“โอ๊ย! โอ๊ย! ผลัก…อุ๊ก!”
อำนาจร้องลั่นเมื่อถูกช้องนางเล่นงาน โอ๊ยแรกมาจากเท้าของช้องนางกระแทกลงบนเท้าของตน ความเจ็บทำให้แขนที่รัดร่างช้องนางคลายออก หล่อนจึงสะบัดแขนนั้นให้พ้นร่างตน โอ๊ยที่สองมาจากศอกแหลมๆ ของช้องนางกระทุ้งที่ท้องเขาสองครั้งติด ใช้โอกาสที่อำนาจเจ็บตัวผลักมันให้ออกห่างตัว ใช้สันมือฟาดลงไปกลางลำคอของอำนาจ แต่ความที่อำนาจตัวสูงกว่า หล่อนจึงฟาดสันมือไม่ได้เต็มที่ แต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้อำนาจไม่น้อย
“นี่แน่ะไอ้ชั่ว ผลัก” ช้องนางส่งท้ายด้วยการถีบหน้าท้องอำนาจที่ทั้งจุกและเจ็บ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากบ้าน แต่อำนาจก็ไม่ใช่ว่าจะล้มง่ายๆ เขาเป็นอดีตนักมวยเก่า อาการเจ็บแค่นี้ไม่คณามือ
ช่วงเวลาช้องนางก้าวเท้าวิ่งลงไปชั้นล่าง หล่อนรู้สึกมึนหัวขึ้นมา มีความหนักหัวร่วมด้วย ดวงตาพร่ามัว ความง่วงเข้ามาปกคลุมจิตใจ ทว่าสัญชาตญาณเอาตัวรอดก็มีมาก หล่อนฝืนความรู้สึกต่างๆ ที่ทุกขณะก้าววิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่า เท้าหนักจนแทบก้าวไม่ออก
“มึง!” อำนาจเคล้นเสียงเข้มห้วน ก้าวเท้าวิ่งตามช้องนางไปติดๆ ความที่ช้องนางกำลังถูกฤทธิ์ยานอนหลับเล่นงาน ส่งผลให้ร่างกายหล่อนเคลื่อนไหวได้ช้า อำนาจที่วิ่งตามมาแบบไม่ลดละเข้าถึงตัวทันก่อนที่ช้องนางจะวิ่งพ้นประตูรั้วบ้าน มันใช้มือกระชากผมช้องนางแล้วกระตุกอย่างแรงจนหน้าหล่อนแหงนหงาย ช้องนางร้องเจ็บเสียงดัง ไม่เพียงแค่นั้นอำนาจหมุนตัวหล่อนให้หันมาทางตน ก่อนจะฟาดมือลงบนแก้มช้องนางฉาดใหญ่
“โอ๊ย! ...เพี้ยะ” หล่อนเอามือจับมือใหญ่ที่กุมเส้นผมตัวเองไว้ เจ็บทั้งกายและใจ ร่างกายหล่อนเริ่มอ่อนล้าไม่มีแรง ใบหน้าอำนาจที่หล่อนเห็น ทับซ้อนกันหลายใบหน้า วินาทีนี้ช้องนางเริ่มตะหนักว่า ตนเองกำลังพลาดพลั้งอำนาจ หล่อนรวบรวมกำลังและสติเฮือกสุดท้าย เปล่งเสียงตะโกนลั่น
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย” หล่อนหวังว่า เสียงของตนจะดังเข้าหูใครสักคน
แล้วก็มีคนได้ยินจริงๆ
เหนือเมฆชะงักมือที่กำลังเปิดประตูรถหรูของตัวเอง เมื่อได้บินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เขามองไปตามต้นเสียงที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้าม ภาพที่เห็นคือมีชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่หน้าประตูรั้วบ้านทางด้านใน ภาพนั้นบอกให้เขารู้ว่า ฝ่ายหญิงกำลังถูกฝ่ายชายทำร้าย อาจะเป็นเรื่องผัวเมียทะเลาะกัน วินาทีนั้นเหนือเมฆคล้ายไม่สนใจและใส่ใจ เพราะไม่อยากยุ่งเรื่องผัวเมีย ทว่าอะไรดลใจเขามิทราบได้ ร่างหนาเดินไปยังหนุ่มสาวคู่นั้น
“ทำร้ายผู้หญิงแบบนี้ไม่แมนนะครับ แถวบ้านฉันเรียกหน้าตัวเมีย”
อำนาจมองหน้าชายจอมเสือกที่ยืนจังก้าหน้าประตูรั้วด้วยสายตาไม่พอใจ แต่สำหรับอีกคนหนึ่ง เหนือเมฆคือเทวดามาช่วยเหลือคนกำลังเกิดภัย
อำนาจชะงักเมื่อได้ยินว่า อีกฝ่ายดึงตำรวจมาเกี่ยวข้อง ตอนนี้อำนาจเริ่มกลัวเพราะไม่อยากให้ตำรวจเข้ามาวุ่นวาย ไม่ได้กลัวเรื่องนี้ แต่กลัวว่าตำรวจอาจไปยุ่งเกี่ยวกับตนเรื่องอื่น เพราะเขามีคดีอยู่หลายคดี
“มึงนี่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนัก อย่างนี้ต้องเจอดี” อำนาจคิดว่า เหนือเมฆคงไม่เท่าไหร่ อีกทั้งตนเป็นนักมวยเก่า คงล้มอีกฝ่ายได้ไม่ยาก อำนาจปรี่เข้าหาเหนือเมฆ ตั้งใจจะปล่อยกำปั้นใส่หน้าชายรูปงามที่มีความสูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตร เป็นความสูงที่สูงกว่าตนสิบสามเซนติเมตร แค่รูปร่างอำนาจก็เป็นรองเหนือเมฆ และเรื่องหนึ่งที่อำนาจไม่รู้คือ เหนือเมฆเป็นแชมป์เทควันโด
“โอ๊ย!” อำนาจร้องลั่น จับจมูกตัวเองที่รู้สึกว่ามีเลือดไหลออกมาจากโพรงจมูก ไม่เพียงแค่เลือกกำเดาไหล จมูกของเขาหักอีกด้วย “มึง!”
อำนาจแค้นใจจัด ไม่เพียงแค่กำปั้นยังไม่ทันถึงใบหน้าเป้าหมาย เขากลับโดนสวนกลับมาอย่างรวดเร็ว และพอจบคำพูดหมัดหนักๆ ของเหนือเมฆ รวมทั้งฝ่าเท้าก็ประเคนใส่ร่างนักมวยเก่าที่หมดสภาพ สู้เหนือเมฆไม่ได้เลย สุดท้ายก็ลงไปนอนวัดพื้น เหนือเมฆเกิดความแค้นใจอย่างอธิบายไม่ถูก เขาใช้ฝ่าเท้ากระแทกซ้ำๆ ไปบนร่างกายของอำนาจที่ตอนนี้ สู้เขาไม่ได้เลยสักนิดเดียวหลายครั้งติดกัน จนมันสลบคาเท้า
“ไอ้กระจอก” เหนือเมฆพูดใส่ร่างอำนาจที่นอนหมดสติบนพื้น แล้วหันไปมองร่างสลบไศลของช้องนาง ก่อนจะเดินไปช้อนอุ้มร่างหญิงสาวขึ้นสูง มองใบหน้าหวานสวยในระยะใกล้ ที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแปลกๆ ขึ้นมาไม่รู้ตัว เหนือเมฆอุ้มร่างช้องนางเข้าไปไว้ในรถหรูของตน แล้วขับรถออกไปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส