"เกเรนะ" น้ำเสียงเย็นชาของรามิลดังขึ้นใกล้ๆ กกหูทันทีที่ประตูห้องทำงานปิดสนิท
"นับกลายเป็นเด็กเกเรเพราะทักทายเลขาคนสนิทของพี่รามเหรอ ถ้าแตะต้องไม่ได้เลยทำไมไม่ยกไว้บนหิ้งเลยล่ะคะ" นับดาวผลุนผลันลุกออกจากหน้าตักแกร่ง กระแทกเสียงถามกระแนะกระแหนด้วยความหมั่นไส้ แต่ยังไม่ทันจะได้เดินเลี่ยงไปนั่งที่โซฟาท่อนแขนแกร่งของคนข้างหลังก็ตวัดเกี่ยวรั้งเอวคอดไว้เสียก่อน
"แกล้งเลขาของฉันทำไม"
"เลขาของฉัน แหวะ สนิทสนมกันจังเลยนะคะ"
"เป็นเด็กเกเรเหรอถึงชอบหาเรื่องคนอื่น"
"เป็นคนหวงของที่ไม่ชอบให้ผู้หญิงคนไหนมาทำตาหวานใส่ของของตัวเองค่ะ"
"ของของเธอหมายถึงฉัน?"
"แล้วในห้องนี้มันมีวิญญาณอยู่ด้วยเหรอคะ ก็มีพี่รามนั่งหัวโด่อยู่คนเดียว"
"อย่าก้าวร้าว"
"ปล่อย นับจะไปเล่นเกม..อ๊ะ!" นับดาวร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อโดนอุ้มขึ้นมาบนโต๊ะทำงานอย่างไม่ทันตั้งตัวจนมือปัดไปโดนแฟ้มเอกสารกระจัดกระจาย ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน ถกกระโปรงนักศึกษาของเธอขึ้นมาเหนือเอวคอด จากนั้นจึงเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาทีละเม็ดอย่างใจเย็น
"ฉันไม่ชอบเด็กเกเร"
"นะ..นี่มันห้องทำงานนะ" เธอหอบหายใจหนักๆ ด้วยความตื่นเต้นเมื่อเสื้อนักศึกษาและบราเซียร์ลายลูกไม้ตัวจิ๋วถูกถอดออกไปอย่างง่ายดาย ใบหน้าคมคายก้มลงมาตะโบมดูดดุนยอดปทุมถันอย่างหนักหน่วงจนมันเริ่มแข็งชันเป็นไต ก่อนที่มือหนาจะสอดเข้ามากลางหว่างขา และเกี่ยวขอบแพนตี้ของเธอออกให้พ้นทาง
"อ๊า..ถะ..ถ้าจะทำแบบนี้ช่วยปิดกล้องก่อนได้ไหม" นับดาวเหลือบมองกล้องวงจรปิดตรงมุมห้องอย่างหวาดระแวง ในขณะที่มาเฟียหนุ่มเริ่มจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง เสื้อสูทตัวโคร่งถูกถอดออกมาพาดไว้บนพนักพิง ตามมาด้วยเข็มขัดหนังราคาแพง "พะ..พี่รามเดี๋ยวมีคนเข้ามาเห็นนะ..อ๊า"
"ที่นี่เป็นห้องทำงานของฉัน ถ้าฉันไม่อนุญาตจะมีใครเข้ามา" รามิลถอนริมฝีปากออกจากยอดปทุมถัน แล้วดันเรียวขาสวยทั้งสองข้างแยกออกจากกัน ทำให้นับดาวต้องเอนกายไปข้างหลัง สองมือวางค้ำกับโต๊ะทำงาน
"จะ..จะทำตรงนี้เหรอ"
"ถ้าเมื่อยแขนจะนอนลงก็ได้" เขาตอบคำถามของเธอด้วยการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกจนเผยให้ท่อนบนเปลือยเปล่า และปลดกระดุมกางเกงเป็นปราการถัดมา นับดาวมองการกระทำของคนตรงหน้าด้วยความตื่นเต้นในตอนที่เขาขยับเข้ามาใช้แก่นกายใหญ่ถูไถกับดอกไม้งามเบาๆ ร่างกายที่ถูกเล้าโลมค่อยๆ ปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาเบิกทางอัตโนมัติ
ปึก!
"อื้อ!" ความเสียวซ่านที่เคยได้รับถูกแทนที่ด้วยความเจ็บปวดในนาทีต่อมาเมื่อรามิลจงใจอัดกระแทกความใหญ่โตเข้ามาในช่องทางรักคับแคบจนสุดความยาวของมันในคราวเดียว มือหนาจับประคองเอวคอดไว้มั่นเพื่อไม่ให้เธอขยับหนีไปไหน ขณะที่สะโพกสอบเริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ
"มะ..มันจุก..อ๊า..ยะ..อย่าดันมันเข้ามาหมดได้ไหม..อึก" นับดาวพยายามดึงแขนออกจากพันธนาการของมือหนาเมื่อสะโพกสอบยังคงอัดกระแทกแก่นกายใหญ่เข้าออกอย่างบ้าคลั่งจนภายในกายสาวกระตุกตอดรัดแก่นกายใหญ่ถี่ๆ เธอบิดเร่าร่างกายอยู่ใต้แผ่นอกกำยำเมื่อคนข้างบนโน้มใบหน้าลงมาขบเม้มยอดปทุมถัน
"อืม~" มาเฟียหนุ่มเหลือบมองใบหน้าเหยเกของคนใต้ร่างเพียงนิด ฟันคมขบเม้มยอดปทุมถันเบาๆ สลับกับดูดดึงจนหน้าอกใหญ่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายใส
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
"อื้อ!..พะ..พี่รามนับจะไม่ไหวแล้ว..อ๊า" ความเจ็บปวดที่รามิลมอบให้มาพร้อมกับความเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน นับดาวตวัดขาเกี่ยวรัดเอวสอบอย่างลืมอายเมื่อใกล้จะแตะขอบสวรรค์เต็มที ก่อนที่คนข้างบนจะยอมถอนริมฝีปากออกไป
"ไม่รอแตกพร้อมกันเหรอ"
"อ๊า..พะ..พี่รามนับไม่ไหวแล้ว..อ๊ะๆ" รามิลปล่อยมือจากแขนเรียวเล็กทั้งสองข้าง แล้วยกสะโพกมนขึ้นเล็กน้อยเมื่อรับรู้ว่าหญิงสาวกำลังจะถึงฝั่งฝัน ภายในกายของเธอกระตุกตอดรัดแก่นกายใหญ่อย่างหนักจนยากที่จะขยับ
"อ๊า...พร้อมกัน" มาเฟียหนุ่มเชิดหน้าเปล่งเสียงคำรามลั่นเมื่อเขาเองก็ใกล้จะแตะขอบสวรรค์เต็มทีแล้วเหมือนกัน สะโพกสอบเร่งจังหวะการกระแทกกระทั้นให้เร็วขึ้น ก่อนที่เขาและเธอจะปลดปล่อยสายธารน้ำรักออกมาพร้อมๆ กัน
"อ๊าสสสสส!/อ๊ายยยยย!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่คล้องรัก