พวกเราลงจากเรือตอนฟ้าสาง สีชิงชวนลากตัวฉันในสภาพสะลึมสะลือลงจากเรือ
พวกเราต้องนั่งรถสามชั่วโมงกว่าจึงจะถึงเมืองฮวา ตอนลงจากรถ พระอาทิตย์ก็โผล่พ้นขอบฟ้าแล้ว ฉันแหงนหน้ามองท้องฟ้าโดยใช้มือบังตา
สีชิงชวนย้ายไปนั่งรถคันอื่น “ผมจะเข้าบริษัทสีซื่อกรุ๊ป”
จากนั้นรถก็พาเขาจากไป
ร่างกายของเขาไม่ต้องการการพักผ่อนหรือไร? เมื่อคืนเขาเข้าร่วมงานเลี้ยงทั้งคืน แต่ฉันได้นอนหลังเที่ยงคืน ด้วยเพราะเขาเกิดความเมตตาขึ้นกะทันหัน แต่ฉันยังรู้สึกนอนไม่อิ่ม อยู่ในอาการมึนๆ เบลอๆ
โชเฟอร์ถามฉันว่า “คุณเซียวจะไปไหนครับ?”
ฉันมองดูนาฬิกาข้อมือพบว่าเป็นแปดโมงเช้า เหมาะที่จะไปบริษัทเซียวซื่อกรุ๊ปที่สุด
แต่ว่าจะเอาไงดีน่ะ? กลับไปอาบน้ำแล้วเข้านอนหรือว่าจะไปทำงานดี?
ระหว่างที่ฉันกำลังชั่งใจอยู่ เฉียวอี้ก็โทรมา “เซียวเซิง ป๋ออวี่ส่งแผนธุรกิจให้ฉันแล้ว เธอจะเข้าบริษัทตอนไหน?”
เร็วขนาดนี้เชียว? ป๋ออวี่จะทำงานเร็วเกินไปไหม เขาคือคนเก่งที่ไม่โอ้อวดฝีมือนั่นเอง
หากตอนนี้ฉันจะกลับไปนอนพักผ่อนก็กระไรอยู่ “เธอช่วยฉันหยิบเสื้อในกระเป๋าให้หน่อย ฉันจะไปเปลี่ยนที่บริษัท”
“ยังต้องการอะไรอีก?”
“พวกแปรงสีฟันกับครีม”
“โอเค”
ฉันมาถึงบริษัทเซียวซื่อกรุ๊ปยังไม่ถึงแปดโมงครึ่งเลย เพราะที่นี่เริ่มทำงานตอนเก้าโมง แต่ประธานอย่างฉันดันมาเช้ากว่าใครๆ ยามรักษาความปลอดภัยเห็นแล้วก็ตกตะลึงอ้าปากพะงาบๆ
“เช้าจังเลยนะครับประธานเซียว?”
“ออ อรุณสวัสดิ์” ฉันพยักหน้าให้อีกฝ่าย
เมื่อฉันเดินเข้าไปก็เห็นหร่วนหลิง ฉันพึ่งจะทิ้งก้นนั่งลง เธอก็ชงกาแฟมาให้ฉันแล้ว ทั้งยังควบมาด้วยแซนวิส “ท่านประธานมาเช้าแบบนี้ คงยังไม่กินข้าวเช้าใช่ไหมคะ ตอนนี้มีแค่นี้ค่ะ ครั้งต่อไปดิฉันจะเตรียมให้เยอะกว่านี้นะคะ หากท่านต้องการมากินข้าวเช้าที่นี่ก็โทรสั่งดิฉันได้เลยค่ะ”
เฉียวอี้มาถึงก็เอาสิ่งของที่ฉันต้องการมาให้ ฉันไปล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อ เฉียวอี้พิงผนังแล้วดื่มกาแฟด้านข้าง “เซียวเซิง ตอนกลางวันพวกเราไปหาซื้อเสื้อกันนะ”
“ทำไม?”
“เธอดูเสื้อเธอแต่ละชุดสิ มันเหมือนเสื้อท่านประธานผู้วางอำนาจบาตรใหญ่ตรงไหน?”
“ทำไมต้องเป็นประธานที่ชอบวางอำนาจบาตรใหญ่ด้วย?”
“เธอเป็นประธานใช่ไหม?”
“ใช่”
“ถ้าประธานไม่เป็นแล้วใครจะเป็นล่ะ?” เสื้อของเธอไม่มีรังสีพิฆาตเลย “เธอดึงเสื้อกันหนาวของฉัน “ตอนเที่ยงฉันจะไปซื้อเป็นเพื่อนเธอ ลำดับแรกต้องเติมเสื้อเข้าตู้เสื้อผ้าในห้องทำงานเธอให้เต็มก่อน เธอจะได้หยิบมาเปลี่ยนตลอดเวลา”
พวกเราเดินออกจากห้องน้ำก็บังเอิญเจอเซียวหลิงหลิงกับเซียวซือพอดี
เมื่อก่อนพวกเธอไม่ได้เข้าทำงานในบริษัทแห่งนี้ แต่ได้ยินมาว่าตอนนี้พวกเธอทำหน้าที่บริหารบริษัทสาขาย่อย คงเป็นความคิดของแม่เลี้ยงอย่างแน่นอน แบบนี้ฉันก็จะดูเป็นคนไร้พรรคไร้พวกไปโดยปริยาย ฉันไม่อยากเป็นปรปักษ์กับพวกเธอ หันมาจับมือกันแล้วบริหารบริษัทที่คุณพ่อสร้างขึ้นให้เจริญก้าวหน้าด้วยกันไม่ดีกว่าเหรอ?
ฉันเป็นฝ่ายทักทายพวกเธอก่อน “พี่ใหญ่ พี่รอง”
เซียวหลิงหลิงทำตาขาวมองบนใส่ฉันตลอด “ไม่ต้อง ไอ้พันธุ์ทาง เธอไม่ใช่ลูกสาวของพ่อฉัน พ่อเธอก็คือคนเสเพลที่มาครั้งก่อนไง เขาขอเงินกับเธอเท่าไหร่เหรอ? เธออย่าหวังเอาเงินของตระกูลเซียวไปให้พ่อสวะของเธอเด็ดขาด”
“เซียวหลิงหลิง” เซียวซือแทรกบท “อย่าพูดเรื่องพวกนี้ในบริษัท”
“สำหรับความรัก อายุก็เป็นเพียงตัวเลข”
“ในสายตาเฉียวอี้ ขอแค่เธอชอบ ต่อให้ต้องรักต่างเผ่าก็ยังได้”
“ความหมายของเธอก็คือหากฉันถูกใจ ฉันก็จะรักกอริลลาด้วยเหรอ?” เฉียวอี้ใช้ศอกดันตัวฉัน เธอเป็นคนมีแรงเยอะมาก ฉันจึงเซไปด้านข้าง
หนีอีโจวรีบมาพยุงตัวฉัน “เฉียวอี้ เธอเล่นเบาๆ หน่อย เซียวเซิงไม่เป็นได้นักกีฬาเหมือนเธอนะ”
“โทษทีเซียวเซิง ฉันมือหนักไปหน่อย เธออ่อนแอเกินไปแล้ว เธอยังจำทักษะการจู่โจมจุดอ่อนของผู้อื่นได้ไหม? ลองทำให้ฉันดูหนึ่งรอบสิ”
“เฉียวอี้ ที่นี่คือห้องทำงานนะ” ไม่ว่าอย่างไรฉันก็เป็นประธานบริหารบริษัท หากคนอื่นมาเห็นฉันซ้อมทักษะจู่โจมจุดอ่อนผู้อื่นในห้องทำงาน แพร่งพรายออกไปจะขายหน้าแย่
เฉียวอี้หัวเราะคิกคักแล้วเอามือคล้องคอฉัน “เซียวเซิง ฉันจะบอกอะไรให้เธอบางอย่าง ตอนนี้สถานะของเธอไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอยิ่งต้องรู้จักป้องกันตัว จะฝากความหวังไว้แต่กับพวกบอดี้การ์ดไม่ได้ ต่อไปฉันจะฝึกเป็นเพื่อนเธอทุกวัน ในที่ทำงานนี่แหละ แบบว่าเริ่มจากทักษะป้องกันพื้นฐานก่อน”
ฉันรีบพูดเฉไฉไปทางอื่น เฉียวอี้มักจะดึงฉันเข้าไปในโลกของเธอตลอด แต่เสียดายฉันไม่มีใจเป็นนักกีฬา
“บริษัทเซียวซื่อกรุ๊ปลงทุนกับโปรเจกต์หมู่เกาะนี้ได้ไหม”
“ดูแล้วเป็นโปรเจกต์ที่ดีเอามากๆ เลย มีแต่กำไร ไม่มีขาดทุนแน่นอน”
“ใช่เหรอ?” ได้ยินหนีอีโจวพูดแบบนี้ฉันก็เกิดความฮึกเหิม แทบอยากไปเซ็นสัญญากับสีชิงชวนตั้งแต่ตอนนี้เลย
“แต่” หนีอีโจวเอ่ยคำว่าแต่ฉันก็เริ่มเครียดขึ้นมา “แต่งบในการลงทุนค่อนข้างสูง คุณพึ่งเข้าบริษัทเซียวซื่อกรุ๊ป ถึงจะเป็นประธานบริหาร แต่ก็คงอนุมัติเงินก้อนโตไม่ได้ และคณะบริหารคนอื่นก็คงไม่อยู่ข้างคุณ”
“แต่โอกาสร่วมลงทุนกับสีชิงชวนและฉินกวนนั้นหายากมาก”
“แม่เลี้ยงคุณต้องไปคุยกับสีชิงชวนแน่ ไม่มีทางปล่อยให้งานชิ้นนี้ตกอยู่ในมือคุณเด็ดขาด”
ฉันกับเฉียวอี้สบตากันปราดหนึ่ง จากนั้นก็ตะโกนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ประชุม แจ้งให้ทุกคนมาประชุมตอนนี้เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...