พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 173

อาหารค่ำอร่อยมาก ความอยากอาหารของฉันดีมาก อีกอย่างหลังฉันก็ไม่ได้เจ็บเท่าก่อนหน้านี้แล้ว

ในเวลาหนึ่งมื้ออาหาร สีชิงชวนรับโทรศัพท์ไปแล้วนับไม่ถ้วน รับจนเขาหงุดหงิด

ขณะที่เขากำลังทานปลาหัวยุ่ง ปลาชนิดนี้มีก้างแค่ชิ้นเดียว เวลากินก็ทุ่นแรงดี หัวของปลาหัวยุ่งไม่ใหญ่ เขายัดเข้าปากไปทั้งตัว จากนั้นก็ค่อยดึงก้างปลาออกโดยดึงหางมันออกมา

วิธีกินของเขามันป่าเถื่อนมาก แต่ก็น่าสนใจมากเหมือนกัน ฉันเรียนรู้จากเขา แต่ปากฉันไม่ได้ใหญ่เท่าเขาจึงยัดปลาเข้าไปทั้งตัวไม่ได้

ขณะที่ฉันกำลังต่อสู้กับเจ้าปลาตัวนั้น โทรศัพท์ของสีชิงชวนก็ดังขึ้นอีกครั้ง เขาจึงกดเปิดลำโพง

เขาชอบทานปลามาก ไม่น่าล่ะถึงฉลาดจนมีแสงออกจากหัว

ปลายสายคือคุณพ่อสีที่โทรเข้ามา ท่านพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “ชิงชวน ลูกกำลังทำอะไรกันแน่? ข่าวซุบซิบของลูกมันกระทบสีซื่อกรุ๊ปไปหมดแล้ว ได้ยินว่าลูกปฏิเสธการร่วมมือเยอะเลยเหรอ?”

“ผมไม่ได้ปฏิเสธ” เขาดึงก้างปลาออกมาอีกชิ้นหนึ่งด้วยท่าทางป่าเถื่อนมากขึ้น “พวกเขาเรื่องมากเอง”

“ธุรกิจของสีซื่อกรุ๊ปทั้งนั้น ลูกเซ็นหรือพี่ใหญ่และพี่รองของลูกเซ็น มันมีอะไรต่างกันหรือไง? ทำไมต้องปฏิเสธ?”

“บริษัทพวกนั้นวิสัยทัศน์ไม่กว้างไกลเพราะเชื่อแค่ข่าวลือ บริษัทที่ไม่มองการณ์ไกลแบบนี้ยังมีอะไรให้ต้องร่วมมือกันอีกเหรอครับ? ลากันตรงนี้ไปเลยดีกว่า”

“สีชิงชวน” ตอนที่คุณพ่อสีเรียกชื่อสีชิงชวนอย่างเต็มยศก็คงเป็นตอนที่ท่านกำลังโกรธมาก “ลูกอย่าเอาความถือดีของตัวเองมาใช้ที่บริษัทได้ไหม? เราร่วมมือกับบริษัทพวกนั้นมานานแล้ว”

“จากครั้งนี้ก็มองเงื่อนงำออกแล้วนะ พ่อครับ อย่าเห็นแก่ได้กับผลประโยชน์ระยะสั้น การร่วมมือกับบริษัทพวกนี้จะส่งผลเสียต่อสีซื่อกรุ๊ปของเราในไม่ช้าก็เร็ว”

“สีชิงชวน พ่อให้เวลาลูกจัดการเรื่องวุ่นวายพวกนั้นของลูกให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด อีกอย่าง ความร่วมมือที่ลูกปฏิเสธไปวันนี้ พ่อจะให้พี่ใหญ่ของลูกมาทำ ลูกไม่ต้องเข้ามายุ่งอีก”

“พ่อครับ ผมเสียใจแทนพ่อที่ให้พี่ใหญ่เป็นแพะรับบาปในอนาคต”

“สีชิงชวน ไม่ใช่ว่าการตัดสินใจทุกครั้งของลูกมันจะถูก! อวดดีเกินไปมันจะทำให้ตัวเองเสียเวลา แค่นี้แหละ!” คุณพ่อสีพูดจบก็วางสายไป

ฟังออกเลยว่าท่านโกรธมาก สีชิงชวนทานปลาหัวยุ่งของเขาต่อไป

บนโต๊ะไม่ได้มีเพียงปลาหัวยุ่ง แต่ยังมีปลาจากในแม่น้ำอีกชนิดหนึ่ง เนื้อของมันนุ่มละเอียด อร่อยกว่าปลาหัวยุ่งซะอีก

เขาทานปลาหัวยุ่งเสร็จก็หันไปทานปลาชนิดนั้น แถมยังไม่ลืมแกะเนื้อปลาให้ฉันอีกด้วย ฉันรู้สึกกลัวมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาก็ทานมันเข้าไปด้วย ฉันก็กลัวจริงๆ นะว่าเขาจะวางยาฆ่าฉัน

ฉันกินไปพลางจับตามองสีหน้าของไอ้โหดไปพลาง นอกจากคุณพ่อสีแล้ว ในชีวิตของสีชิงชวนคงไม่เคยถูกใครด่ามาก่อนเลยล่ะมั้ง ถึงจะดูจากสีหน้าเขาไม่ออก แต่ฉันคิดว่าเขาต้องสะเทือนใจอยู่แน่ๆ

ฉันรู้สึกกังวลทำให้ทานอาหารได้อย่างไม่เอร็ดอร่อย เขาดึงบางอย่างออกมาจากปากฉันแล้วแกว่งไปมาตรงหน้าฉัน “คุณเคี้ยวหัวหอมนี่มาหลายนาทีแล้ว”

“เอ๊ะ” ไม่น่าล่ะทั้งปากฉันถึงมีแต่กลิ่นหัวหอม

“คุณกำลังคิดอะไร?”

ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันกำลังคิดอะไร ในสมองมันว้าวุ่นสับสนมาก

ฉันยังไม่ได้ตอบ สีชิงชวนก็แกะหนังปลาพลางพูดขึ้นกับฉัน “ตอนนี้ในใจคุณรู้สึกผิด โทษตัวเอง เสียใจ พัวพันกันไปหมด”

เอ๊ะ เขารู้ได้ไง?

เขาคีบหนังปลาที่แกะออกมาใส่ในถ้วยฉัน

“ฉันไม่กินหนังปลา”

“ผมก็ไม่กิน”

“งั้นก็ทิ้งไป”

“ผมไม่ชอบทิ้งอาหาร” เขายกมือทั้งสองขึ้นเท้าคางแล้วมองของที่ฉันไม่ชอบกิน

ฉันมองหนังปลาเหี่ยวๆ สีดำในถ้วย มองแล้วก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว แต่ดูท่าแล้ว ถ้าฉันไม่กินมันเข้าไป สีชิงชวนคงฆ่าฉันตายแน่ๆ เขานี่วิปริตจริงๆ ของที่ไม่ชอบกิน แค่ทิ้งไปก็จบแล้ว ทำไมต้องให้ฉันกินด้วย?

ฉันหักใจยัดหนังปลาพวกนั้นเข้าปากและทำท่าจะกลืนมัน แต่เขาก็ห้ามไว้ก่อน “ถ้าไม่กลัวสำลักก็กลืนสิ เคี้ยวหน่อยมันไม่ตายหรอก”

“อ้อ งั้นก็น่าเสียดายนะ วันนี้เจ้าซุนทำปลาย่าง หนังปลานี่กรอบมากเลย เสี่ยวชวนชอบกินมันที่สุดแล้ว”

“หา?” ฉันฟังไม่รู้เรื่องว่าสีชิงชวนชอบกินหนังปลาหรือชอบกินปลาย่าง “เขาชอบทานหนังปลาเหรอคะ?”

“ก็ใช่น่ะสิ ตอนเด็กๆ นะ ปลาที่บ้านเราไม่มีหนังหรอก เพราะเขาแกะไปกินหมด”

จากนั้นคุณย่าก็พูดอะไรบางอย่างแต่ฉันไม่ค่อยมีสมาธิฟัง ฉันกำลังครุ่นคิดว่าทำไมสีชิงชวนชอบกินหนังปลา แต่กลับบอกว่าตัวเองไม่ชอบกิน แถมยังเอามาให้ฉันกินอีก? ความคิดของเขาเปลี่ยนแปลงไปได้ยังไง?

“เสี่ยวเซิงเซิง…” คุณย่าเรียกชื่อฉันจากทางปลายสาย

ฉันรีบตอบรับทันที “หนูฟังอยู่ค่ะ”

“เสี่ยวเซิงเซิง เรื่องในเน็ตนั่นหนูไม่ต้องไปสนใจหรอก เสี่ยวชวนของเราเป็นผู้ชายแท้ๆ เขาชอบหุ่นยนต์ เครื่องบิน แล้วก็ปืนใหญ่ตั้งแต่เด็ก ของเล่นของเด็กผู้หญิงเขาไม่มองเลย ไม่ได้เป็นตุ๊ดหรอก”

ฉันก็ไม่เคยคิดว่าสีชิงชวนจะเป็นตุ๊ดนะ ความจริงตอนนี้ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจเรื่องรสนิยมทางเพศของสีชิงชวน

ฉันครางรับ “หนูรู้ค่ะ”

“เสี่ยวเซิงเซิง หนูวางใจเถอะ ถ้าเสี่ยวชวนทำกับหนูไม่ดี ย่าจะหักขาเขาซะ”

“เชิญมาหักเลยค่ะ คุณย่า”

“ฮ่าๆๆ รับรองว่าหักให้แน่”

ตอนคุณย่าไม่มีแผนก็ดูไร้เดียงสามาก หลังจากคุยโทรศัพท์กับคุณย่าเสร็จ ฉันก็ยืนใจลอยอยู่ที่ประตูต่อ ทันใดนั้นฉันก็พบว่าฉันไม่เข้าใจสีชิงชวนเลยสักนิด ไม่เลยสักนิดเดียว

เขาคุณโทรศัพท์กับป๋ออวี่อยู่ในห้องหนังสืออย่างดุเดือดจนเสียงดังลอดผ่านช่องประตูออกมาด้านนอก ถึงจะฟังไม่ชัดว่าเขากำลังพูดอะไร แต่ฉันรู้ว่าต้องเกี่ยวกับเรื่องในเน็ตพวกนั้นแน่ๆ

ฉันเดินไปยืนหน้าประตูห้องหนังสือ ขณะที่กำลังจะผลักประตูเข้าไป สีชิงชวนก็เปิดประตูออกและยืนอยู่หน้าประตู

หน้าของเขาแดงเล็กน้อย คงเพราะเมื่อกี้ใช้เสียงดังเกินไป เสียงเขาตอนนี้จึงแหบไปเล็กน้อย “คุณแอบฟังก็ช่วยทำท่าให้เหมือนแอบฟังหน่อยได้ไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)