พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 191

สีชิงชวนกลับหัวเราะร่า หัวเราะจนพนักงานต้องจับมือกันถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

อย่าว่าแต่พวกหล่อนเลย ฉันเองก็ยังไม่เคยพบเคยเจอสีชิงชวนหัวเราะร่าขนาดนี้มาก่อน หัวเราะจนเห็นฟันกรามหลังของเขาที่ก็ขาวมากอยู่ดี

เขาใช้ยาสีฟันยี่ห้ออะไรกันทำไมฟันขาวขนาดนี้?

“คุณแปรงฟันบ่อยไหม?” จู่ๆ ฉันก็ถามเขา

“ก็ไม่นะก็แค่พื้นฟันดีตั้งแต่เกิดน่ะ” สีหน้าไม่เคยเปลี่ยนเลยเวลาเขาพูดชมตัวเอง

“เหอะ” ฉันทำได้เพียงหัวเราะแห้งเพื่อแสดงความรู้สึกของฉัน “เหนื่อยแล้วอ่ะ ไม่ลองแล้ว”

“อืม…งั้นก็เอาหมดนี้เลย” สีชิงชวนหันไปพูดกับพนักงาน “คิดเงินเลยครับ”

สีชิงชวนไปจ่ายเงินส่วนฉันก็กลับไปเปลี่ยนชุดตัวเองในห้องลองเสื้อ

ขณะที่ออกจากห้องลองเสื้อก็ได้ยินพนักงานหลายคนกำลังพูดคุยกันเสียงเบาพลางห่อเสื้อที่พวกเราซื้อไป

“สีชิงชวนดีกับคุณนายของเขามากเลยแหละ อิจฉาจริงๆ”

“อิจฉาทำไมสีชิงชวนเป็นเกย์นะ พวกนี้เป็นแค่การแสดงเท่านั้นแหละ!”

“เป็นฉันถึงฉันจะรู้ว่าเป็นการแสดงฉันก็สมยอม”

“เธอไม่รู้หรอกว่าการเป็นภรรยาทางกฎหมายของเกย์น่ะทรมานขนาดไหน ขนาดอยู่ในห้องเดียวกันก็ไม่สนใจกัน นี่แค่แสดงให้คนนอกเห็นเท่านั้นแหละ ฉันมั่นใจได้เลยว่าในชีวิตจริงสีชิงชวนไม่มีทางสนใจหล่อนแน่นอน”

“งั้นหล่อนก็น่าสงสารเหมือนกันนะ”

“สงสารอะไรกัน พวกเขาต่างก็ได้ในสิ่งที่ต้องการทั้งนั้น”

ฉันยืนอยู่ข้างๆ มาโดยตลอด มีคนหนึ่งเห็นฉันเข้าเลยสะกิดคนข้างๆ อย่างไวถึงได้เงียบลง

ความจริงคนที่พวกหล่อนพูดถึงคือสีชิงชวนไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อยเนอะ

ยังไงฉันกับสีชิงชวนก็ต้องหย่ากันสักวันอยู่ดี ต่างคนต่างอยู่ฉันไม่สนหรอกว่าคนอื่นจะพูดยังไง

แต่ในใจก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนตัวเองมีภารกิจพิเศษอย่างไรอย่างนั้น

ฉันเดินไปยืนตรงหน้าพวกหล่อน “มีบางอย่างที่ต้องชี้แจงหน่อยนะ”

“หา…เรื่องอะไรเหรอคะคุณนายสี?” พวกหล่อนเงยหน้ามองฉัน

“สีชิงชวนไม่ใช่เกย์เป็นเรื่องกลั่นแกล้งของฉันกับเขาเท่านั้น เขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับป๋ออวี่เลย เขาชอบผู้หญิงค่ะ”

“แน่นอนค่ะๆ” พวกหล่อนพยักหน้าเหมือนโขลกกระเทียม “พวกเราไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ พวกเราทราบดี”

“เรื่องที่ไม่รู้จริงก็อย่าพูดไปมั่วซั่ว สีชิงชวนเป็นเกย์จริงไหมฉันรู้ดีที่สุด พวกคุณอย่าพูดความเท็จเลย”

“ค่ะ พวกเราทราบแล้วค่ะ”

ฉันรู้ดีถึงแม้ปากของพวกหล่อนจะตกลง แต่ในใจไม่คิดอย่างนั้นหรอก

“คุณนายสีเสื้อผ้าได้แล้วค่ะ รบกวนขอที่อยู่ไว้หน่อยนะคะทางเราจะได้ส่งเสื้อผ้าไปให้ค่ะ” พวกหล่อนเบนบ่ายหัวข้อสนทนา

ฉันหันกลับไปเตรียมไปถามที่อยู่บ้านพักตากอากาศจากสีชิงชวน แต่เมื่อหันกลับไปก็เห็นสีชิงชวนกำลังมองฉันยิ้มไม่ยิ้มแหล่อยู่

ฉันไม่รู้ว่าบทสนทนาที่ฉันพูดกับพนักงานเมื่อครู่นี้เขาได้ยินหรือเปล่า

เขาจ่ายเงินเสร็จสรรพพวกเราก็เดินออกจากร้านไป

เขาพูด “เราไปซื้ออย่างอื่นเพิ่งดีกว่า”

“ทำไมไม่เอาห้างไปเปิดที่เกาะสุริยาเลยล่ะ?” ฉันหมดอารมณ์ “ไม่อยากซื้อแล้ว”

“อะไรทำให้คุณไม่มีความสุขงั้นเหรอ?” เขาเอียงหน้ามองฉันอย่างสงสัย “เพราะว่าพนักงานบอกว่าผมเป็นเกย์เหรอ?”

“เกี่ยวอะไรกับฉัน?”

“ไม่ยักคิดเลยนะว่าคนป๊อดอย่างคุณจะรู้จักช่วยผมพูดด้วย”

“เหอะ โลกนี้ต้องการคนมีน้ำใจ”

จู่ๆ เขาก็เอาแขนโอบไหล่ฉัน “ทำดีขนาดนี้ให้รางวัลเลี้ยงคุณกินมื้อดึกดีกว่า”

“ผ่านสวนของร้านเราไปข้างหน้าก็คือที่ขายปิ้งย่างแล้วจ้ะ”

สีชิงชวนจอดรถเสร็จสรรพฉันก็พูดโอ้กับเขาอย่างเป็นผู้ชนะ “เห็นไหมฉันบอกแล้ว”

“เพื่อหาลูกค้าเข้าร้านถือว่าใช้หมดทุกวิถีทางจริงๆ”

คุณป้าอ้วนพาพวกเราไปที่จุดขายปิ้งย่างพลางตะโกนตลอดทาง “เถ้าแก่รถของคุณแพงมากสินะ มีปัญญาจริงๆ ยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลยก็ขับรถแพงขนาดแล้วพ่อของคุณรวยมากใช่ไหม?”

คุณป้าคิดว่าสีชิงชวนเป็นลูกเศรษฐี แต่หารู้ไม่ว่าคนที่เดินอยู่ข้างๆ หล่อนคนนี้เป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองนี้แล้ว

คิดว่าคุณป้าเองก็คงคาดไม่ถึงว่าเศรษฐีคนนี้จะมากินปิ้งย่างร้านหล่อนได้

ฉันนั่งลงข้างๆ โต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยๆ ที่มันเยิ้มส่วนสีชิงชวนก็ยืนอยู่ข้างๆ ฉันราวกับเป็นเสาไฟฟ้า

“คุณนั่งลงสิ” ฉันเงยหน้ามองเขาจนปวดคอ

“ทำไมเก้าอี้นี้เตี้ยจัง ผมนั่งไม่ได้”

เยอะสิ่งจริงๆ ฉันไปจูงมือเขามา “เถอะน่าจำใจนั่งสักหน่อยนะ ร้านปิ้งย่างที่นี่ก็เป็นแบบนี้กันหมดแหละ”

“คนที่มากินปิ้งย่างเตี้ยกันหมดทุกคนเลยเหรอ?” เขานั่งลงไปเก้ๆ กังๆ ขาเรียวยาวของเขาไม่มีที่วางมองดูแล้วเหมือนปลาหมึกยักษ์ตัวหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น

“คุณพูดเบาหน่อย อย่าไปมีเรื่องกับคนอื่นเข้าล่ะ ถ้าหากคนอื่นได้ยินเข้าเดี๋ยวคุณก็ได้เดินเซทั้งๆ ที่ยังไม่ได้กินหรอก อยู่ที่นี่คนอื่นแค่ดื่มเบียร์ไปสองสามขวดทั้งโลกนี้ก็เป็นของเขาแล้วไม่สนหรอกว่าคุณจะเป็นเศรษฐีรึเปล่า”

“เรื่องต่อสู้ผมไม่เคยกลัวเหมือนกัน” เขาใช้นิ้วมือสองนิ้วหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดโต๊ะ ไอ้คนรักสะอาดเอ้ย

“คุณเคยดูซีรีย์พระราชวังย้อนยุคไหม?”

“อะไรนะ?”

“องค์รัชทายาทในเรื่องต่างๆ นะ เหล่าท่านอาจารย์ที่สอนวิชาแก่เขาไม่มีใครสู้เขาได้เลยแม้แต่คนเดียว แต่สุดท้ายเมื่อเจอกับคนลอบสังหารก็จบเห่เลยทันที”

“ความหมายของคุณคือที่ผมสู้กับคนอื่นเป็นเพราะคนอื่นอ่อนข้อให้ผมน่ะเหรอ?” เขาหยุดเช็ดโต๊ะแล้วมองฉันด้วยความไม่พอใจ

“ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้” ฉันตอบ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)