หนึ่งชั่วโมงต่อมา...
วรันยาอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเสร็จ ก็ลงไปหาบิดาที่ด้านล่าง พร้อมกับเอ่ยอ้อนเหมือนเช่นทุกครั้ง “คุณพ่อขา...ดึกแล้วนะคะ”
“หมดกระป๋องแล้วจ้ะลูก” สินชัยก้มหอมแก้มของบุตรสาวเบาๆ
“เอ่อ...งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับอา” ภาคินบอกก่อนจะลุกขึ้นยืน
“โอเค! พรุ่งนี้เจอกัน” สินชัยลุกตาม
“ครับ น้องไวน์พี่กลับก่อนนะ” ภาคินเอ่ยลาคนที่ใส่ชุดนอนสีหวานน่ารักๆ ที่พอเห็นแล้วก็อยากจะกลืนกินไปทั้งเนื้อทั้งตัว
“ค่ะ” วรันยาส่งยิ้มให้อย่างรู้สึกเขินนิดๆ
ภาคินอยากจะดึงสาวเจ้าเข้ามาจูบกู๊ดไนท์คิส แต่ก็ติดตรงที่ว่าที่พ่อตานั่งอยู่ด้วยจึงทำได้แค่เพียงส่งสายตาไปลวนลาม เอ๊ย! ส่งสายตาละห้อยไปบอกลา ก่อนจะกลั้นใจเดินตรงไปยังรถที่จอดอยู่แล้วขับออกไป
ไร่ไปรยาเวศ เวลา 01:20 น.
“พาน้องไวน์ไปเที่ยวไหนมา?” กังศมาที่นั่งหลบมุมอยู่เอ่ยทักขึ้นทันทีที่หลานชายตัวแสบเดินเข้ามาในบ้าน
“! นี่ยายยังไม่นอนอีกเหรอครับเนี่ย” คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ ยกมือขึ้นลูบที่หน้าอกไปมาเบาๆ อย่างตกใจ
“ใครจะไปนอนหลับลง หลานชายตัวดีเล่นพาลูกสาวเขาหายไปเกือบค่อนคืน” กังศมาต่อว่าเสียงเข้ม เพราะลึกๆ ก็แอบกลัวว่าภาคินจะทำมิดีมิร้ายกับวรันยา แล้วสินชัยจะมาเคาะประตูเรียกเธอไปถอนหงอกกลางดึก
“แหม...ผมพาน้องไวน์กลับมาส่งหลังจากที่ยายกลับมาที่ไร่แค่สิบนาทีครับ” ภาคินกลอกตา ‘เฮ้อ...ถ้ารู้ว่ายายตั้งท่ารอจะไปสู่ขอให้ล่ะก็ พ่อจะจับน้องไวน์กินตับซะเลย’
“รู้ได้ไง?” กังศมาเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“อาสินบอกครับ ผมนั่งดื่มเบียร์กับอาสินต่ออีกชั่วโมงนิดๆ”
“พาน้องไวน์ไปไหนมา?” กังศมาถามย้ำอีกครั้งอย่างไม่หายคาใจ
“ไปงานลอยกระทง ไปซื้อลูกชิ้นทองสุข แล้วก็ไปกินหมูกระทะครับ” ภาคินรู้สึกขำนิดๆ ที่ถูกผู้เป็นยายซักฟอก
“ไม่ได้พาน้องไวน์แวะที่ไหนนะ?”
“ไม่ได้แวะครับ โรงแรมเต็มหมดทุกที่เลย” ภาคินบอกพลางกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น
กังศมาหน้าตึงขึ้นมาทันทีทันใด รีบตวัดฝ่ามือกระทบเนื้อที่ต้นแขนของหลานชายตัวดีอย่างไม่รอช้า เพียะ! เพียะ!
“โอ๊ย! โอ๊ย!” คนทะลึ่งแสร้งร้องก่อนจะวิ่งหนีขึ้นบันได
“กลับมานี่นะ!” กังศมาตะโกนตามหลังอย่างโมโห
“ฝันดีครับยาย” ภาคินตะโกนตอบ แล้วตรงไปยังห้องนอนของตัวเองอย่างอารมณ์ดี ไม่สนใจคำด่าที่ตามหลังมาอีกชุดใหญ่
เช้าวันต่อมา...(วันลอยกระทงวันที่2)
ภาคินพาผู้เป็นยายเดินทางไปรับประทานมื้อเช้ากับสินชัยและวรันยาที่บ้านพักหลังใหญ่ท้ายรีสอร์ต จากนั้นก็ขอตัวไปตรวจงานในไร่ พอใกล้เที่ยงก็กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมารับวรันยาไปตรวจเช็คงานที่โรงแรมซานเตียนโน่กับตน
“ว้าว! ทำไมพี่คินสั่งอาหารเยอะจังคะ” วรันยามองเมนูต่างๆ ที่พนักงานเสิร์ฟยกมาวางอย่างรู้สึกมึนงง
“ของชอบของน้องไวน์ไงครับ” ภาคินยิ้มก่อนจะตักอาหารให้กับสาวเจ้า
“เสร็จจากดูงานที่นี่แล้วเราไปไหนกันต่อคะ” วรันยาชวนคุย
“พี่ว่าจะแวะไปดูบ้านพักที่นอกเมืองสักหน่อย ไม่ได้ไปนานแล้ว” คนเจ้าเล่ห์บอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ราวกับไม่มีสิ่งใดแอบแฝง
“เอ่อ...ไวน์ว่า...” วรันยาที่กำลังจะตักอาหารทาน ถึงกับหยุดชะงักแล้วหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ
“พี่ไม่ได้ไปดูนานแล้วครับ รู้สึกเป็นห่วงบ้านยังไงไม่รู้” ภาคินให้เหตุผล
“ก็ได้ค่ะ” วรันยาพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะลงมือทานอาหารต่อ ‘หึ! ถ้าลวนลามเราล่ะน่าดู’
“ว่าแต่คาร่าไม่มาด้วยเหรอครับ?” คนที่แทบจะลุกขึ้นจุดพลุฉลองชัย รีบตีเนียนเปลี่ยนเรื่องคุย
“ไม่ค่ะ เห็นบอกว่าจะไปล่องเรือสำราญเที่ยวรอไวน์กลับ”
“คนเดียว?”
“ใช่ค่ะ”
“แบบนี้อาอัสลานไม่ว่าเหรอ” ภาคินถามอย่างเต็มไปด้วยความสงสัย
“ค่ะป้าชม” เสาวณีฝืนฉีกยิ้มให้ ก่อนจะรีบเดินแยกไปขึ้นลิฟต์ พร้อมกับคิดไปว่า...ทางเดียวที่เธอจะรู้ว่าผู้หญิงที่หมั้นหมายกับภาคินคือใคร ก็ต้องกระตุ้น ลัมภาให้แสดงตัว
ส่วนคนที่กำลังร้อนรุ่มหัวใจไปด้วยความคิดถึง เพราะภาคินไม่มาหาเกือบจะสองเดือนแล้ว แต่ก็ยังโอนเงินเข้าให้ใช้เหมือนเดิม เธอจึงกลั้นใจพิมพ์แชตไปบอกสิงขร ซึ่งรับหน้าที่นัดหมายระหว่างเธอกับภาคิน ว่าเธอจะเข้าประกวด นางนพมาศที่ในเมืองคืนพรุ่งนี้ พร้อมกับถามว่าภาคินจะมาหาเธออีกเมื่อไหร่?
ไม่ถึงสามนาที สิงขรก็แชตกลับมาว่า...ช่วงนี้เจ้านายไม่ว่างและอาจจะลากยาวไปถึงเดือนหน้า หากจะไปหาเมื่อไหร่จะแจ้งกำหนดก่อนล่วงหน้า 1-2 วัน ทำให้เธอรู้สึกน้อยใจ เพราะแอบหวังลึกๆ ว่าจะได้เจอกับภาคินก่อนวันขึ้นประกวด
แต่ก็ไม่! เขามักจะทิ้งให้เธออยู่กับความรู้สึกเหงาแบบนี้ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ตลอด และเธอก็เริ่มจะทนมันต่อไปไม่ไหว
สองชั่วโมงต่อมา...
พอรับประทานอาหารและขึ้นไปตรวจงานเสร็จ ภาคินก็ขับรถพาสาวเจ้าไปยังบ้านพักนอกเมืองต่อ
ทันทีที่ไปถึงวรันยาก็แทบจะกรีดร้อง เพราะมีดอกไม้นานาสายพันธุ์กำลังบานสะพรั่งรายล้อมตัวบ้าน
“ไวน์ขอเก็บดอกไม้ได้ไหมคะ จะเอาไปประดับกระทงตอนเย็นค่ะ” เธอหันไปอ้อนขอด้วยรอยยิ้มหวานๆ
“ได้ครับ เดี๋ยวพี่เข้าไปเอาตะกร้ากับกรรไกรมาให้” ภาคินพยักหน้ารับ แล้วรีบเดินตรงไปข้างในบ้านด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
“ขอบคุณค่ะ” วรันยาตะโกนตามหลัง ก่อนจะเดินไปดูดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ล่องลอยมาตามสายลมที่พัดผ่าน
‘แก้วตา’ แม่บ้านวัยสี่สิบห้าปีเอ่ยทักทายเจ้านายหนุ่มหล่อ ที่นานๆ ครั้งจะแวะมาเยือน “สวัสดีค่ะคุณภาคิน พาใครมาด้วยเหรอคะ สวยเชียว”
“แฟนผมเองครับ ชื่อน้องไวน์” ภาคินแนะนำด้วยสีหน้าชื่นมื่น เพราะสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่เดียวที่ตนกล้าประกาศความสัมพันธ์ได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าวรันยาคือคนรัก
“แหม...พูดจริงเหรอคะเนี่ย?” แก้วตาหรี่ตามองอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะสาวที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับดอกไม้นั้นดูเด็กเกินกว่าจะคบหากับเจ้านายของเธอ
“หึๆ จริงสิครับ” ภาคินหัวเราะอย่างขำๆ กับสีหน้าของคนดูแลบ้าน
“โอ๊ย! แบบนี้ป้าก็อกหักน่ะสิคะ” แก้วตาบอกด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ฮ่าๆๆ” ภาคินหัวเราะเสียงดังอย่างเบรกไม่อยู่กับท่าทีของอีกฝ่าย
“ชิ! ป้าขอตัวไปเตรียมน้ำส้มไปต้อนรับก่อนนะคะ” แก้วตาบอกสะบัดหน้าเดินตรงเข้าไปในห้องครัว
“ครับ” ภาคินยิ้มก่อนจะหยิบตะกร้ากับกรรไกร แล้วเดินกลับออกไปหา สาวเจ้าที่ด้านนอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)