สองชั่วโมงต่อมา...ภัคคินัยไปส่งพี่ชายที่สนามบินเสร็จ ก็รีบขับรถตรงกลับมายังสวนส้ม เพื่อรับผู้เป็นยายไปร่วมปาร์ตี้เลี้ยงฉลองที่รีสอร์ต แต่ทว่า...ทันทีที่ขับรถไปถึง ก็เห็นออดี้ R8 สีแดงเจิดจรัสของภาคินจอดอยู่
“อ้าว! ที่แท้ตาคินมาที่นี่หรอกเหรอ?” กังศมามองรถของหลานชายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
‘หึ! คนอย่างไอ้คินมันจะไปไหนได้ล่ะครับ’ ภัคคินัยแอบตอบในใจ ก่อนจะรีบลงจากรถไปเปิดประตูให้ผู้เป็นยาย
“รถสปอร์ตนี่...จะว่านั่งสบายก็สบายนะ แต่เข้า-ออกยากน่าดู”
“หึๆ” ภัคคินัยได้ฟังก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“แหม...ผมมองอยู่นานก็นึกว่านัยพาสาวที่ไหนมาด้วย” สินชัยยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยหยอก
กังศมารับไหว้ แล้วส่งยิ้มไปให้คนที่เดินออกมารับ “เห็นว่าคันหนึ่งเป็นสิบๆ ล้าน ฉันก็อยากจะลองนั่งดูสักครั้งน่ะพ่อสิน”
“แล้วเป็นไงบ้างครับ” สินชัยถามกลับอย่างสงสัย
“ลุกแทบไม่ขึ้น” กังศมาบอกพลางส่ายหน้าเบาๆ
“ฮ่าๆๆ เชิญด้านในดีกว่าครับ” สินชัยหัวเราะก่อนจะชวนทุกคนเข้าบ้าน
“สวัสดีครับอาสิน คินอยู่ที่นี่เหรอครับ?” ภัคคินัยแสร้งเอ่ยถาม
“ใช่ๆ กำลังจุดเตาเตรียมย่างของทะเลแน่ะ” สินชัยยิ้มรับอย่างรู้สึกดีที่ภาคินมาช่วยทำนู่นนั่นนี่ตั้งแต่ช่วงบ่าย จนกระทั่งเย็น
“อ่อ! แล้วน้องไวน์ล่ะครับ” ภัคคินัยถามอย่างเป็นห่วง กลัวว่าแฝดผู้พี่ จะฉวยโอกาสทำไม่ดีกับสาวน้อยอายุ 17 อยู่ข้างใน
“นากำลังขึ้นไปตามที่ห้องแล้ว อีกเดี๋ยวก็คงลงมา ว่าแต่...อาดีใจด้วยนะที่นัยกับคินเรียนจบ แถมยังคว้าเกียรติยมอันดับหนึ่งติดมือมาด้วยทั้งสองคน ไม่ธรรมดาจริงๆ” สินชัยเอ่ยชมอย่างรู้สึกตื้นตันใจแทนครอบครัวของสองหนุ่ม
“ขอบคุณครับคุณอา” ภัคคินัยยิ้มก่อนจะนั่งลงที่โซฟารับแขก
“ยายขอตัวไปดูตาคินก่อนนะ ไม่รู้ว่าจุดเตาถ่านเป็นหรือเปล่า” กังศมาแกล้งเอ่ยขอตัว
“ครับยาย” ภัคคินัยขานรับ ก่อนจะหันไปคุยกับสินชัยต่อ
หลังบ้าน...
“ไหนว่าจะไปบ้านว่าที่พ่อตา แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ไง” กังศมาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกวนๆ
“ยาย!” คนที่จิตใจกำลังจดจ่อรอสาวที่พอกลับมาถึงบ้าน ก็วิ่งตรงขึ้นห้องนอนไปอาบน้ำโดยไม่แวะทักทายตนสักคำ ตกใจสะดุ้งจนตัวโยน!
“เออ! ก็ยายน่ะสิ ว่าแต่เราแอบชอบน้องไวน์ใช่ไหม?” กังศมาถามเข้าเรื่องที่ค่อนข้างมั่นใจว่าจะต้องใช่ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอคิดเสมอว่าภาคินแค่อยากแกล้งเด็กสาวเล่นตามประสา แต่พออายุเพิ่มขึ้น สายตาของภาคินก็เริ่มแสดงออกอย่างไม่ปิดบังว่ารู้สึกอย่างไรกับวรันยา
“เอ่อ...ผม...” คนที่ถูกไล่ต้อน เริ่มจะไปไม่ถูก
“น้องยังเด็กนะ” กังศมาเอ่ยเตือนโดยไม่สนคำตอบ
“โธ่! ยาย น้องไวน์ไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ (หน้าอกตั้งคัพซีแน่ะ)” ภาคินแอบกลืนประโยคหลังลงคอ เพราะกลัวผู้เป็นยายจะลมจับ
“ก็เด็กกว่าเราตั้ง 7 ปี”
“อย่าเสียงดังสิครับ เดี๋ยวอาสินก็มาได้ยินเข้าหรอก” ภาคินกลอกตาอย่างเซ็งๆ เมื่อผู้เป็นยายเลิกกระซิบแต่คุยด้วยน้ำเสียงปกติ
“ต่อให้สินไม่ได้ยิน ยายก็จะบอก” กังศมาบอกด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะหวั่นใจว่าหลานชายจะทำเรื่องไม่ดีไม่งามกับเด็กสาว
“เอ่อ...จะบอกอะไรผมงั้นเหรอครับคุณมาร์” สินชัยที่เดินมาเงียบๆ เอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อาสิน!” ภาคินมองหน้าว่าที่พ่อตาที่ตนแอบแต่งตั้งให้ในใจ อย่างรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาทันได้ยินได้ฟังประโยคไหนไปบ้าง
“คือฉันจะพาน้องไวน์ไปเที่ยวอังกฤษน่ะพ่อสิน” กังศมารีบบอก เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของหลานชายเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาสาม-สี่เม็ด
“จริงเหรอครับ?” สินชัยถามอย่างรู้สึกตื่นเต้น
“จริงสิ! เราอนุญาตหรือเปล่าล่ะ?” กังศมายิ้มให้อย่างโล่งใจ คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้ยินการสนทนาก่อนหน้า
“อนุญาตสิครับ นึกว่าเรื่องอะไร เห็นทำหน้าเครียดๆ กัน” สินชัยบอกพลางหัวเราะเบาๆ
“เอ่อ...พอดีว่าแม่ทัพสั่งไอรอนแมนมาตัวหนึ่ง แล้วทางร้านส่งมาให้สองตัว ผมเห็นว่าน้องไวน์ชอบก็เลยรับซื้อเอาไว้น่ะครับ” ภาคินรีบออกตัว เพราะกลัวว่า สินชัยจะเริ่มระแคะระคายเรื่องที่ตนแอบชอบวรันยา
“แหม...บังเอิญจังเลยเนาะ” กังศมาที่เงียบมานานเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ ขณะที่ภายในใจเริ่มจะมองเห็นเค้าลางของปัญหา ที่คิดว่าคงจะเกิดขึ้นในเร็วๆ วันนี้ ‘เฮ้อ...หวังว่าเราคงไม่โดนถอนหงอกตอนแก่เพราะตาคินหรอกนะ’
“เอ่อ...” ภาคินอึกอักอย่างไปไม่ถูก เมื่อผู้เป็นยายกระโดดลงมาประทานไฟคบเพลิงสมทบ
สินชัยมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างรู้สึกมึนงง คิดว่ากังศมากับภัคคินัยอาจจะนอยด์ที่ภาคินแอบมาทำเซอร์ไพรส์ โดยไม่บอก “น้องไวน์ขอบคุณพี่เขาสิลูก”
“ขอบคุณค่ะพี่คิน” วรันยาจำใจยกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างไม่มีทางเลี่ยง ขณะที่ภายในใจกำลังขบคิดว่าจะเอาหุ่นไอรอนแมนตัวใหญ่นี้ไปตั้งไว้ตรงไหน?
“ไม่เป็นไรครับ” ภาคินจ้องมองใบหน้างามอย่างรู้สึกน้อยใจ ที่เห็นอาการตื่นเต้นเมื่อก่อนหน้าหายไปจนหมดสิ้น หลังรู้ว่าตนเป็นคนให้
“ยายว่ากุ้งกับปลาหมึกน่าจะสุกแล้วนะคิน” กังศมารีบบอก เมื่อเห็นหลานชายเอาแต่จ้องใบหน้าของวรันยานิ่ง ประหนึ่งว่าบิดาของสาวเจ้าไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย
“เอ่อ...ครับ ทุกคนไปนั่งรอที่โต๊ะเถอะ เดี๋ยวผมรับหน้าที่ย่างของทะเลให้เอง” หนุ่มหล่อเสน่ห์แรงเดินกลับไปที่เตาย่าง แล้วคีบกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ที่สุกได้ที่ใส่ลงในจาน
“น้องไวน์ไปช่วยพี่คินดูของย่างหน่อยสิลูก” สินชัยเห็นสีหน้าของชายหนุ่ม ดูเศร้าลงไปถนัดตา ก็รู้สึกไม่สบายใจ
“ค่ะคุณพ่อ” วรันยาลุกขึ้นอย่างว่าง่าย เพราะเวลาอยู่ต่อหน้าบิดาเธอกับภาคินจะเก็บอาการไม้เบื่อไม้เมา แต่ลับตาเมื่อไหร่ก็จะฉะใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“นี่ครับ” ภาคินส่งจานกุ้งเผาให้สาวเจ้าเอาไปเสิร์ฟ
“ขอบคุณนะคะ สำหรับไอรอนแมน” วรันยาส่งยิ้มบางๆ ให้กับคนที่กำลัง ดราม่าเรียกคะแนนสงสาร ซึ่งก็คงจะมีแต่บิดาของเธอเท่านั้นที่อินตามอีกฝ่าย
“พี่นึกว่าไวน์ไม่อยากได้ซะอีก” คนได้ที่กำลังก้มหน้าก้มตาย่างของทะเล แอบยิ้มกริ่มในใจที่สาวเจ้ามาง้อ ‘บะ! พรุ่งนี้สั่งเทพเจ้าสายฟ้ากับกัปตันอเมริกามาให้อีกอย่างละตัวดีไหมวะ!’
“แหม...อยากได้สิคะ นี่ไวน์ก็กำลังคิดว่าจะเอาไปตั้งไว้ตรงไหนดี ระหว่างสนามหญ้าที่หน้าบ้านกับหน้าห้องน้ำ” วรันยายิ้มเยาะ ‘นี่คิดจริงๆ เหรอว่าคนอย่างเธอจะยอมญาติดีด้วยเพราะหุ่นแค่ตัวเดียว หึ! บัญชีความเลวที่เคยกลั่นแกล้งเธอมาตั้งแต่เด็ก ให้นั่งเล่าสามวันยังเล่าไม่หมดเลย’
“ไวน์!” ภาคินหน้าตึงขึ้นมาทันทีทันใด หลังจากได้ยินน้ำคำที่เชือดเฉือนความรู้สึกดีๆ ที่ตั้งใจจะมอบให้ ‘อะไรกันวะ ทีพี่รัญกับไอ้นัยแหย่เล่นไม่เห็นเคยโกรธ แต่กับเราทำไมถึงแค้นฝังใจนัก’
“กุ้งจะไหม้แล้วค่ะ” วรันยาบอกก่อนจะเดินถือชามใบใหญ่ไปเสิร์ฟให้กับ ทุกคน ที่กำลังคุยเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศอังกฤษกันอย่างออกรส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)