พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 114

นี่คือสไตล์ของสีชิงชวน คำพูดของเขาสั้นกะทัดรัดแต่ได้ใจความและตรงไปตรงมา

ฉันยื่นการ์ดให้เฉียวอี้ “ของเธอ”

“อะไรนะ? ” เฉียวอี้ได้ยินไม่ชัด “ห้ะ? ”

“ดอกไม้นี่สีชิงชวนส่งให้เธอ”

เฉียวอี้รับการ์ดไปด้วยความหวาดระแวง และอ่านมันอยู่นานเหมือนคนไม่รู้ตัวหนังสือ ตัวอักษรแค่สามตัวแต่ใช้เวลาอ่านอยู่หนึ่งนาทีเต็ม

“ให้เฉียวอี้ หมายความว่ายังไง? ”

“หมายความว่าดอกไม้ช่อนี้สีชิงชวนส่งให้เธอไง”

“ทำไมถึงต้องส่งให้ฉันด้วยล่ะ? ” เธอยังคงโง่เขลาอยู่ เธอลูบผมของตัวเอง “สีชิงชวนบ้าไปแล้วเหรอ? ”

แน่นอนว่าสีชิงชวนไม่ได้บ้า จู่ๆ ฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อคืนนี้เขาถึงพูดคำพูดที่คลุมเครือเหล่านั้นกับฉัน

เขาบอกว่าบนโลกใบนี้ไม่มีมิตรภาพที่แท้จริง เมื่ออยู่ต่อหน้าสิ่งยั่วยวนใจ ผลประโยชน์ และการแย่งชิง มิตรภาพก็ไม่มีค่าอะไร

ดังนั้นที่ตอนนี้เขาส่งดอกไม้มาให้เฉียวอี้ นี่ก็คือสิ่งยั่วยวนใจ

สีชิงชวนเป็นคนมีเสน่ห์มาก เขามั่นใจว่าขอแค่เขาเคลื่อนไหวเริ่มโจมตีก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะไม่สยบลงแทบเท้าเขา

ฉันล่ะอยากจะพ่นคำหยาบออกมาจริงๆ ฉันมองเข้าไปในดวงตาที่สับสนของเฉียวอี้ และไม่ได้บอกคำพูดเมื่อคืนกับเธอ

ทันใดนั้น ฉันก็คิดว่าบททดสอบนี้ของสีชิงชวนเหี้ยมโหดมาก ฉันเองก็ไม่รู้คำตอบสุดท้ายเหมือนกัน

แต่เฉียวอี้ก็คือเฉียวอี้ ไม่นานเธอก็ลืมเรื่องนี้ไปจนหมดสิ้น และเปิดประชุมเล็กๆ กับฉัน หลังจากนั้นก็ไปปรึกษากับหร่วนหลิงว่าตอนกลางวันจะทานอะไรดี

เธอยกกองเอกสารเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการมาให้ฉันอ่าน ฉันนั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องทำงานคนเดียว แต่เพียงแค่เงยหน้าขึ้นก็จะมองเห็นช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟฝั่งตรงข้ามช่อนั้น

ดอกกุหลาบสีเขียวกลิ่นหอมมาก กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยเข้ามาในจมูกของฉันอยู่บ่อยๆ

ฉันกลุ้มใจมาก เพราะฉันเองก็แอบคาดหวังปฏิกิริยาของเฉียวอี้อยู่เล็กน้อยเช่นกัน

และยังรู้สึกกังวลนิดหน่อยด้วย เมื่อก่อนฉันเคยอ่านนิยายสืบสวนเล่มหนึ่ง ในนิยายเล่มนั้นมีสะพานที่เอาไว้ทดสอบใจคน

ตัวเอกพูดมาประโยคหนึ่งว่าขอแค่เป็นจิตใจคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่สามารถทนต่อการทดสอบได้

งั้นเฉียวอี้ล่ะ? เธอจะทนได้ไหม?

ฉันอ่านเอกสาร เอกสารพวกนั้นมีแต่ทฤษฎีมากเกินไป ฉันอ่านจนรู้สึกเวียนหัวไปหมด เฉียวอี้วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “เซียวเซิง ตอนเที่ยงพวกเราไปกินข้าวหน้าหมึกยักษ์กันดีไหม? ”

เฉียวอี้ชอบอาหารทะเลทุกชนิด เธอสามารถทานหมึกยักษ์ที่ยังดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนข้าวได้ และยังบอกอีกด้วยว่าเธอชอบความรู้สึกหายใจไม่ออกเวลาที่หนวดของหมึกยักษ์มันดูดคอเธอมาก เป็นคนที่แปลกจริงๆ

“ได้นะ แต่ฉันอยากกินแบบสุกๆ อย่าบังคับให้ฉันกินแบบดิบเลย”

“หมึกยักษ์สุกๆ มันจะไปอร่อยอะไร? ”

“งั้นฉันไม่ไปแล้ว”

“ก็ได้ๆ เธอกินแบบสุก ฉันกินแบบดิบ” ขณะที่พูด หร่วนหลิงก็เคาะประตู “คุณเฉียวคะ คุณป๋ออวี่มาหาคุณค่ะ”

ป๋ออวี่? หมายถึงผู้ช่วยป๋อ ป๋ออวี่คนนั้นน่ะเหรอ?

เฉียวอี้เองก็งงเหมือนกัน และป๋ออวี่ก็ยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้ว “คุณเฉียว ผมมารอคุณเลิกงานจะได้รับคุณไปทานข้าวกลางวันครับ”

“พวกเราสองคนจะไปทานอะไรเป็นมื้อเที่ยงเหรอ? ”

“ไม่ได้ไปกับผมครับ คุณสีให้ผมมารับคุณ”

เฉียวอี้อ้าปากค้าง และหันมามองฉัน “เกิดอะไรขึ้น? ”

ฉันยักไหล่ เวลานี้เองสายจากสีชิงชวนก็โทรเข้ามา ฉันรับสาย

“ห้ามใช้สปีกเกอร์โฟน” เขาเอ่ย

ฉันส่งเสียงฮึดฮัดออกมา “มีแค่ฉันคนเดียวที่ได้ยิน”

“เซียวเซิง ถ้าคุณอยากเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริงที่สุดละก็ งั้นก็ห้ามบอกเฉียวอี้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วคุณก็จะได้เห็นปฏิกิริยาที่แท้จริงที่สุดของเธอ”

“นี่คุณจะมากเกินไปหน่อยหรือเปล่า? ”

วาดรูป แกะสลัก เขียนคำคมต่างๆ ฉันทำได้หมด แต่ถ้ามาให้ฉันทำเรื่องพวกนี้ ฉันทำไม่ได้จริงๆ

คิดไปคิดมาก็รู้สึกกดดันมาก แต่ฉันก็รู้สึกแปลกใจมากที่เฉียวอี้ไม่รู้สึกแปลกใจกับการกระทำของสีชิงชวนเลยแม้แต่น้อย

“เธอไม่รู้สึกแปลกใจเลยเหรอว่าทำไมสีชิงชวนถึงส่งดอกไม้ให้เธอ? ”

“เพราะฉันน่ารักไง! ”

“เชอะ”

วาซาบิทำเอาเธอเผ็ดจนแสบตา หลังจากดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่เธอก็มองมาที่ฉัน “เธอคงไม่ได้หึงหรอกใช่ไหม เธอไม่ชอบสีชิงชวนนี่ ถึงเขาไม่ส่งให้ฉัน เขาก็ส่งให้คนอื่นอยู่ดี”

วงจรความคิดของเฉียวอี้ทำให้รู้สึกประหลาดใจอยู่เสมอ บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเธอคิดยังไงอยู่

พอพวกเราทานอิ่มก็เดินออกมาจากร้านอาหาร เดินออกมาได้สองก้าวจู่ๆ เฉียวอี้ก็หยุดเดิน มือชี้ไปข้างหน้า ใบหน้าแดงก่ำไปด้วยความตื่นเต้น

“โอ้ๆ ของดี”

“อะไรเหรอ? ” ฉันมองตามสายตาของเธอไป เห็นหุ่นยนต์ตัวใหญ่มากกำลังเดินเข้ามาหาพวกเรา

เฉียวอี้ชอบหุ่นยนต์มาตลอด ไม่รู้ว่าเธอดู Transformers ไปกี่รอบแล้ว ทุกครั้งที่ฉันดูเป็นเพื่อนเธอ ฉันก็จะหลับตลอด ก็เหมือนกับตอนที่เธอดูหนังวรรณกรรมเป็นฉัน เธอก็หลับตลอดเหมือนกัน

ความสนใจของพวกเราสองคนไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคของพวกเราในการเป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุด

เฉียวอี้กระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น “ว้าว นี่มันจะยอดเยี่ยมมากเกินไปแล้ว มาจากไหนเนี่ย? ”

เธอวิ่งเข้าไปลูบคลำไปทั่วทั้งตัวหุ่นยนต์ “ทำไมมันถึงขยับเองได้ มีใครใช้รีโมตคอนโทรลเหรอ? ”

“ไม่มีรีโมตคอนโทรล แน่นอนว่าเขาเป็นหุ่นยนต์ก็เลยขยับด้วยตัวเองได้” เสียงของสีชิงชวนดังมาจากด้านในตัวหุ่นยนต์ ฉันจึงได้พบว่าหุ่นยนต์ตัวนี้เหมือนเป็นเสื้อผ้าที่ถูกสวมใส่ลงบนตัวเขา เขาปลดตัวล็อกออกและเดินออกมาจากด้านใน เฉียวอี้รีบพุ่งเข้าไปจับหุ่นยนต์อย่างดุเดือด

สีชิงชวนมองฉันด้วยรอยยิ้ม ฉันรู้สึกแน่นหน้าอก

เขาทำการบ้านมาเป็นอย่างดีจริงๆ รู้ว่าเฉียวอี้ไม่ได้ชอบแค่เครื่องประดับและดอกไม้พวกนั้นที่เด็กผู้หญิงชอบกัน สิ่งที่เธอชอบมากที่สุดคือหุ่นยนต์ ดังนั้นเขาก็เลยตอบสนองความต้องการของเธอ

สิ่งนี้น่ากลัวมาก ไม่กลัวศัตรูเล่นลูกไม้ ก็กลัวศัตรูฉลาดมากเกินไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)