พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 164

“มีตัวเลือกที่สี่ไหม? ”

“คุณพูดมาสิ? ”

“คงไม่ใช่ว่าคุณไม่กล้านอนต่างที่คนเดียวหรอกใช่ไหม? ” ฉันคิดว่ามีความเป็นไปได้อย่างมาก

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยยัน “คุณพูดมาสิ? ”

“โอเค ฉันเลือกข้อสาม นอนโซฟา”

แน่นอนว่าฉันต้องเลือกนอนโซฟาอยู่แล้ว ใครจะไปเลือกนอนพื้นหรือนอนกับเขากันล่ะ?

ฉันเดินไปตรวจดูโซฟา และพบว่าโซฟาในห้องของเขาเป็นโซฟาเดี่ยว ไม่ใช่แบบตัวยาว

ฉันเดินกลับไปถามเขา “ฉันจะนอนได้ยังไง? ”

“งั้นก็เหลือแค่สองตัวเลือกแล้ว” เขาชี้ไปที่ข้างๆ เตียงของเขา “คุณนอนพื้นได้แค่ตรงนี้เท่านั้น”

โอเค นอนพื้นก็นอนพื้น ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ฤดูร้อนแล้ว และพื้นห้องเขาก็ดีมาก อีกทั้งยังเป็นชั้นบนไม่ต้องกังวลว่าจะชื้นด้วย

ฉันไปหาผ้าห่มมาสองผืน ผืนหนึ่งปูลงบนพื้น อีกผืนหนึ่งเอาไว้ห่ม

ขณะที่กำลังจะล้มตัวลงนอน เขาก็ใช้มือเท้าคางมองมาที่ฉัน “คุณไม่อาบน้ำเหรอ? ”

โอ้ ฉันหงุดหงิดเขาจนลืมเรื่องอาบน้ำไปเลย

ฉันเดินไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ขณะที่กำลังจะล็อกประตูก็พบว่าฉันไม่ได้เอาชุดนอนมาด้วย ตอนที่ออกมาจากตระกูลสีฉันรีบจนเอามาแค่ชุดธรรมดาที่เอาไว้เปลี่ยนตามปกติ ไม่ได้เอาชุดนอนมา

เมื่อสักครู่นี้ตอนที่ฉันเปิดตู้เสื้อผ้าของสีชิงชวน เขามีชุดนอนสั้นๆ เยอะมาก ชุดนอนผ้าไหมเย็นๆ แบบนั้นดูใส่สบายมาก

ฉันวิ่งออกไปเจรจากับเขา “สีชิงชวน ฉันไม่ได้เอาชุดนอนมา ขอใส่ชุดนอนของคุณได้ไหม? ฉันจะซักให้สะอาดก่อนคืนให้คุณ”

“ใส่ไปเถอะ” ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะใจกว้างมาก “แต่ผมไม่คิดว่าพวกเราสองคนจะใส่ไซส์เดียวกันนะ”

นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ก็เขาสูงมากขนาดนี้

ฉันเดินไปเลือกชุดนอนสีฟ้าอ่อนมาตัวหนึ่ง ดูท่าทางคงไม่ต้องใส่กางเกงแล้ว แค่ความยาวของเสื้อตัวบนก็ยาวพอให้ฉันใส่เป็นกระโปรงได้แล้ว

ฉันหยิบชุดนอนเดินเข้าไปในห้องน้ำ และล็อกประตูจากข้างใน

ทันใดนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงของสีชิงชวนดังมาจากด้านบนเพดานของห้องน้ำ

“ผมไม่ได้สนใจร่างกายของคุณมากขนาดนั้น”

ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างรวดเร็ว และเห็นลำโพงอยู่ตรงมุมเพดาน “คุณคงไม่ได้ติดตั้งกล้องไว้ในนี้ใช่ไหม”

“เปล่า”

ทำไมฉันถึงรู้สึกไม่เชื่อเลยนะ ฉันปีนขึ้นปีนลงเดินเข้าๆ ออกๆ ตรวจดูรอบๆ แม้ว่าจะหาไม่เจอ แต่ในใจก็ยังคงมีความหวาดกลัวหลงเหลืออยู่จนแทบอยากจะใส่เสื้อผ้าอาบน้ำ

ฉันทำให้ในห้องอาบน้ำเต็มไปด้วยหมอกหนาๆ ก่อนแล้วถึงจะเดินเข้าไป เท่านี้ต่อให้มีกล้องก็มองไม่เห็นข้างในแล้ว

ตอนที่ออกมาใส่เสื้อผ้าก็ค่อนข้างตื่นตระหนก ฉันไม่สามารถใส่เสื้อผ้าในห้องอาบน้ำได้ จึงเอาผ้าขนหนูผืนใหญ่ห่อตัวแล้วเดินออกมาจากด้านใน ฉันเอาเสื้อผ้ายัดเข้าไปข้างในผ้าขนหนูแล้วเปลี่ยน

มือและเท้าของฉันพันกันไปหมด เลยไม่ทันระวังว่ามีน้ำอยู่บนพื้น และล้มหงายหลังลงไป

ฉันล้มแรงมาก แม้ว่าหัวจะไม่ได้กระแทกไปกับพื้น แต่แผ่นหลังทั้งหลังก็ล้มลงไปกับพื้นแรงมาก ฉันรู้สึกว่าฉันได้ยินเสียงกระดูกสะบักกระแทกกับพื้น ฉันรู้สึกเหมือนกระดูกแตกเป็นเสี่ยงๆ

“โอ๊ย” ฉันร้องออกมาอย่างน่าเวทนา น่าเวทนามากๆ

ประตูห้องน้ำถูกผลักเปิดเข้ามา สีชิงชวนวิ่งเข้ามาจากด้านนอก “เซียวเซิง คุณเป็นอะไรไป? ”

ใบหน้าของเขาลอยอยู่เหนือใบหน้าของฉัน หลังของฉันเจ็บจนฉันไม่สามารถแยกแยะสีหน้าของเขาได้ว่าเขาร้อนใจหรือไม่

“ฉันล้ม” พอพูดออกไปหลังของฉันก็เจ็บจนหดตัว ไม่สามารถพูดเสียงดังได้

“คุณล้มหัวกระแทกเหรอ? ” เขาย่อตัวลงมานั่งยองๆ และยื่นมือออกมาลูบใบหน้าของฉันเบาๆ เหมือนกลัวว่าฉันจะแกล้งล้มเพื่อหลอกเขา

“เปล่า”

“งั้นก็ดีแล้ว” เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “เดิมทีคุณก็โงอยู่แล้ว ถ้าล้มหัวกระแทกไปอีกจะยุ่งเอา”

เวลาแบบนี้ก็ยังจะมาเหน็บแนมฉันอีกนะ เขายังมีความเป็นมนุษย์อยู่ไหม?

ฉันเจ็บจนไม่กล้าหายใจ เขาขมวดคิ้ว “คุณเอาตรงไหนลง? ”

“หลัง เจ็บมาก”

เขาขมวดคิ้วมองฉันอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ยื่นชุดนอนมาให้ฉัน “ใส่เสื้อผ้า”

“ฉันขยับตัวไม่ได้” เขาคิดว่าฉันเต็มใจมานอนคว่ำอยู่ที่นี่เหมือนกบตัวใหญ่ตัวหนึ่งอยู่แบบนี้เหรอ?

เมื่อสักครู่นี้ฉันยังหัวเราะเยาะเขาแบบนี้อยู่เลย

“ผมจะช่วยใส่ให้คุณเอง”

“คุณไม่ต้องมาสนใจฉันแล้ว” ฉันใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว “ปล่อยฉันไปตามยถากรรมแบบนี้ได้ไหม? ”

“ผมจะตามหมอมาดูคุณ คุณคิดว่าคุณนอนเปลือยอยู่แบบนี้มันดูดีมากเหรอ? ”

“ฉันไม่จำเป็นต้องหาหมอ”

“ถ้ากระดูกสันหลังหรือกระดูกบริเวณเอวของคุณเคลื่อนไปอยู่ผิดตำแหน่ง ต่อให้จะไม่ได้เป็นอัมพาตร้ายแรงมากขนาดนั้น แต่กระดูกสันหลังก็จะคด แล้วตัวของคุณก็จะเหมือนต้นไม้ที่ลำต้นคดงอ”

ฉันมองไปที่เขาเหมือนคนโง่ และจินตนาการว่าตัวเองกลายเป็นต้นไม้ที่ลำต้นคดงอ

ฉันจึงได้แต่ยอมให้สีชิงชวนช่วยฉันแต่งตัว ฉันขยับตัวไม่ได้และได้แต่นอนคว่ำอยู่บนตัวเขาอยู่อย่างนั้น ส่วนเขาก็ช่วยใส่เสื้อผ้าให้ฉัน ยังดีที่ตลอดทั้งกระบวนการการแสดงออกของเขาปกติมาก สายตามองตรงไม่วอกแวก

เมื่อใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วเขาก็ไปโทรศัพท์ ส่วนฉันก็นอนคว่ำอยู่บนเตียงต่อไป

หลังยังคงเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้ดีขึ้นตามกาลเวลาเลยแม้แต่น้อย

พอเขาคุยโทรศัพท์เสร็จก็เดินเข้ามานั่งข้างๆ ฉันและเหน็บแนมฉันว่า “นี่คือจุดจบของคนที่มีจิตใจคิดร้ายอย่างคุณ”

“ฉันคิดว่าคุณไม่ควรจะมาดีใจอยู่แบบนี้นะ” ฉันรู้สึกอ่อนแรงส่วนเสียงก็แหบแห้งไปหมด

“ยังไง? ”

“คุณอย่าลืมนะว่าคุณเองก็บาดเจ็บเหมือนกัน ที่นี่มีแค่พวกเราสองคน ตอนนี้ฉันเองก็หกล้มเหมือนกันแล้ว อย่าหวังว่าฉันจะดูแลคุณต่อไปได้อีก คุณคิดว่าเจ้าหุ่นยนต์ปัญญาอ่อนนั่นจะปรนนิบัติรับใช้คุณได้อย่างนั้นเหรอ? ”

“ทำไมเวลาแม่เลี้ยงของคุณกับเซียวหลิงหลิงรังแกคุณอยู่บ่อยๆ ก็ไม่เห็นคุณจะอาฆาตขนาดนี้เลย แต่ตอนนี้กลับมาตกระกำลำบากกับหุ่นยนต์ของผมอยู่แบบนี้”

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา ฉันก็แค่ดวงไม่สมพงษ์กับยัยเซ่อเบธนั่น

ไม่สิ มันเป็นแค่หุ่นยนต์ปัญญาอ่อน ไม่มีดวงซะหน่อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)