โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 492

หลี่ซือหยวนจะแต่งงาน?

หยางหลิงรุ่ยในตอนนี้ อยากจะขยี้หูของตัวเองแรง ๆ เธอสงสัยว่าตัวเองฟังหลอนไป

"กับใครคะ?"

เธอแทบจะไม่รู้ตัวแล้วถามออกไป แม้ว่าในใจจะมีคำตอบอยู่แล้ว แต่หยางหลิงรุ่ยก็อยากที่จะทำให้แน่ใจสักหน่อย

วันนี้เจอเรื่องที่น่าประหลาดใจ อยู่หนึ่งเรื่อง

นี่ทำให้หยางหลิงรุ่ยที่มีจิตใจไม่ค่อยดีมากอยู่แล้ว ต้องคิดสักหน่อย

เมื่อคิดถึงท่าทีที่ลังเลของหลีซือหยวนเมื่อครู่ จู่ ๆ เธอก็หวาดกลัว กลัวว่าจะได้ยินข่าวร้ายเกี่ยวกับเพื่อน

"เธอคิดว่าไงล่ะ?"

หลี่ซือหยวนถามกลับหนึ่งประโยค ทำให้หยางหลิงรุ่ยวางใจลงอีกเล็กน้อย

จู่ ๆ เขาก็พูดอย่างนี้ คนที่เขาบอกว่าจะแต่งงานด้วยอย่างนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นถงหยวินถิง

"จะเป็นไปได้ยังไง รีบขนาดนี้เลยหรอ!

หยางหลิงรุ่ยที่วางใจแล้ว พรางแง้มอยากฟังอย่างอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา

กำลังฟังคำพูดหยางหลิงรุ่ย สีหน้าหลี่ซือหยวนก็ซับซ้อนทันที

รีบขนาดนี้เลนหรอ? นี่เป็นเขาที่รีบหรอ? แน่นอนว่าไม่ใช่

เขาก็เป็นคนถูกเลือกเรื่อย ๆ อ่ะ!

แต่เผชิญหน้ากับหยางหลิงรุ่ยเพื่อนสนิทของถงยวินถิงที่ได้มาตราฐานคนนี้ เขาก็ไม่กล้าพูดไปเรื่อยมาก

หลังจากที่ครุ่นคิดในใจของหลี่ซือหยวนแล้ว ก็เอ่ยขึ้น "ถงยวินถิงเป็นคนรีบเร่งต่างหาก"

ถงยวินถิงรีบเร่งได้หรอ?

ในตอนนี้หยางหลิงรุ่ย ไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์

ถ้าบอกว่าคนอื่นเร่งรีบ แม้ว่าผู้ช่วยของเธอเย่ตงรีบเร่ง หยางหลิงรุ่ยก็เชื่อ

เพราะเขาเข้าข้างตัวเอง ใช่ใช่ว่าเข้าใจเย่ตงมาก ๆ ดังนั้นยังมีความเป็นไปได้อย่างมากแน่นอน

แต่ถงยวินถิงล่ะ? นิสัยของเธอ ความสนิทกันในหลายปีมานี้ ในใจของหยางหลินรุ่ยก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนแล้ว

ใช้คำพูดปีนั้นของหยางหลิงรุ่ย เธอบรรยายออกมาได้ง่ายมาก

อย่างนั้นถ้าบางปีที่จู่ ๆ ถงยวินถิงได้มีความรัก นั้นก็คือแมงดาแล้ว

เพราะถงยวินถิงตอนแรกทีี่สุด จะเป็นคนที่มีหัวคิดว่าจะไม่แต่งงาน

สิ่งที่เธอโหยหา คือความรักที่อิสระและไร้การพันธะ

ถงยวินถิงอย่างนี้ ในใจของหยางหลิงรุ่ยไม่เข้าใจ จะชื่นชมหรือเสียใจ

เพราะถงยวินถิงโดดเด่นจริง ๆ ในฐานะที่เขาเป็นคนในสายอาชีพประชาสัมพันธ์ จึงได้แก้ไขกับวิกฤตบางอย่างที่ยิ่งใหญ่อย่างนับครั้งไม่ถ้วน

คนอย่างนี้ อาจจะเจอด้านมืดมาเยอะมากของสังคม ถึงหมดหวังกับความรับ

เพียงแต่หยางหลิงรุ่ยคิดถึงตรงนี้ จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าไม่สามารถใช้แววตาในเมื่อก่อนได้ ค่อยไปดูถงยวินถิงอีกที

ใช่ ถงยวินถิงในตอนแรก เป็นคนมีความคิดว่าจะไม่แต่งงานอย่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ

แค่ความมีความคิดที่ไม่แต่งงานของเธอ แต่หลังจากที่เจอกับหลี่ซือหยวน ก็ถูกพังทลายลงอย่างเปราะบางหรอ?

ดังนั้น ทั้งหมดนี้ยังมีความสามารถเป็นไปได้อยู่!

"เป็นยวินถิง ที่รีบร้อน"

คำพูดของหลี่ซือหยวน พิสูจน์การเดาของหยางหลินรุ่ยแล้ว

ในตอนนั้นปากของหยางหลิงรุ่ยอ้าขึ้น ถ้าเกิดมีคนเอาไข่ห่านมายัดเข้าไป เกรงว่าน่าจะยัดเข้าไปได้จริง ๆ

เมื่อถงยวินถิงมีความรัก ก็ได้ล้างความคิดของหยางหลินรุ่ยใหม่

ถงยวินถิงแต่งงาน หยางหลิงรุ่ยรู้สึกว่าตัวเองมีทัศนคติที่สองอีกแล้ว เกรงว่านี้จะสามารถทำให้ถูกล้างใหม่อย่างหมดจด

นี่ นี่ จะเป็นไปได้ยังไงกัน!

ถ้าเป็นจริงอย่างคำพูดนั้น ผู้หญิงที่อยู่ในความรัก ต่างเป็นคนตาบอดกันทั้งนั้นหรอ?

"เป็นอย่างนี้ได้ยังไงกัน?" หยางหลินรุ่ยในตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าควรใช้คำพูดอะไรดี เพื่อที่จะไปอธิบายความประหลาดใจของเธอ

และหลี่ซือหยวน สีหน้าที่เต็มไปด้วยคำขมขื่น เอ่ยช้า ๆ "เพราะ ยวินถิงไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหน เมื่อคนเราอายุมากขึ้น สมรรถภาพทางกายก็จะลดลง และเด็กที่เกิดมา ก็จะมีภูมิคุ้มกันที่ไม่ดีด้วย ... "

ความจริงแล้วคำพูดของถงยวินถิง ยาวกว่าคำพูดที่หลี่ซือหยวนพูดเยอะมาก

เพียงเพราะหลี่ซือหยวนทำลังพิจารณาอยู่ ก็พูดเรื่องที่ไม่สำคัญเล็กน้อย

ที่จริง มีบางคำพูด ก็เป็นเรื่องที่พวกเขาทั้งสองคนพูดกันได้เท่านั้นเอง

ในหัวของเขา ยังย้อนคิดถึงข้อความที่ถงยวี่ถิงส่งมาให้เมือครู่

"ตอนนี้ฉันผ่านช่วงวัยเจริญพันธ์ที่ดีที่สุดมาแล้ว และนายก็ผ่านช่วงอายุที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดมาแล้ว พวกเรารอไม่ไดเแล้ว ต้องรีบขึ้นรถ! แล้วก็จัดการให้เสร็จ ท้องของฉันก็ยังไม่โตขึ้น พวกเราต้องรีบจัดงานแต่งงานได้แล้ว"

ถงยวินถิงพูดเยอะมาก รวมไปถึงเรื่องรถเรื่องบ้านก็พูดหมด

เพียงแค่เรื่องนี้สำหรับสองคนแล้ว เดิมทีคือเป็นเรื่องเล็กที่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่

รายได้ของหลี่ซือหยวน รถและบ้านหลายหลังก็มืออยู่ในมือ

แต่นักประชาสัมพันธ์ประเภทนั้นของถงยวินถิง ก็ใช้เงินอย่างน้ำไหลไฟดับในทุก ๆ วัน

เธอไม่ใช่คนโลภ แต่บริษัทประชาสัมพันธ์ที่เธอร่วมงานด้วย ก็ต่างจะให้ผลประโยชน์มากมายแก่เธออย่างรวดเร็ว

ที่จริง Young's Entertainment ต้องจับต้นขาของทองเอกให้แน่น

เงิน สำหรับพวกเขาทั้งสองคนแล้ว ก็แค่ตัวเลขเท่านั้น

ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ กลับเป็นเรื่องงานที่หลังจากแต่งงาน

แต่เวลาพิดพลาดไปแล้ว ก็ผิดพลาดไปแล้ว ไม่มีโอกาสได้กลับไปใหม่อีกครั้ง

ดังนั้นเมื่อถงยวินถิงพิจารณาสักหน่อย ก็วางเรื่องงานไว้อีกด้าน

ดังนั้นเมื่อพูดว่าเห็นหลี่ซือหยวนเลื่อนโทรศัพท์ในตอนนั้น ก็คือกำลังจัดการกับเรื่องที่ถงยวินถิงบังคับเรื่องแต่งงาน

เดิมทีปกติที่ได้ใกล้ชิดกับถงยวินถิง เขาก็จะเป็นคนที่อ่อนแอด้านนั้น

ตอนนี้ต้องเผชิญกับการบังคับแต่งงานของถงหยวินถิง เขารู้สึกกระวนกระวายมากยิ่งขึ้น

ถ้าไม่ใช่เพราะหยางหลิงรุ่ยปรากฏตัว เขาสงสัยว่าเขาจะล้มเลิกหลักการ และตกลงอย่างเด็ดขาดกับข้อเสนอแนะที่ถงยวินถิงล้างสมองไปเมื่อสองสามวัน

หลี่ซือหยวนที่กำลังคิดอย่างนี้ จู่ ๆ โทรศัพท์กลับก็คิดขึ้น

ในใจของเขาดังตึกตัก ๆ ทันใดนั้นก็นึกได้ว่ายังไม่ได้ว่งข้อความตอบกลับไปหาถงยวี่ถิงเลย

ที่แท้ โทรศัพท์นี้เป็นของถงยวินถิงหรอ?

เขาเหลือบมอง ก็รับสายอย่างหมดความอดทน

ในไมโครโฟน ตามด้วยเสียงตะคอกที่มาพร้อมกับคำรามเล็กน้อยของถงยวินถิง

หลี่ซือหยวน นายกล้าหาญแล้วใช่มั้ย? ข้อความของฉันทำไมถึงกล้าที่จะไม่ตอบ!"

ในใจหยางหลินรุ่ยถอนหายใจเงียบ ๆ พรางเดินขึ้นไป

ประตูของร้านชานมมีโต๊ะวางไว้หนึ่งแถว ต่างมีคนนั่งเต็มหมดแลว

ยังมีคนที่ยังอยากรออีกบางส่วน ก็รีบซื้อของแล้วดื่มทันที และนั่งอยู่ที่เข้าอี้ด้านนอกดื่มด่ำขึ้นมา

ถ้ามองอย่างเปิดกว้าง ของที่ขายในร้านฉีหลาน ก็เป็นอาหารที่ได้รับการยอมรับที่ดีในเมืองเอส

รวมทั้งเย่ตง ก็เป็นแฟนคลับร้านชานมของฉีหลาน

สองวันก่อนหน้านี้ ฉีหลานมีเรื่องต้องไปทำที่ Young's Entertainment เย่ตงก็อ้อนวอนขอให้หยางหลินรุ่ย ให้ฉีหลานเอาชานมมาด้วย

กระจกที่กั้นอยู่ หยางหลินรุ่ยที่เห็นฉีหลานตะโกนเรียกพนักงานมา และกำชับเล็กน้อย

เร็วมาก ก็มีพนักงานออกมา

"สวัสดีครับ คุณหยางใช่มั้ยครับ?"

พนักงานเริ่มพูดอย่างสุภาพ หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยพยักหน้า พนักงานก็ทำมือเชื้อเชิญ ให้หยางหลิงรุ่ยเธอเข้าไป

หยางหลิงรุ่ยเข้าร้าน ก็อดคิดไม่ได้ว่าร้านชานมนี้เ็นร้านใหม่

ร้านนี้มีพื้นที่กว้างขวาง เห็นได้ชัดว่าเป็ตำแหน่งทองคำแห่งร้านบนสตรีทฟู้ด และมีขนาดเท่ากับร้านชานมธรรมดาสามร้านอย่างเห็นได้ชัด

ห้องแรก แน่นอนว่าต้องเป็นที่ขายของ

ถ้าที่นี่มีการเข้าแถวละก็ หลังจากที่คุณซื้อแล้ว คุณก็สามารถไปห้องที่สองเพื่อรอ

แต่ถ้าไม่ใช่ อย่างนั้นก็ทำได้เพียงหลังจากซื้อแล้วก็เลือกที่จะรอ หรือกลับไป

การเลือกทั้งสองแบบนี้ คนใช้มาก

เพราะมีการบริโภคที่สูงมาก การต่อแถวเพื่อซื้อยังคงเป็นหมุนเวียนเป็นหลัก

หยางหลินรุ่ยเข้าไปในห้องที่สอง ซึ่งห้องที่สองทั้งด้านห้าและหลังมีโต๊ะทั้งหมดเก้าตัว ต่างถูกโซฟากันไว้ทั้งหมดแล้ว

คนที่อยู่ในตำแหน่งที่ไม่สูง สงบเงียบ เปิดเพลงที่เชื่องช้า ฟังแล้วทำให้คนรู้สึกสบาย

หยางหลิงรุ่ยเดินเข้าไปที่ห้องที่สาม หลังจากนั้น เธอก็เจอฉีหลาน

"พี่หลาน" หยางหลิงรุ่ยตะโกนขึ้น พรางเดินไปข้างหน้า

โซฟาด้านข้างของเธอ ถูกพนักงานลากออกแล้ว

เธอเพิ่งนั่งลง พนักงานก็เลื่อนกลับไปอย่างเบา ๆ

หลังจากนั้นก็ฒีอาหารหนึ่งมาวางไว้ตรงหน้าของเธอ พนักงานก็นั่งลงรอด้านข้างเงียบ ๆ

การเผชิญหน้ากับท่าทีที่ส่งข้าวให้ถึงปากอย่างชัดเจนประเภทนั้น หยางหลิงรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะนับถือสมองของฉีหลาน

ร้านชานมร้านหนึ่ง การตกแต่งที่หรูหราอย่างนี้ พนักงานดูแลอย่างทั่วถึง

ฉีหลานที่ทำที่นี่ อย่างน้อยก็หนึ่งร้อยวัน ยังต้องจ่ายค่าเช่าห้องใช่มั้ย?

แม้ว่าเธอทำแล้ว ยังไงก็ทำได้แน่นอน

หยางหลิงรุยเข้าใจฉีหลาน เมื่อดูจากความสนิทสนมของทั้งคู่ตอนนี้ ถ้าเธอทำไม่สำเร็จเธอก็จะไม่ลงมือทำ

เสียดาย ฉีหลานอ่านใจของหยางหลิงรุ่ยไม่ออก ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าหยางหลินรุ่ยมีมุมมองต่อเธอเช่นนี้

ถ้าเธอรู้จริง ๆ แล้ว เมื่อหยางหลินรุ่ยให้การประเมินที่สูงแก่เธอ

อย่างนั้น เธอคงอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้กับหยางหลิงรุ่ย

ความจำเสื่อมเป็นสิ่งที่ดีหนึ่งอย่าง รักษามุมมองนี้ไว้ก็ดีมาก!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง