พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 165

ไม่นานคุณหมอก็มาถึง เป็นคนเดียวกันกับที่มาตรวจให้สีชิงชวนเมื่อตอนเย็น

มองออกเลยว่าเขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับสถานการณ์ที่พวกเราเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนคน แต่อาการบาดเจ็บกับบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บกลับเหมือนกันทุกประการ

“คุณก็ตกลงมาจากต้นไม้เหมือนกันเหรอครับ? ”

“ห้องน้ำค่ะ” ฉันเอ่ยออกมาสั้นๆ แต่ได้ใจความ

“เอาหลังลงเหมือนกันเหรอครับ? ”

“ค่ะ”

ฉันนอนคว่ำหน้าอยู่อย่างนั้น คุณหมอลงมือเปิดเสื้อผ้าของฉันออก แต่สีชิงชวนยั้งเอาไว้ “มันไม่ค่อยสะดวกเหรอครับ? ”

“คุณชายสาม” คุณหมอหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “ถ้าคุณไม่ให้ผมดูแผลของเธอ แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าอาการบาดเจ็บของเธอเป็นยังไง? ”

“ผมจะบอกคุณเอง กระดูกสะบักบวมแดงแต่ผิวหนังไม่ได้เปิดออก กลางหลังมีรอยช้ำสองรอย ส่วนอาการบาดเจ็บตรงบริเวณเอวยังไม่แน่ชัด”

“ในเมื่ออาการบาดเจ็บไม่แน่ชัดแล้วจะให้วินิจฉัยยังไง? ”

“คุณคลำกระดูกดูก็พอแล้ว”

“คุณชายสาม” คุณหมอดูจนปัญญามาก “ผมตรวจแบบไม่มองไม่ได้จริงๆ ”

“งั้นก็หมายความว่าฝีมือการรักษาของคุณยังต้องการการปรับปรุงอยู่” สีชิงชวนเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา

ฉันเจ็บปวดมากจนเหงื่อแทบจะไหลออกมาแล้ว แต่เขายังจะมาเถียงเรื่องพวกนี้กับหมออยู่อีก ฉันกล้ารับประกันเลยว่าเขาจงใจทำแบบนี้ ทำให้ฉันเจ็บปวดจนกลายมาเป็นแบบนี้

“สีชิงชวน คุณรู้วิธีการตรวจวินิจฉัยโรคเหรอ? อย่าทำให้คุณหมอเสียเวลาในการตรวจฉัน” ฉันเจ็บจนตอนที่พูดฉันก็จะต้องตะโกนออกมา ไม่อย่างนั้นมันจะพูดไม่ออก

ไม่เคยมีใครกล้าทำรุนแรงใส่สีชิงชวนมาก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเจ็บมากจริงๆ ฉันเองก็คงไม่กล้าเหมือนกัน

ถ้าตามนิสัยเมื่อก่อนของสีชิงชวน เขาจะต้องดึงฉันขึ้นมาจากเตียงแล้วหมุนตัวสามร้อยหกสิบองศาจากนั้นก็โยนฉันออกนอกหน้าต่างไปเป็นแน่

แต่ในครั้งนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้น คาดว่าน่าจะเป็นเพราะเขาเห็นฉันบาดเจ็บ ถ้าเขาโยนฉันออกไปก็จะไม่มีคนอยู่เล่นกับเขา

เขานั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ และเงียบเสียงไปในที่สุด คุณหมอเปิดเสื้อผ้าของฉันออกเพื่อตรวจดูหลังของฉัน

“ล้มแรงมากครับ ผมขอดูหน่อยนะว่ากระดูกของคุณเป็นอะไรไหม”

“สวมถุงมือยางด้วย” สีชิงชวนที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นมาเสียงเย็น

“การสวมถุงมือยางจะทำให้ความรู้สึกที่เกิดในขณะที่ใช้มือสัมผัสแย่ลง”

“คุณมาตรวจกระดูกหรือว่ามาใช้มือลูบคลำหาความรู้สึก? ”

คุณหมอยอมประนีประนอม หมอสวมถุงมือยางเย็นๆ เข้าไปจากนั้นก็ตรวจดูกระดูกสันหลังและกระดูกบริเวณเอวของฉัน เนื้อสัมผัสของยางทำให้รู้สึกระคายผิวจริงๆ

สีชิงชวนก็ช่างเกินไปจริงๆ เวลาแบบนี้ยังจะมาแสดงอยู่อีก แสดงให้คุณหมอได้เห็นว่าเขาแคร์ฉันมากแค่ไหน

การประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์มาถึงจุดที่พิถีพิถันขนาดนี้แล้วเหรอนี่ ฉันคิดว่าภาพลักษณ์ของเขาจะถูกกอบกู้กลับคืนมาในไม่ช้า

“เจ็บไหมครับ? ” ขณะที่คุณหมอใช้มือคลึงลงไปที่จุดจุดหนึ่งก็เอ่ยถามฉันขึ้นมาด้วยความละเอียดรอบคอบ

“ไม่เจ็บค่ะ”

“ตรงนี้ล่ะ? ”

“ไม่เจ็บค่ะ”

“แล้วตรงนี้ล่ะ? ”

“เจ็บๆ ”

เมื่อคุณหมอตรวจเสร็จก็สรุปผลการวินิจฉันออกมาว่า “เป็นไปได้ว่ากระดูกสะบักอาจมีการแตกเล็กน้อย ไปเอ็กซเรย์ตรวดูที่โรงพยาบาลอีกทีน่าจะดีกว่าครับ”

สีชิงชวนลุกขึ้นมาจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วและโยนกุญแจรถไปให้หมอ “คุณขับรถพาพวกเราไป”

ฉันนอนคว่ำอยู่ก็เลยมองไม่เห็นหน้าของคุณหมอ แต่คิดว่าสีหน้าของเขาในเวลานี้จะต้องตะลึงงันอยู่แน่นอน

“คุณชายสาม คุณรู้ว่าผมไม่ได้ไปตรวจด้วย หลังจากพวกคุณตรวจเสร็จก็จะตรงไปรับการรักษาและรับยาที่โรงพยาบาลเลย”

“ผมก็ไม่ได้จะให้คุณไปตรวจกับพวกผมด้วย คุณก็แค่ไปเป็นคนขับรถเท่านั้น” สีชิงชวนเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงและมองมาที่ฉัน “คุณเดินเองไม่ได้ใช่ไหม? ”

“น่าจะนะ”

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณตัวหนัก”

“แล้วตอนนี้ภรรยาของคุณอยู่ไหนล่ะ? ”

“ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตไปแล้วครับ”

ฉันนอนคว่ำอยู่จึงมองเห็นแค่ท้ายทอยของสีชิงชวน เขาไม่ได้ตอบกลับคุณหมอไป แต่จากท้ายทอยก็ดูออกแล้วว่าเขาพูดไม่ออก

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสีชิงชวนนั่งที่นั่งข้างคนขับแล้วทำให้คุณหมอกดดันมากหรือเปล่า ตลอดทางเขาขับรถช้าเหมือนเต่า และยังส่ายไปมาอีกด้วย โดยภาพรวมแล้วเขาผ่านไฟเขียวทั้งหมดไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ต้องรออยู่หลายครั้งถึงจะผ่านไปได้

ฉันดีใจมากที่ฉันล้มแค่ที่หลัง ถ้าฉันล้มไปโดนจุดอื่นๆ ที่อันตรายถึงชีวิตละก็ คาดว่าน่าจะตายระหว่างทางได้

“เหล่าสวี” ในที่สุดสีชิงชวนก็ทนต่อไปไม่ไหว “สิ่งที่ผ่านรถของพวกเราไปเมื่อกี้คืออะไร? ”

คุณหมอสวีกำลังจดจ่ออยู่กับการขับรถ จากกระจกมองหลังทำให้ฉันเห็นใบหน้าของเขา เส้นเลือดปูดออกมาหมดแล้ว “อะไรนะครับ? ”

“รถไฟฟ้า กับรถมอเตอร์ไซค์หนึ่งคันไงคุณหมอ” น้ำเสียงของสีชิงชวนเหมือนเก็บอะไรไว้ในใจไม่ยอมพูดออกมา “รถไมบัคของผมถูกมอเตอร์ไซค์คันเล็กๆ คันหนึ่งแซงไปแล้ว”

“ผมขับเร็วไม่ได้ และโรงพยาบาลก็อยู่ไม่ไกล อาการบาดเจ็บของคุณนายสามก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร ช้าหน่อยก็ไม่ตายหรอกครับ”

“คุณขวางการจราจร”

“นี่มันกลางดึกแล้วและบนถนนก็ไม่มีรถ อันที่จริงนี่มันก็ดีมากเลยล่ะ” จู่ๆ คุณหมอสวีก็ดีใจขึ้นมา “ผมกำลังกลุ้มใจว่าไม่มีเวลาฝึกขับรถอยู่เลย ตอนนี้ก็สามารถฝึกได้พอดีเลย”

ฉันคิดว่าความโกรธของสีชิงชวนมาถึงจุดปะทุแล้ว ถ้าคุณหมอสวียังพูดต่อไปอีกละก็ เขาจะโกรธขึ้นมาแล้วนะ

แต่เป็นไปได้ว่าคุณหมอสวีกับสีชิงชวนน่าจะคุ้นเคยกันมาก ดังนั้นนิสัยของทั้งสองฝ่ายจึงเข้ากันได้เป็นอย่างดี

ฉันหลับตาลง ช่างมันแล้ว ช้าก็ช้า คุณหมอสวีพูดถูก อาการบาดเจ็บของฉันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร

“ถ้าคุณยังขับแบบนี้ต่อไปอยู่อีก กระดูกของเธอที่แตกออกก็คงจะหายดีแล้ว” สีชิงชวนเยาะเย้ย

“มันก็ไม่ได้ช้าขนาดนั้น ผ่านถนนเส้นนี้ไปก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว นั่นไง ย่าย่าย่าย่า ข้างหน้ามีคน มีคน...” คุณหมอสวีหวีดร้องเสียงแหลมขึ้นมาและเหยียบเบรกอย่างแรง ฉันที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเบาะด้านหลังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ ดังนั้นแรงกระแทกจึงทำให้ฉันกลิ้งตกลงไปจากเบาะที่นั่งด้านหลัง ฉันตกลงไปอนหงายท้องอยู่ในรถ

สีชิงชวนหันกลับมาดูฉัน ฉันตกลงมาจนเวียนหัวตาลายไปหมด และมองเห็นรางๆ ว่าสีหน้าของสีชิงชวนดูโมโหมาก

เขาลงจากรถเพื่อมาพาฉันลุกขึ้น ฉันติดอยู่ระหว่างเบาะหน้ากับเบาะหลัง เขาดึงฉันเหมือนดึงหัวไชเท้าอยู่นานถึงจะพาฉันออกมาได้

“สวีฮว่า” สีชิงชวนเอ่ยออกมาทีละคำ “คนเดินถนนคนนั้นอยู่ห่างจากพวกเราอย่างน้อยสามสิบเมตร จำเป็นต้องรีบเบรกไหม? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)