิบเอกสารการออกแบบออกมา
ตอนที่ประธานอัลฟ่าเห็นการออกแบบชุดแต่งงานที่อยู่ด้านบนสุดนั้น สายตาก็เป็นประกายอย่างชัดเจน
หลังจากนั้นพลิกดูชุดที่เหลืออีกไม่กี่แผ่น ตอนที่วางลงอีกครั้ง ก็มองไปด้านในสายตาของหยางหลินรุ่ย ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกนับถือ
"ผลงานของคุณหยาง ทำประโยชน์ให้ผมมากมายจริง ๆ
หยางหลินรุ่ยคิดว่านี่เป็นคำแสดงความเกรงใจของประธานอัลฟ่า จึงทำเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย
ทว่าสิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ ทุกประโยคที่ประธานอัลฟ่าพูด ล้วนเป็นความจริงจังทั้งหมด
เช่นเดียวกับที่เขาจะยกย่องผลงานของหยางหลินรุ่ย มันจึงเป็นเรื่องธรรมดา
ดูเอกสารจบ ทั้งสองจึงเริ่มพูดหัวข้อหลัก
หยางหลินรุ่ยพูดถึงเสื้อผ้าที่เขาอยากได้เล็กน้อย จนไปถึงวัสดุที่ใช้อย่างละเอียด
และประธานอัลฟ่าเวิร์คช็อป เขาได้หันไปเรียก ผู้อำนวยการฝ่ายตัดเย็บเสื้อผ้าที่ดีที่สุดสองคนในร้าน และบวกกับตัวเอง ทั้งสามคนสื่อสารกันอย่างจริงจัง
ตั้งแต่วิธีการจัดวางเส้น ไปถึงวิธีการตกแต่งอย่างไร และการเย็บพิน วิธีที่จะทำให้ผู้สวมใส่สบายขึ้นทำอย่างไร
เรื่องแบบนี้คนภายนอกมักจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญนัก แต่ทว่าพวกเขากลับถกเถียงกันอย่างจริงจังมาก
หยางหลินรุ่ยเชื่อมาตลอด ทำเพียงตั้งใจฟังและยอมรับความคิดเห็น นั่นจึงสามารถเรียนรู้ได้ไม่มีที่สิ้นสุด
เช่นเดียวกับตอนนี้ เธอที่รู้สึกว่าผลงานสมบูรณ์แบบมาก แต่เมื่อคนเหล่านี้ถกเถียงกัน เธอจึงได้รู้ปัญหาต่าง ๆ ที่ละเอียดเป็นอย่างมาก
หยางหลินรุ่ยหากระดาษวาดรูปที่นั่น พรางเริ่มแก้ไขแบบขึ้นมาใหม่ เร็วมาก ชุดทั้งสามก็ทำเสร็จ
ต่อมา ก็พูดคุยกันเรื่องราคา
พูดตามเหตุผล เรื่องค่าคอมมิชชั่นประเภทนี้ แม้ว่าจะเป็นสายอาชีพเดียวกัน แต่ราคาขอของอีกฝ่ายก็จะสูงเป็นพิเศษ
ที่จริงแล้ว มีเพียงคนในเท่านั้นที่รู้ปัญหาที่ซ่อนอยู่ อัตราในการทำซ้ำก็มีสูงมาก
แต่ครั้งนี้ การเปิดราคาของประธานอัลฟ่าเวิร์คช็อป เกินคาดของหยางหลินรุ่ย
ราคาที่เขาให้ ที่แท้ก็ถูกกว่าราคาในตลาดทั่วไป ถึงหนึ่งในสาม
เดิมทีหยางหลินรุ่ยอยากให้มากกว่าราคาตลาดทั่วไปถึงสองเท่า เพราะเธอรู้ เสื้อผ้าเหล่านี้หากทำขึ้นมาก็ไม่ง่ายขนาดนั้น ดังนั้นเธอจึงต้องให้กำลังที่มากพอกับประธานอัลฟ่าเวิร์คช็อป
แต่เมื่อเกินความคาดหมาย ประธานอัลฟ่าเวิร์คช็อปจึงปฏิเสธโดยตรง
สำหรับเขาแล้ว การร่วมมือกับนักออกแบบอย่างหยางหลินรุ่ย สำหรับผู้คนในเวิร์คช็อปแล้ว มันเป็นการเติบโตที่สมบูรณ์แบบครั้งหนึ่ง
ดังนั้นเรื่องเงิน เขาจึงไม่ได้ให้ความสำคัญ
ถ้าในอนาคตมีโอกาส เขาก็หวังว่าจะได้ร่วมงานกับหยางหลินรุ่ยเพิ่มมากขึ้น
ไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นไปได้ราบรื่นขนาดนี้ หยางหลินรุ่ยแสดงความขอบคุณ แล้วจากไป
วันนี้ชิงหรงมีประชุมผู้ปกครอง เธอจึงต้องรีบไปร่วมงาน
ประธานอัลฟ่าเวิร์คช็อปที่กำลังมองรถจากไปไกล รอยยิ้มที่ไม่อาจบรรยายได้ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
ความจริงแล้วที่เขาเพิ่งพูดเมื่อสักครู่นี้ คือเรื่องจริงและปลอมผสมกัน
ความจริง เขารู้ตัวตนของหยางหลินรุ่ย แล้วก็ชอบผลงานทั้งหมดของหยางหลินรุ่นอีกด้วย
แต่สิ่งเหล่านี้ กลับไม่ใช่เหตุผลที่ประธานอัลฟ่าเวิร์คช็อปจะให้กำไรกับหยางหลินรุ่ยเป็นกอบเป็นกำ
ที่สำคัญที่สุดคือ อัลฟ่าเวิร์คช็อป ความจริงแล้วไมใช่บริษัทเออกชนแห่งหนึ่ง
พูดถึงไม่คาดคิด คือเธอคิดไม่ถึงว่า สายของหยางหลินรุ่ยจะโทรมาช้าขนาดนี้
และสิ่งที่เธอคาดคิดไว้ เธอรู้จักนิสัยของหยางหลินรุ่ย แม้ว่าเธอจะพูดอย่างนั้น อย่างนั้นหยางหลินรุ่ยก็หามาได้ และปลอบใจเธอเล็กน้อย
"หลินรุ่ย..." หลังจากรับสาย ฉีหลานตะโกนเสียง และไม่ได้ทำเสียงอีก
หยางหลินรุ่ยด้านนั้นเงียบลงสักพัก หลังจากที่รอให้ฉีหลานดูเหมือนว่าจิตใจสงบลง จู่ ๆ หยางหลินรุ่ยก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มพูดอย่างไรดี
"พี่หลาน ตอนนี้พี่ว่างมั้ย?"
เธออ้าปากเล็กน้อย สุดท้ายก็ได้ได้พูดประเด็นหลักโดยตรง และพูดคำที่เกรงใจออกมาเป็นชุด
"อือ อยากกินข้าวมั้ย?"
เมื่อเขาเห็นคำพูดที่ยากลำบากของหยางหลินรุ่ย ฉีหลานก็เอาประเด็นหลักของหยางหลินรุ่ยพูดออกมาโดยตรง
นี่ทำให้หยางหลินรุ่ยอึ้งในทันที ในใจก็ควบคุมไม่ได้และก็รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย
นี่อาจจะเป็น เพื่อนกันล่ะมั้ง!
ตัวเองเพียงแค่โทรศัพท์เข้ามาหนึ่งสาย อะไรก็ไม่ได้พูด ฝ่ายตรงข้ามก็เข้าใจความหมายของเธอแล้ว
"อืม แต่ เธอรู้ได้ยังไง! พี่หลาน" หยางหลินรุ่ยเอ่ยอย่างไม่รู้สึกตัว
ความรู้สึกที่เข้าใจกัน ความจริงแล้วยังทำให้เธอสงสัยอยู่
"เธอโทรมาหาฉัน ถ้าเรื่องงาน ถ้าเรื่องเที่ยวเล่น ยังมีเรื่องที่เป็นไปได้เรื่งที่สามอีกหรอ?"
คำพูดของฉีหลานเอ่ยแบบสบาย ๆ ทำให้หยางหลินรุ่ยไม่มีอะไรจะพูดในทันที
หลังจากที่ทั้งสองนัดสถานที่กันเรียบร้อยแล้ว ต่างคนก็ต่างออกเดินทาง
หยางหลินรุ่ยลงลิฟต์ ตอนที่กำลังจะเดินไที่ลานจอดรถ จู่ ๆ ก็เห็นเงาที่คุ้นเคยอยู่ด้านหน้า
ราวกับว่าคนคนนั้นกำลังค้นหาอะไรอยู่ กำลังก้มหน้ามองโทรศัพท์ มือก็กำลังเลื่อนตลอดเวลา
หยางหลินรุ่ยไปด้านหน้า ตั้งใจอยู่ด้านหลังเขาแล้วจี้เข้าไปที่เอวของเขา
จู่ ๆ เอวก็ถูกโจมตี ทำเอาหลี่ซือหยวนตกใจ
แม้ว่าเขาจะเป็นประธาน Young Entertainment แต่จะไม่พูดไม่ว่า ที่บริษัทก็สั่งคนอย่างเปิดเผย ไม่มีใครเป็นศัตรูเขาได้
แต่ตอนที่เขาอยู่ตัวคนเดียวด้วยตัวเอง เขาก็ขี้ขลาดมาก
หลี่ซือหยวนแทบจะไม่รู้สึกตัว นิดเดียวก็กระโดดไปได้ครึ่งเมตร
นี่ทำให้หยางหลินรุ่ยงงไปชั่วขณะที่ตรงนั้น ต้องรู้ว่า มุมนี้ของหลี่ซือหยวน ถ้าทำไม่ดีครั้งหนึ่ง อาจจะทำให้เอวเขาหักได้!
และ แม้ว่าจะใช้คำว่าหล่อมาจำกัดความหลี่ซือหยวนได้
แต่เขากลับมีภูมิฐาน และก็ไม่ใช่ความหล่อเหลาประเภทนั้นที่จะมานิยามได้
น้ำหนักของเขา เหมาะกับเกณฑ์มาตราฐาน
ความเคลื่อไหวที่คล่องแคล่วอย่างนี้ คามจริงแล้วก็ทำให้หยางหลินรุ่ยประหลาดใจ
"ประธานหลี่ นายเคยเรียนยิมนาสติกมาก่อนหรอ?"
ตอนที่หยางหลินรุ่ยพูดคำนี้ออกมา เพียงแค่มีความหมายล้อเล่นเท่านั้น
แต่หลี่ซือหยวนที่ยังไม่ได้้สติกลับมา กวาดสายตาไปมองคนด้านหลังอย่างน่าเกลียดที่แท้ก็เป็นหยางหลิยรุ่ย ทันใดนั้นก็เอ่ยด้วยท่าทีที่ไม่ดีนัก "แน่นอน ไม่งั้นเธอคิดว่าท่าทางนี้คนทั่วไปก็สามารถทำออกมาได้หรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง