“มันยุ่งยากมากเลยเหรอ?” ฉันถามเขา
เขาเดินอ้อมฉันไป “ผมออกไปวิ่งนะ”
“หลังคุณเป็นแบบนั้นวิ่งได้ด้วยเหรอ?” ฉันดึงเขาไว้ “ถ้าคุณอยากผ่อนคลาย ยังมีวิธีอื่นอยู่นะ”
เขามองฉันจากบนลงล่าง “ผมไม่คิดว่าตอนนี้คุณจะมีความสามารถทำอะไรแบบนั้นได้นะ”
“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” ฉันพูดออกมาอย่างกลุ้มใจแล้วดึงแขนเขา “คุณเล่นเกมเศรษฐีเป็นไหม?”
“ผมทำอะไรไม่เป็นบ้าง?” เขายิ้มเย็น “นั่นมันเกมที่เด็กเขาเล่นกัน”
“เด็กก็เด็ก” เมื่อกี้ฉันเห็นกล่องเกมเศรษฐีกล่องหนึ่งวางอยู่ใต้โต๊ะชา “คุณดูถูกขนาดนี้แต่ก็ซื้อมาเล่นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”
“สีจิ่นยวนเคยมาครั้งหนึ่ง เขาเป็นคนเอามา”
ฉันกดตัวให้นั่งลงบนโซฟาแล้วเริ่มแบ่งเงิน “ทุกคนจะมีห้าพันดอลลาร์ ดูซิว่าใครจะชนะ”
“เล่นเกมพวกนี้กับผม คุณไม่กลัวขาดทุนเกลี้ยงเหรอ?” เขารับเงินปลอมที่ฉันยืนไปให้อย่างไม่ใส่ใจ
“มันก็ไม่แน่หรอก เกมเศรษฐีมันวัดกันที่ดวง เกิดคุณทอยลูกเต๋าได้แต่อะไรกากๆ จะว่าไง?”
ฉันไม่ได้เล่นเกมเศรษฐีนานแล้ว จำได้ว่าเล่นกับเฉียวอี้เมื่อก่อน เธอชอบโกงตลอด ทอยลูกเต๋าแล้วได้ไปอยู่ในคุกก็จะทอยใหม่อีกตลอด
ฉันจำกฎการเล่นไม่ค่อยได้ แต่เหมือนว่าสีชิงชวนจะเชี่ยวชาญมาก
เห็นเขาปลูกบ้านทีละหลังๆ แต่เงินก็เริ่มจะน้อยลงเรื่อยๆ
ฉันพูดขึ้น “คุณอย่ารีบขยายบ้านตั้งแต่ช่วงแรกสิ ระวังจะไม่เหลือเงินนะ”
“กู้ธนาคารเอาก็ได้”
“ข้างบนนี้มีกฎเขียนว่าทุกการเดินครบหนึ่งรอบจะต้องชำระเงินกู้ธนาคารสองพันดอลลาร์ คุณมีปัญญาคืนเหรอ?”
เขายิ้มออกมาบางๆ และเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยการเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ
เหอะ สีซื่อกรุ๊ปก็ทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ สีชิงชวนก็นับว่าเป็นเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ แต่เกมยังไงก็เป็นแค่เกม มันไม่เหมือนกัน ฉันไม่เชื่อว่าต่อไปจะยังเหลือเงินทั้งๆ ที่เขาขยายบ้านเยอะขนาดนี้
เขากู้เงินจากธนาคารมาก้อนใหญ่ ทอยลูกเต๋าและเดินไปตกยังที่ดินไหนเขาก็ซื้อมันหมด และถ้าเป็นอาคารบ้านเรือนก็จะอัปเกรดมัน ตอนที่ในมือฉันยังเหลือเงินอีกก้อนโต เขาก็ติดหนี้ธนาคารสามพันดอลลาร์เข้าไปแล้ว
ฉันเตือนเขาด้วยความหวังดี “อีกครึ่งรอบคุณก็ต้องคืนเงินกู้ธนาคารแล้วนะ คุณเหลือเงินไว้คืนบ้าง ไม่งั้นถ้าคุณไม่มีคืนเกมก็จบนะ”
“ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้าย ไม่นับว่าจบ” เขายักไหล่ให้ฉัน “คุณรีบทอย”
คนอย่างเขานี่เชื่อมั่นในตัวเองเกินไป และการเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปก็คือการถือดี คุณพ่อสีพูดถูกหมดเลย ไม่ใช่ว่าการตัดสินใจของเขาจะถูกต้องทุกครั้งเสมอไป
ฉันเกลี้ยกล่อมเขาด้วยความหวังดี “ที่จริงคุณกับพี่ใหญ่และพี่รองก็เป็นส่วนหนึ่งของสีซื่อกรุ๊ปด้วยกันทั้งนั้น ใครเซ็นก็เหมือนกันแหละ”
“ประเด็นมันไม่ใช่ใครเซ็น คนพวกนั้นวิสัยทัศน์ไม่กว้างไกลมีแต่คนคอยซ้ำเติม ก็ไม่ต้องร่วมมือกันอีกแล้ว”
“แต่ว่าเสียการร่วมมือไปถึงห้าบริษัทในครั้งเดียวเลยนะ สีซื่อกรุ๊ปจะมีโอกาสกลับไปได้อีกครั้งไหม?”
“คุณแอบฟังได้ละเอียดดีนะ” ขณะที่เขาหัวเราะเยาะฉันก็ซื้อโรงแรมเพิ่มไปด้วยอีกหนึ่งแห่ง
“ถึงจะไม่ส่งผลกระทบกับสีซื่อกรุ๊ป งั้นคุณพ่อสีจะไม่เชื่อใจคุณอีกแล้วหรือเปล่า?”
“ถ้าท่านมีวิสัยทัศน์มากพอ ก็ควรจะเชื่อผม” ในมือเขาไม่มีเงินเหลืออีกสักดอลลาร์ เดินอีกไม่กี่ช่องก็จะครบรอบแล้ว เขาต้องคืนเงินที่กู้มาจากธนาคารแล้ว
“สีชิงชวน” ฉันมองเขาด้วยความกลุ้มใจ “คุณไม่มีเงินแล้ว”
“แต่คุณมี” เขายิ้มแย้มแจ่มใส
“หมายความว่าไง?” ฉันทอยลูกเต๋า แล้วเดินไปตามตัวเลขที่แสดงอยู่ด้านบนและหยุดลงที่โรงแรมของสีชิงชวนพอดี บนนั้นเขียนว่าโรงแรมสบายเกินไปจึงให้อยู่ต่อสามวัน โดยฉันต้องจ่ายค่าโรงแรมทั้งสามวัน
ทั้งหมดสองพันดอลลาร์พอดี สีชิงชวนยิ้มแล้วยื่นมือมาทางฉัน “ขอบคุณที่อุดหนุน”
หลังจากนั้น ทุกก้าวที่ฉันเดินก็เป็นโรงแรมและสิ่งปลูกสร้างของเขาทั้งหมด เขายังอัปเกรดจนเป็นระดับที่สูงมากๆ และฉันต้องจ่ายเงินก้อนโตๆ ให้เขาทุกครั้ง แถมสิ่งปลูกสร้างของฉันยังเป็นแค่ระดับเริ่มต้น เวลาเขาเดินมาตกที่ฉันก็ไม่ต้องจ่ายเยอะอีก
สรุปคือสีชิงชวนพลิกเกมกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่เพียงแต่ชำระหนี้เงินกู้ธนาคารได้หมด แต่เงินในมือเขาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในมือฉันเหลือเงินน้อยเพียงแค่หยิบมือเท่านั้น
“รีบขยายการลงทุนในตอนแรกก็เพื่อเก็บเกี่ยวกำไรในตอนหลัง เป็นประโยคที่พูดได้ดี ถ้าไม่กล้าเสี่ยงจะบรรลุเป้าหมายได้ไง” เขาหยิบเงินใบสุดท้ายในมือฉันไปและแกว่งมันไปมา “คุณหมดตัวแล้ว เซียวเซิง”
เขาเล่นด้วยความสนุกสนาน “อีกรอบๆ”
เกมธุรกิจแบบนี้ฉันจะไปชนะเขาได้ไง ฉันล่ะยอมใจจริงๆ
“เรามาเล่นเกมต่อสำนวนกัน” ฉันบอก “อันสุดท้ายต้องพูดว่า ‘โชคดี มั่งคั่ง’ ถึงจะชนะ”
“สี่คำไม่สนุก ต้องสามคำ”
“ต่อแบบสามคำเหรอ?” ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน “ฉันไม่เคยเล่น”
“จะเล่นก็ต้องเล่นแบบที่ไม่เคยเล่นสิ” เขาพูดขึ้นก่อน “มีวันหนึ่ง”
นี่มันอะไร? จะต่อได้ไงล่ะเนี่ย?
“ความจริงเหรอ?” มาตรฐานนี้กำลังดี ฉันถามอย่างลังเล “ความจริงอะไร?”
“เมื่อกี้ที่ได้ยินผมพูดว่า ‘ผมรักคุณ’ สามคำนั้น ในใจคุณรู้สึกกระสับกระส่ายใช่ไหม?”
“คุณหลงตัวเองเหรอ”
“พูดความจริง อย่าเปลี่ยนเรื่อง” เขาพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม
กระสับกระส่าย หัวใจฉันเต้นตึกตักตลอดจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หยุดลงเลย ใครจะไปรู้ว่าเป็นเพราะคำที่เขาพูดหรือเปล่า
ฉันยกมือขึ้นบังแสงไฟจากแชนเดอเลียร์ในห้องรับแขกที่มันแสบตาแล้วมองเขา “ฉันไม่รู้”
“ในใจเกิดความสั่นไหวเป็นระลอกคลื่นไหม?”
“ฉันไม่แน่ใจ”
“แล้วในใจมีดอกไม้ที่สีสันสวยงามที่สุดบานสะพรั่งอยู่ไหม?”
“คุณคิดมากไปละ”
“ที่คุณพูดมันไม่ใช่ความจริง ไม่มีผู้หญิงคนไหนได้ยินผมพูดสามคำนั้นแล้วจะไม่หวั่นไหว”
“คุณโคตรหลงตัวเองอะ” ฉันลุกขึ้นจากโซฟา “ดูคุณจะผ่อนคลายไปได้เยอะแล้วนะ นอนๆ”
เขาจับแขนฉัน “คุณไม่กล้าพูดความจริงเหรอ?”
“คุณคิดไปเอง” ฉันดึงมือเขาออกแล้วเดินเข้าลิฟต์ไปทันที เขากดรับโทรศัพท์อีกครั้งและยืนรับสายอยู่กลางห้องรับแขก
ฉันมองผ่านประตูกระจกเข้าไปเห็นเงาจากทางด้านหลังของสีชิงชวนที่ดูทรงพลัง พูดตามตรงว่าเมื่อกี้ตอนที่เขาพูดสามคำนั้นออกมา ฉันรู้ว่ามันเป็นเกม แต่ตอนที่สบกับนัยน์ตาสีดำขลับของเขาแล้ว หัวใจมันก็เต้นอย่างรุนแรง
ดวงตาของสีชิงชวนมีเสน่ห์มาก ราวกับมีแรงดึงดูดที่สามารถดูดคนเข้าไปยังนัยน์ตาดำของเขาได้ในพริบตา
ลิฟต์พาฉันขึ้นมายังชั้นบน หัวใจฉันยังกระหน่ำเต้นอย่างรุนแรง ฉันมั่นใจได้เลยว่าเขาตั้งใจ เขาเจตนาพูดสามคำนั้นออกมา
ฉันกลับมาถึงห้อง เมื่อกี้ทั้งเล่นเกมทั้งเล่นต่อคำ ร่างกายฉันจึงเต็มไปด้วยเหงื่อ ฉันจึงจำต้องไปอาบน้ำ
ฉันหยิบชุดนอนและชุดชั้นในเข้าไปในห้องน้ำ เพิ่งเข้าไปยังไม่ทันได้เปิดน้ำ ฉันก็ได้ยินเสียงของสีชิงชวนดังขึ้นซะก่อน
“เซียวเซิง…”
“อืม ฉันอยู่ในห้องน้ำ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...