คำเรียกนี้ทำให้จางหงเหว่ยตะลึง
เขามองไปที่ฉีหลานด้วยความประหลาดใจ ถึงขนาดอยากจะเอื้อมมือไปลองแตะที่หน้าผากของฉีหลานเพื่อดูว่าเขาเป็นไข้หรือเปล่า
การเรียกชื่ออย่างสนิทสนมเช่นนี้ ก็เกิดขึ้นครั้งแรกตอนที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นฉีหลานหรือจางหงเหว่ย ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนต่างก็ให้ความเคารพกันในฐานะแขก แม้แต่เรื่องของการแต่งงานก็เหมือนเรื่องธุรกิจมากกว่า
แม้ว่าสำหรับจางหงเหว่ยแล้ว เพียงแค่มีผลลัพธ์มันก็เพียงพอแล้ว
แต่ถ้าเขาสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของฉีหลาน และรู้สึกถึงความอ่อนโยนของฉีหลาน เขาก็คงมีความสุขมาก
“หลานหลาน” จางหงเหว่ยลองเรียก
ก่อนที่จางหงเหว่ยจะพูดขึ้น ฉีหลานได้กวาดสายตามองไปที่หยูซิงเหวินอย่างเยือกเย็น
ตั้งแต่เธอมาจนถึงตอนเธอออกเสียง ตอนแต่ต้นจนจบหยูซิงเหวินข้าง ๆ ฉินลูลู่ตลอด และแม้แต่สายตาของเขาก็ไม่ได้มองไปที่ฉีหลานเลยสักนิด
แม้ว่าฉีหลานจะเตรียมใจไว้แล้ว และยังบอกกับตัวเองว่าอย่าคิดอะไรเพ้อเจ้อ แต่เมื่อเห็นหยูซิงเหวินไร้น้ำใจ เธอก็ยังไม่เต็มใจ
หลังจากจางหงเหว่ยลองเรียกชื่ออย่างสนิทสนม ฉีหลานก้าวไปข้างหน้าและกอดแขนของจางหงเหว่ยเบา ๆ
เธอเป็นคนมีหน้าอกและหน้าอกของเธอถูโดนจางหงเหว่ยไปเล็กน้อย
ในขณะนั้น จางหงเหว่ยรู้สึกเหมือนกำลังได้ขึ้นสวรรค์
นี่เป็นครั้งแรกที่เขามองว่าฉีหลานเป็นผู้หญิงของเขาเอง
“หงเหว่ย ลองเสื้อผ้าครบหมดแล้ว คุณชอบไหม” ฉีหลานพูดอย่างอ่อนโยน เสียงไม่ดังหรือเบาเกินไป บังเอิญทำให้เย่ตงที่มาช่วยเลือกชุดแต่งงานฉินลูลู่และหยูซิงเหวินซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งได้ยิน
หยูซิงเหวินไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง ราวกับว่าเขารู้ว่ามันเป็นเสียงของฉีหลานโดยอัตโนมัติ แต่สำหรับฉินลูลู่เธอได้หันไปมอง
เมื่อเห็นใบหน้าที่อ่อนโยนของฉีหลานกำลังพิงจางหงเหว่ย เห็นได้ชัดว่าฉินลูลู่มีสีหน้าประหลาดใจฉายไปทั่วใบหน้า
จากนั้นความรู้สึกเยาะเย้ยก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
รู้ไหมว่ารูปลักษณ์ของจางหงเหว่ยกับฉีหลานนั้นไม่ได้เหมาะสมกันเลย
ทั้งสองคนเหมือนหญิงงามกับสัตว์ร้ายมากกว่า
เมื่อเห็นรูปเช่นนี้ ฉินลูลู่ดูเหมือนจะคิดว่าฉีหลานถูกสัตว์ร้ายกดทับไว้ใต้ร่างของมันเพื่อเรียกร้องอะไรสักอย่าง
ดังนั้นเธอจึงหัวเราะ พร้อมกับเยาะเย้ยบนใบหน้า และแทบจพูดมันออกมา
ฉีหลานมองไปที่ฉินลูลู่อย่างเย็นชาและมีท่าทางเหยียดหยาม ทำให้ฉินลูลู่ซึ่งค่อนข้างอ่อนไหวอยู่แล้วเกือบจะกระโดดขึ้นเพราะโมโห
เธอควงแขนของจางหงเหว่ยและเดินออกไป หยางหลิงรุ่ยเดินตามไป สายตาที่ซับซ้อนมองไปที่ฉีหลานที่แสร้งทำเป็นรักใคร่ก่อนจะส่งพวกเขาออกไป
แต่ยังไม่ทันได้ออกไป ก็ได้ยินฉินลูลู่จงใจพูดเสียงดัง:“ไม่ได้ ฉันเลือกชุดแต่งงานนั้นแล้ว ฉันต้องการแบบนั้น”
“ขอโทษค่ะคุณ เวลามันเร่งเกินไป เกรงว่าจะทำให้ไม่ทันค่ะ”
คนตอบเป็นเย่ตง หลังจากฉินลูลู่ดูหนังสือชุดงานแต่งแล้ว เธอถึงกับเอ่ยชื่อคนว่าต้องการชุดแต่งงานแบบเดียวกับชุดที่ฉีหลานใส่
นี่คุณล้อเล่นเหรอ
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องเวลา ประเด็นแรกคือเนื่องจากมีการสั่งตัด ดังนั้นเสื้อผ้าทุกชิ้นจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร
ชุดแต่งงานชุดราตรีและกี่เพ้าของฉีหลาน ตามองค์ประกอบที่เธอใช้หากลูกค้าชอบสามารถออกแบบใหม่ได้
แต่ถ้าให้ทำเหมือนเดิมเป๊ะทุกอย่าง ขออภัยเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
แต่มีบางอย่างที่พูดตรง ๆ ไม่ได้เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้นเย่ตงจึงหาเหตุผลโดยบอกว่าถ้ายึดตามวันงานแต่งงานของฉินลูลู่ เย่ตงไม่สามารถทำมันให้ทันได้
“ห๊ะ เสื้อผ้าแค่ไม่กี่ชิ้น ทำไมของฉีหลานทำให้ได้ ทำไมถึงทำให้ฉันไม่ได้ ไม่ได้ ฉันต้องการมัน ฉันบอกเวลากับพวกคุณไปแล้ว และฉันสามารถจ่ายเงินเพิ่มเป็นสองเท่าได้ พวกคุณก็ควรรีบช่วยทำให้ฉันด้วย!”
ฉินลูลู่ไม่อยากจะพูดสิ่งไร้สาระกับเย่ตง ฉินลูลู่จึงใช้เงินเพื่อเปิดทาง
เธอใช้วิธีเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นวิธีที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน
แต่เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้เธอจะต้องให้ผิดหวัง
เย่ตงมองไปที่ฉินลูลู่อย่างสงบ หลังจากอยู่กับหยางหลิงรุ่ยมานาน เย่ตงไม่ได้เรียนรู้สิ่งอื่นเลย นอกจากทัศนคติที่ดีของหยางหลิงรุ่ย
เธอพูดอย่างตรงไปตรงมา:“คุณฉิน ชุดของคุณฉี ได้สั่งตัดมาเป็นเวลานานแล้ว และระยะเวลาที่คุณฉีให้ก็นานพอสมควร ดังนั้นจึงสามารถสั่งตัดออกมาได้ แต่เวลาของคุณฉันกลัวว่ามันจะทำไม่ได้...... ”
“อะไรกัน รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร เธอถึงได้กล้าปฏิเสธคำขอของฉัน เชื่อหรือไม่ฉันสามารถซื้อที่นี่เพื่อให้ทุกคนรับใช้ฉันคนเดียวได้!” ฉินลูลู่ตะโกนเสียงดัง หยูซิงเหวินที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่ได้พูดอะไร นั่นมีความหมายที่ชัดเจนว่าเขาจะไม่ก้าวก่ายกับความคิดของฉินลูลู่
เมื่อเห็นว่าฉินลูลู่กำลังจะแปลงร่างป็นหญิงปากร้าย เรื่องนี้จึงหยุดชะงักไป หยางหลิงรุ่ยที่ควรจะออกไปก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ ในฐานะเป็นคนที่รับผิดชอบสตูดิโอคนที่หนึ่งเธอจะต้องจัดการกับมัน
“คุณหยางค่ะ เรื่องมันเป็นแบบนี้ พอดีฉันเห็นชุดของคนนั้นเมื่อสักครู่นี้ ฉันชอบดีไซน์ของมันมาก ช่วยทำให้ฉันแบบนั้นอีกสักสองสามชุดได้ไหม เรื่องเงินไม่มีปัญหา ฉันสามารถเพิ่มให้เป็นสามเท่า คำขอเดียวของฉันคือวัตถุดิบที่ใช้ต้องดีกว่าคนนั้น และฝีมือในการตัดเย็บจะต้องดีกว่า การออกแบบปรับปรุงให้ดีกว่า เช่นนี้ฉันก็จะมีความสุขมากกว่า!” ฉินลูลู่ตกอยู่ในโลกของตัวเองและเธอก็พูดอะไรต่อมิอะไรยาวเหยียด
หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะพูดแทรกหลาย ๆ ครั้ง แต่เมื่อเห็นฉินลูลู่พูดอย่างจริงจังเธอก็ยอมแพ้ในที่สุด
ในที่สุดฉินลูลู่ก็พูดจบ หยางหลิงรุ่ยก็พูดเบา ๆ :“คุณฉินน่าจะเข้าใจความหมายของการสั่งตัดนะ ”
เมื่อฟังสิ่งที่หยางหลิงรุ่ยพูดฉินลูลู่ก็รู้สึกว่ามันไม่ปกติ แต่เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งและรู้สึกว่าทำธุรกิจ หยางหลิงรุ่ยก็ไม่จำเป็นต้องให้เงินออกไปข้างนอก เธอจึงเอ่ย:“แน่นอน สิ่งที่ฉันพูดเป็นคำขอของฉัน และคุณหยางก็ช่วยทำตามคำขอของฉันเท่านั้นเอง”
ฉินลูลู่พูดอย่างไม่หนักหนา ทำให้หยางหลิงรุ่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย
แต่สิ่งที่เธอพูด ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
หยางหลิงรุ่ยพิจารณาเรื่องนี้สักพัก พยายามทำตัวเองพูดอย่างนิ่มนวลที่สุด :“คุณฉินเข้าใจแบบนี้ จริง ๆ แล้วไม่มีอะไรเสียหาย แต่ ...... ”
“แต่อะไรคะ”
หยางหลิงรุ่ยนิ่งไปครู่หนึ่ง จงใจที่จะหยุดพูดเพื่อรอให้ฉินลูลู่ถาม และเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ฉินลูลู่ก็เริ่มถามขึ้น
“ช่วงนี้สตูดิโอได้รับออเดอร์เยอะมาก ๆ หากคุณฉินไม่รีบ เราอาจจะสั่งตัดให้คุณได้”
หลังจากพูดจบ ยังไม่ทันรอให้ฉินลูลู่ตอบหยางหลิงรุ่ยก็มองไปที่เย่ตง แล้วถาม:“ตงตง เรื่องเวลาของคุณฉิน คือเมื่อไหร่”
“ประธานหยาง ภายในหนึ่งเดือนค่ะ”
เย่ตงตอบด้วยความเคารพ ฉินลูลู่ซึ่งไม่สนใจอะไรเลยยังคงขยิบตา
“ระยะเวลาหนึ่งเดือนกับการสั่งตัดเสื้อผ้าสองสามชุด คงไม่น่ามีเกินไปหรอกใช่ไหม”
เมื่อเห็นว่าเย่ตงไม่ตอบ ฉินลูลู่ก็เริ่มโมโห แต่เธอก็รู้แม้ว่าเย่ตงจะเป็นคนธรรมดา แต่เย่ตงก็เป็นลูกน้องของหยางหลิงรุ่ย
ฉินลูลู่ก็ไม่สามารถไปสั่งสอนหรือแก้แค้นเย่ตงได้
หยางหลิงรุ่ยเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ในใจสำหรับฉินลูลู่ของเธอค่อนข้างจะดูถูกเล็กน้อย
แคนดี้สตูดิโอเปิดทำธุรกิจเพื่อบริการลูกค้าทุกคน ไม่ใช่ให้บริการกับฉินลูลู่คนเดียว
เธอพูดว่าเวลาหนึ่งเดือน รีบ ๆ ทำก็สามารถทำออกมาได้อย่างราบรื่น แต่นั่นหมายความว่าเดือนนี้ทั้งเดือนพนักงานทั้งสตูดิโอต้องให้บริการฉินลูลู่แค่เพียงคนเดียว
แล้วลูกค้าเหล่านั้นล่ะ เพราะฉันทำตามคำขอของลูกค้าเหล่านั้นไม่ได้ แล้วมันจะส่งผลกระทบต่อแคนดี้สตูดิโออย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง