โซ่รักใยพิศวาส นิยาย บท 20

วันศุกร์

ยศนัยตื่นเต้นมากที่ได้ขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกในชีวิต พอเห็นเครื่องบินลำใหญ่อยู่ตรงลานจอด เด็กชายเดินไปเกาะกระจกมองดูความใหญ่โตของมัน ครั้นขึ้นไปนั่งบนภายในนกเหล็กลำยักษ์ ยศนัยมองออกไปนอกหน้าต่าง มองดูความแปลกใหม่ที่ตนเองไม่เคยเห็นในระยะใกล้...ก้อนเมฆ

“คุณลุงฮะ นั่นเมฆใช่ไหมฮะ” ยศนัยถามราซิเอลโล่ที่นั่งอยู่เบาะด้านข้าง

“ใช่ครับ นั่นคือก้อนเมฆครับ”

“งั้นเราก็อยู่บนสวรรค์ใช่ไหมครับ คุณครูบอกว่า เทวดาอยู่เหนือก้อนเมฆ”

“ไม่ใช่ครับ สวรรค์ต้องขึ้นไปอีก ขึ้นไปสูงมากๆ เลย ตอนนี้เราอยู่เหนือก้อนเมฆครับ เพราะระดับความสูงที่เครื่องบินบินอยู่ สูงกว่าก้อนเมฆครับ พอเราถึงที่หมาย เครื่องบินก็จะบินต่ำลงไปบนพื้นดินครับ” ราซิเอลโล่อธิบายให้ลูกชายฟังแบบง่ายๆ

“อ๋อฮะ เข้าใจแล้วฮะ”

สายตาของเด็กชายไม่ละห่างจากหน้าต่าง ยศนัยมองไปด้านนอกอย่างใคร่รู้ ไม่เข้าใจตรงไหนก็จะหันมาถามราซิเอลโล่ที่ให้คำตอบลูกชายได้ทุกคำถาม เมื่อมาถึงสนามบินนานชาติจังหวัดภูเก็ต พวกเขาทั้งหมดได้ขึ้นรถตู้ที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ มุ่งหน้าสู่โรงแรมรอยัล คาซ่าภูเก็ต

โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราวสองร้อยเมตร แบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่พักที่เป็นตึกสูงห้าชั้นสองตึกหันหน้าออกทะเล และส่วนบ้านพักส่วนตัวที่มีอยู่ด้วยกันยี่สิบหลัง แต่ละหลังหันหน้าออกทะเลเช่นกัน พร้อมทั้งมีสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง ภายในห้องพักส่วนวิลล่ามีความกว้างและใหญ่กว่าห้องพักปกติ ห้องน้ำจะมีอ่างจากุซซี่ มีเก้าอี้นวมสองตัวเข้าชุดกับโต๊ะกระจกทรงสูงไว้สำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือจิบชา กาแฟมองดูวิวทะเล

ทำเลที่นี้ดีมาก แขกเข้าพักตลอดทั้งปี แม้ว่าบางช่วงจะเป็นช่วงมรสุม ลูกค้ามาพักน้อยกว่าช่วงอื่น แต่ก็พอมีรายได้เข้ากระเป๋า ยังไม่รวมงานต่างๆ ที่มาเช่าสถานที่ในการจัดงาน รายได้ของรอยัล คาซ่าภูเก็ตไม่ใช่น้อย หากนภดลไม่มีความจำเป็นจริงๆ เขาไม่อยากขาย เนื่องจากที่นี่คือแหล่งรายได้สำคัญของครอบครัว

“สวัสดีครับคุณนานโอ ยินดีต้อนรับสู่รอยัล คาซ่าครับ” นภพลที่มาต้อนรับนานโอกับราซิเอลโล่ด้วยตัวเองทักทายผ่านเพชรหอมในฐานะล่าม

“ครับ สวัสดีครับ”

“ผมได้จัดเตรียมห้องพักตามที่คุณนานโอต้องการแล้วนะครับ ผมจะให้ผู้จัดการโรงแรมไปส่งคุณนานโอที่ห้องนะครับ แล้วเย็นนี้เรามาดินเนอร์กัน ผมจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ไว้ให้คุณนานโอกับคุณราซิเอลโล่ด้วยครับ” นภดลเลี้ยงดูปูเสื่อนานโอเต็มที่

“ขอบคุณครับ” ผู้จัดการโรงแรมทำหน้าที่ต่อไป นำนานโอกับคณะเดินทางไปส่งตามห้องพักที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ ห้องพักของนานโออยู่ในส่วนรีสอร์ท เป็นห้องพักที่ใหญ่ที่สุดและราคาแพงที่สุด ราคาต่อคืนอยู่ที่หนึ่งแสนบาท

“คุณนานโอพักห้องนี้นะคะ นี่ค่ะกุญแจ” นวลผ่องผู้จัดการโรงแรมที่เก่งหลายภาษา หนึ่งในภาษานั้นคือภาษาอิตาเลี่ยน หล่อนจึงสื่อสารกับนานโอได้โดยไม่ผ่านล่าม “ส่วนห้องพักของคุณราฟาเอลโล่กับคุณเพชรหอมอยู่ห้องพักข้างๆ ค่ะ”

“คุณว่าอะไรนะคะ ดิฉันพักกับคุณเอลโล่หรือคะ”

“ใช่ค่ะ”

“ไม่นะคะ ดิฉันไม่พักห้องเดียวกับคุณเอลโล่ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขา ทำไมต้องพักห้องเดียวกันด้วย” เพชรหอมปฏิเสธเสียงแข็ง

“คุยอะไรกันอยู่ครับ ช่วยพูดให้ผมเข้าใจด้วย” นานโอที่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องเอ่ยถาม

“คุณเพชรหอมไม่ยอมพักห้องเดียวกับคุณราซิเอลโล่ค่ะ” นวลผ่องตอบนานโอ

“พักห้องเดียวกันกับเอลโล่น่ะดีแล้วเพ้นท์ ลูกจะได้อยู่ใกล้ชิดพ่อด้วย อีกอย่างฉันได้ข่าวมาว่า ห้องเต็มหมด ที่เขาให้พวกเราพักก็แทรกให้เต็มที่แล้ว” นานโอผู้ที่อยู่เบื้องหลังบอกล่ามคนสวย

“นั่นสิ จะเรื่องมากทำไม ทำตัวเหมือนไม่เคยอยู่ร่วมห้องเดียวกับฉันไปได้” ราซิเอลโล่พูดความจริง แต่ความจริงของเขาทำให้แก้มทั้งสองข้างของเพชรหอมร้อนผ่าว อยากจะหยิกปากเขานัก

“มันไม่เหมือนเดิมนะคะ กรุณาอย่าอ้างอิงอดีต อดีตคืออดีตค่ะ ถ้าที่นี่ห้องพักเต็ม ดิฉันกับลูกไปพักที่โรงแรมอื่นใกล้ๆ ก็ได้ รับรองว่าไม่เสียงานแน่นอนค่ะ” เพชรหอมไม่ยอมท่าเดียว

“ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก เธอกับลูกมากับฉัน แล้วฮาร์ทก็คือเหลนของฉัน จะให้ไปนอนที่อื่นได้ยังไง การที่ฉันให้เธอพักกับเอลโล่ก็มีอีกเหตุผลหนึ่งคือ อยากให้เอลโล่ได้ใกล้ชิดกับฮาร์ท เธอหนีอะไรก็หนีได้ แต่หนีความจริงเรื่องที่เอลโล่เป็นพ่อฮาร์ทไม่ได้นะ ให้ฮาร์ทใช้เวลาที่เอลโล่อยู่ที่นี่ให้นานที่สุดเถอะ ทำเพื่อลูกนะเพ้นท์” นานโอให้เหตุผลที่ทำให้เพชรหอมนิ่งไป

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เพื่อความสบายใจของเธอ ฉันกับเธอจะพักห้องนี้ด้วยกัน แต่ฉันจะนอนที่ระเบียงนอกห้อง ไม่เข้ามาวุ่นวายบนเตียง เธอจะได้สบายใจ”

ราซิเอลโล่สรุป เพชรหอมมองหน้านานโอ ก่อนจะตวัดสายตามองราซิเอลโล่ที่อุ้มยศนัยที่กำลังหลับบนบ่าราวกับกำลังตัดสินใจ

“ก็ได้ค่ะ” เพชรหอมยอมตกลง

“ถ้าอย่างนั้นแยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้ว ตอนเย็นเจอกัน”

นานโอสรุป นวลผ่องจึงส่งกุญแจห้องให้เพชรหอมที่เดินไปห้องพักของตนกับราซิเอลโล่และลูก ส่วนนานโอเข้าไปในห้องพักของตน บรรดาลูกน้องของนานโอต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนเช่นกัน

เกือบบ่ายโมง

“เธอจะนั่งอยู่ที่นี่หรือไปเล่นน้ำกับฉันกับลูก” ราซิเอลโล่หันมาถามเพชรหอม

“ไปกับคุณค่ะ” หล่อนคิดว่า ไปกับเขาปลอดภัยที่สุด

“นายจำหน้าหมอนี่ให้ดีนะ ถ้ามันเข้าใกล้เพ้นท์เมื่อไหร่ ยิงแม่งทิ้งเลย” จักรพลถึงกับสะดุ้งกับคำสั่ง ลอบกลืนน้ำลายลงคอ

“ครับคุณเอลโล่” โจเซฟรับคำสั่ง หันมามองหน้าจักรพลที่รีบเดินหนี

“มันทำอะไรเธอหรือเปล่า” ราซิเอลโล่หันมาถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ไม่ค่ะ”

“ฉันว่าเราพาลูกไปเล่นบานาน่าโบ๊ทดีกว่านะ เมื่อกี้ฮาร์ทบ่นอยากเล่น”

“ค่ะ” เพชรหอมไม่ขัดข้อง ถอดชุดคลุมออกจากตัว เผยให้เห็นเรือนร่างงดงามในชุดว่ายน้ำแบบวันพีชสีชมพูบานเย็น สายเสื้อกล้ามแต่งระบายน่ารัก กระโปรงระบาย ด้านในเป็นกางเกงขาสั้น เพราะชุดนี้ราซิเอลโล่เป็นคนเลือกเอง เขาไม่ชอบให้เพชรหอมตกอยู่ในสายตาของชายใด พอเห็นชุดนี้เขารีบคว้าทันที

ความที่บานาน่าโบ๊ทไม่เหมาะกับเด็กอายุหกขวบ ราซิเอลโล่จึงเปลี่ยนมาเป็นเล่นเครื่องเล่นโดนัทแทน เครื่องเล่นที่ว่านี้คล้ายคลึงกับการนั่งบานาน่าโบ๊ท จะต่างกันตรงที่ว่า โดนัทที่ว่านี้จะเป็นรูปทรงวงกลม นั่งได้สามคน และมีเรือเร็วลากไปบนน้ำทะเล

ยศนัยดูจะสนุกกับการนั่งเครื่องเล่นโดนัทที่มีพ่อกับแม่ประกบข้าง เพราะเด็กชายกวนราซิเอลโล่ให้นั่งถึงสามรอบ มีหรือที่มาเฟียหนุ่มจะขัดใจบุตรชาย อยากนั่งกี่รอบราซิเอลโล่จัดให้ รอยยิ้มจึงเกิดขึ้นบนใบหน้ายศนัยตลอดเวลาที่ทำกิจกรรมในทะเล

หลังจากเล่นเครื่องเล่นโดนัทจนสมใจแล้ว ราซิเอลโล่พาเพชรหอมกับลูกชายไปเล่นน้ำทะเลร่วมกัน หลายครั้งที่เขาแกล้งควักน้ำใส่หน้าเพชรหอมที่สำลักน้ำ ราซิเอลโล่หัวเราะชอบใจ เพชรหอมจึงเอาคืนด้วยการควักน้ำใส่บ้าง ไม่เพียงแค่ควักน้ำใส่ หล่อนเอาทรายที่กำไว้เต็มมือปาใส่ตัวและหน้าของเขาอีกด้วย ทว่าความไวของราซิเอลโล่มีมากกว่า จึงหลบหลีกได้ทัน และเอาคืนเพชรหอมกลับ ทว่าหล่อนก็ไม่ยอม หยิบทรายใต้น้ำขึ้นมาปาใส่เขา ผลัดกันปาไปมา หลบได้บ้างไม่ได้บ้าง โดยมียศนับยืนเชียร์ทั้งสองฝ่ายด้วยเสียงหัวเราะแห่งความสุข

เพชรหอมเองก็เหมือนจะลืมความผิดที่เขาทำไว้กับตนไปชั่วขณะ หล่อนยอมรับว่ามีความสุขกับการมีส่วนร่วมพายศนัยเที่ยวเล่นครั้งนี้ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะของลูกชายบอกให้เพชรหอมรู้ว่า ยศนัยมีความสุขมากแค่ไหน ความสุขที่หล่อนไม่สามารถให้เด็กชายได้ เพราะความสุขนั้นจะต้องมีราซิเอลโล่ร่วมอยู่ด้วย มันถึงจะสมบูรณ์

นานโอที่ลงมาเดินเล่นริมชายหาด นำมือล้วงกระเป๋ามองภาพหลานรักเล่นน้ำกับเพชรหอมและยศนัยด้วยรอยยิ้ม เขาไม่เคยเห็นราซิเอลโล่ทำตัวแบบนี้มาก่อน ไม่เคยเห็นรอยยิ้มและได้ยินเสียงหัวเราะเต็มเสียงของอีกฝ่ายเลยสักครั้ง ตอนนี้ราซิเอลโล่กำลังค้นพบกับคำว่า ความสุขของครอบครัว ซึ่งเขาก็จะดีใจมากถ้าทั้งสามคนได้อยู่พร้อมหน้ากันตลอดไป

และนั่นทำให้เขานึกย้อนมองดูตัวเอง อายุก็ปาไปสี่สิบหกปี ทว่ายังหาสาวถูกใจมาเป็นคู่ครองไม่ได้ แต่คิดไปคิดมา อยู่เป็นโสดเขาก็ไม่เดือดร้อน ซื้อผู้หญิงเพื่อระบายความสุข สุขสมอารมณ์หมายก็ทางใครทางมัน หรือพอเบื่อก็เชิญผู้หญิงคนนั้นออกไปจากชีวิต ไม่ต้องจำเจอยู่กับผู้หญิงเพียงคนเดียวไปตลอดชีวิต จะว่าไปนานโอก็ยังไม่พร้อม นานโอละสายตาจากครอบครัวหลานชาย เดินไปตามชายหาดที่ทอดยาว ปล่อยอารมณ์ ปล่อยจิตใจไปกับสายลม แสงแดดและเกลียวคลื่น ในจิตใจหวังลึกๆ ว่า สักวันหนึ่งเขาจะเจอกับคนที่ใช่ ผู้หญิงที่จะทำให้ชีวิตเขาค้นพบกับคำว่า...ชีวิตคู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส