เพชรหอมหยุดชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดิน มองสายฝนที่กำลังโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าผ่านบานกระจกห้องพัก ก่อนจะเบนสายตามองราซิเอลโล่ที่กำลังลากเตียงสระน้ำให้มาอยู่ใต้ชายคาที่ยื่นออกไปไม่มากนัก มันพอหลบแดดได้ แต่ไม่สามารถหลบฝนได้ หล่อนมองเห็นแต่ไม่คิดจะบอกให้เขาเข้ามาด้านใน หล่อนกลับปิดล็อคประตู
ล่ามสาวเดินไปนั่งบนเตียง นั่งมองราซิเอลโล่ที่นั่งอยู่ขัดสมาธิอยู่บนเตียงตัวนั้น ใช้ผ้าห่มคลุมศีรษะและร่างกายไว้ ประหนึ่งมันจะช่วยไม่ให้ตนเองเปียกฝน แต่คงป้องกันไม่ได้ เพราะตอนนี้สายฝนเทลงมาหนักกว่าเดิมหลายเท่าตัว ลมกรรโชกแรงจนต้นไม้ด้านนอกปลิวไปตามแรงลม มีหักโค่นลงมา อสนีบาตลงมาเป็นสาย ฟ้าคำรามลั่น บอกให้รู้ว่าพายุเข้าแล้ว
เพชรหอมยังไม่นอน หล่อนนั่งมองอากาศภายนอกที่แปรปรวนเหลือเกิน ฝนตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา แล้วดูท่าว่าจะไม่หยุดง่ายๆ ด้วย หากเป็นวันอื่นที่สถานที่ที่หล่อนพักเกิดพายุ หล่อนคงไม่ห่วงหรือไม่รู้สึกกังวลใดๆ ทว่าคืนนี้มีอีกคนหนึ่งที่ต้องนั่งตากฝนอยู่ข้างนอก เพียงเพื่อให้หล่อนสบายใจ ไร้กังวลว่าเขาล่วงเกินตน ตอนี้หล่อนไม่ห่วงเรื่องนั้นแล้ว เรื่องที่หล่อนห่วงคือ กลัวราซิเอลโล่ไม่สบาย หากเขาปอดบวมตายขึ้นมา เพชรหอมคงต้องรู้สึกผิดแน่ๆ
เฮ้อ...ใจอ่อนอีกแล้ว
“คุณเอลโล่คะ เข้ามานอนข้างในเถอะคะ ท่าทางฝนจะไม่หยุดง่ายๆ”
ราซิเอลโล่ยิ้มเมื่อได้ยินคำชวนของเพชรหอม ไม่เสียแรงที่นั่งตากฝน มาเฟียหนุ่มหันมาทางต้นเสียงที่ยืนทำหน้าสวยอยู่ตรงประตู
“ฉันไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ ลำบากใจที่ฉันนอนร่วมเตียงด้วย” เขาทำเป็นพูดดี
“ถ้าไม่อยากเข้ามาก็ไม่ต้องเข้า” เพชรหอมทำท่าปิดประตู ราซิเอลโล่รีบลุกขึ้นยืนทันที
“แหม เข้าสิจ้ะ อยู่ข้างนอกหนาวจนตัวสั่น หนาวไปถึงกระดูกแล้วเนี่ย” พูดจบร่างหนารีบเดินเข้าไปในห้อง ไปล้มตัวลงนอนข้างยศนัย โดยด้านข้างมีพื้นที่เหลือให้เพชรหอมนอน เขาใช้มือตบลงบนที่นอนด้านข้าง “มาเร็วสิ มานอน ฉันง่วงแล้ว พรุ่งนี้เรามีนัดกันตื่นแต่เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นนะ”
“ใครบอกให้คุณนอนบนเตียงมิทราบ” เพชรหอมยืดกอดอกปลายเตียง “โน่น บนพื้น”
“โห...จะใจร้ายเกินไปไหมคนสวย พื้นเป็นพื้นกระเบื้องนะ อากาศในห้องก็เย็น อากาศข้างนอกก็หนาว นอนบนกระเบื้องแบบนี้เป็นไข้แน่ๆ” ชายตัวโตครวญ
“ถ้าไม่นอนบนพื้นก็ออกไปนอนตากฝนข้างนอก” เพชรหอมเสียงแข็งอีกครั้ง “ไปเลย ลงไปนอนบนพื้น”
“คนสวยใจดำ” ราซิเอลโล่บ่น หอบหมอนกับผ้าห่มก้าวลงไปนอนบนพื้นกระเบื้องข้างเตียง โดยใช้ผ้าห่มปูเป็นที่นอนชั่วคราว เพชรหอมเมื่อเห็นว่า เขานอนเป็นที่เป็นทาง และหล่อนเองก็ง่วงนอนเต็มแก่ เพชรหอมจึงล้มตัวลงนอนบ้าง
ทว่าราซิเอลโล่ยังไม่หลับ เขานอนคิดหาวิธีที่จะย้ายตัวเองขึ้นไปนอนบนเตียง เขาต้องคิดให้ออก คืนนี้ฟ้าฝนเป็นใจทำให้เขาเข้ามาในห้องนี้ได้ ก็ต้องขึ้นไปนอนบนเตียงได้สิ
เอ...ทำไงดีหว่า
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
ระหว่างที่เขากำลังนอนคิดแผนการ เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังขึ้นสนั่น ท้องฟ้าเกิดประกายเป็นบริเวณกว้าง ตามด้วยเสียงฟ้าคำรามที่แผดก้องน่ากลัว ลมฝนโหมหนัก คลื่นลมในทะเลระลอกสูง
“ฮือ...ฮือ”
“กรี๊ด!” เพชรหอมส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ หล่อนทะลึ่งตัวลุกขึ้นนั่ง หันหน้าไปมองยศนัยที่นอนร้องไห้ “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ”
คนเป็นแม่รีบจับตัวลูกชายให้ลุกขึ้นนั่งและกอดไว้ เพราะรู้ดีว่า ยศนัยกลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่ามาก ราซิเอลโล่เองก็รีบลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างลูกชาย เอามือลูบหัวและปลอบประโลม
“คนเก่งของคุณลุง ไม่ร้องนะครับ”
“คุณลุงฮะ ผมกลัว” ยศนัยผละจากอกมารดามากอดราซิเอลโล่ที่กอดร่างลูกชายไว้แน่น
“ไม่ต้องกลัวนะครับ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ พอฝนหยุดตกฟ้าก็ไม่ร้องแล้วครับ” ราซิเอลโล่ปลอบ “นอนนะครับ พรุ่งนี้ลุงจะพาฮาร์ทไปดูพระอาทิตย์ขึ้น”
“ปวดหลังมากเลยเหรอ ถ้ามากฉันพาไปหาหมอเอาไหม” เพชรหอมกอดอกมองคนเจ้าเล่ห์
“ไม่ต้องไปหาหมอหรอก แค่ได้นอนบนที่นอนนุ่มๆ ก็หายแล้ว”
“แม่ฮะ ให้คุณลุงนอนกับเรานะฮะ ผมสงสารคุณลุง นะฮะแม่...ฮือ”
ยศนัยร้องไห้ไม่ใช่เพราะสงสารราซิเอลโล่ แต่เป็นเพราะเสียงฟ้าร้องที่คำรามลั่นคือสาเหตุ ราซิเอลโล่รีบกอดลูกรักเอาไว้ ลูบศีรษะเบาๆ โยกตัวช้าๆ
เพชรหอมเห็นการกระทำของเขาแล้วพูดไม่ออก หล่อนรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกเริ่มมีเพิ่มมาก และตอนนี้ดูเหมือนว่า ยศนัยกำลังต้องการอ้อมกอดที่สามารถปกป้องตนได้จากเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า ใจหล่อนอ่อนยวบอีกแล้ว
“ก็ได้ครับ” สองพ่อลูกยิ้มให้กันกับคำตอบของเพชรหอม
“ถ้างั้นเรานอนกันเลยนะครับ นอนอย่างคืนนั้นดีไหม คุณลุงนอนตรงกลาง น้องฮาร์ทนอนฝั่งนี้ แม่เพ้นท์นอนฝั่งนั้น” ราซิเอลโล่บอกลูกชาย
“ฮะ ดีฮะ” สองพ่อลูกเข้าขากันดีเหลือเกิน ล้มตัวลงนอนบนที่นอนที่มีความกว้างใหญ่มากพอที่จะนอนกันสามคนพ่อแม่ลูก
เพชรหอมถอนหายใจกับความเจ้าเล่ห์มากแผนของราซิเอลโล่ เขาสามารถทำให้หล่อนตกลงไปในหลุมพรางได้เสมอ แม้ว่าหล่อนอยากตะกายขึ้นมาจากหลุมนั้น แต่ก็ทำไม่ได้
กว่าที่พายุฝนจะพัดพาไปที่อื่นเวลาก็ล่วงเลยมากว่าตีหนึ่ง ยศนัยนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของราซิเอลโล่ ก่อนที่เด็กชายจะเปลี่ยนอิริยาบถพลิกตัวตะแคงไปอีกข้าง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพชรหอมพลิกตัวหันมาทางราซิเอลโล่ และความที่คิดว่าชายตัวโตเป็นหมอนข้าง คิดว่าแขนเขาคือหมอนหนุน
ราซิเอลโล่ลืมตาขึ้นมองเพชรหอมที่เวลานี้กอดก่ายตนอยู่ ลำแขนใหญ่จึงพาดเอวคอดกิ่ว กอดหล่อนบ้าง ไม่เพียงแค่นั้นยังจุ๊บหน้าผากหล่อนเป็นของแถม ก่อนจะนำตัวเองจมอยู่ในห้วงนิทรา ที่คืนนี้เขานอนหลับฝันดีเป็นที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส