พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 195

ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าห้องจะใหญ่และหรูหราขนาดนี้ เหมือนกับโรงแรมห้าดาวก็ไม่ปาน

ฉันคิดว่าเรือสำราญที่ฉันนั่งครั้งก่อนนั้นหรูหรามากแล้ว แต่ทว่าเรือสำราญลำก่อนกับลำนี้เทียบกันไม่ได้เลย

ฉันทอดถอนหายใจ ป๋ออวี่นำยามาให้กับฉัน มอบให้ฉันสองเม็ด “ยานี้มีประสิทธิภาพมาก เมื่อกินแล้วก็หลับเลย เมื่อตื่นมาแล้วก็จะไม่รู้สึกอะไร”

“ขอบคุณ คุณละเอียดรอบคอบมาก พกยาติดตัวมาด้วย”

“คุณสีบอกให้ผมพกมาครับ เขาบอกว่าคุณเมาเรือ”

“ไม่ต้องยกความดีความชอบให้กับสีชิงชวนหรอก ไหนเล่าที่เขาจะจิตใจดีแบบนั้น?”

ป๋ออวี่ยิ้มให้ฉันอย่างสุภาพ เขามองดูฉันกินยา

“งั้นคุณนอนพักสักหน่อยเถอะครับ”

ป๋ออวี่เดินจากไป ฉันนอนอยู่บนเตียง อันที่จริงเรือลำนี้แล่นได้สงบและนิ่งมาก แต่ฉันรู้สึกว่ามันโคลงเคลง

ฉันผล็อยหลับไปและฉันฝัน

ฉันฝันว่าเรือลำนี้เจอภูเขาน้ำแข็งและจมลงเหมือนกับเรือไททานิค มีห่วงยางชูชีพเพียงอันเดียวเท่านั้น สีชิงชวนมอบให้กับฉัน จากนั้นตัวเขาก็จมลงก้นทะเล

ฉันตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้อง สีชิงชวนที่อยู่ข้างกายฉันมองมาที่ฉันด้วยท่าทีตกใจ “เป็นอะไรไป?”

เหงื่อเย็นเปียกชุ่มไปทั่วทั้งร่างกายของฉัน ฉันลุกขึ้นนั่ง หัวใจที่อยู่ภายในหน้าอกนั้นเต้นระรัว

“ทำไมตะโกนเรียกชื่อผม แถมยังตะโกนเรียกเสียงดังอีกต่างหาก?” เขาจ้องมองฉัน

เขาร้ายกาจขนาดนี้ จะทิ้งฟางเส้นสุดท้ายของชีวิตและมอบให้ฉันได้อย่างไรกัน เกรงว่าเมื่อถึงตอนนั้น เขาไม่เตะฉันออกก็นับว่าดีเท่าไรแล้ว!

ฉันอ้าปากค้างอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็หายใจอย่างเหนื่อยหอบ “ฉันฝันน่ะ”

“ฝันอะไร?”

“ฝันว่า” ฉันมองดูใบหน้าของเขาที่ยังคงซีดเซียวเล็กน้อย “เรือลำนี้ของพวกเราจม คุณเอาห่วงยางชูชีพของฉันไป”

เขารับฟังด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ใบหน้าของเขาไม่แสดงอาการใด “ไม่แปลกใจเลยที่คุณเรียกชื่อผมอีกทั้งยังกัดฟันและร้องไห้ กลัวว่าจะเป็นแบบนั้นเหรอ?”

ฉันร้องไห้เหรอ?

ฉันสัมผัสใบหน้าของฉัน ดูเหมือนว่าจะเปียกชื้นเล็กน้อย

ฉันเป็นอะไรไป ฝันร้ายแล้วตัวเองก็ร้องไห้ออกมา

“เฮอะ” เขาไม่เห็นด้วยกับฝันร้ายของฉันเป็นอย่างมาก “เรือไม่มีทางจม ต่อให้เรือจะจม ผมไม่มีทางใช้ห่วงยางชูชีพของคุณแน่ เพราะ” เขาลุกขึ้นจากเตียงของฉันและมองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้ม “ก่อนที่เรือจะจมลงทะเล ผมก็คงจะเตะคุณลงทะเลไปก่อน”

ฉันไม่สามารถคาดหวังอะไรในตัวเขาได้ ฉันพลิกตัวและหลับตาลงด้วยความรู้สึกหดหู่

ฉันจะพูดอย่างไรดี สีชิงชวนเป็นคนที่ชอบทำตัวน่ารำคาญ เป็นปีศาจคอยบงการ และฉันเองที่ฝันไปว่าเขานั้นกลายเป็นคนดี เขาจะมอบห่วงยางชูชีพให้ฉันได้อย่างไร

ฝันไปเสียเถอะ!

“ผมกับเซียวซือเปิดประชุมกันนิดหน่อย คุณก็มาด้วยล่ะ”

ธาตุแท้คนบ้างานของสีชิงชวนนั้นถูกเปิดเผยออกมาอีกแล้ว ทุกชั่วโมงทุกขณะล้วนแต่จะประชุมงาน

แต่ทว่านับว่ายังโชคดีที่ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกป่วยแล้ว ได้กินยาและนอนพัก ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายทั้งร่างกายและจิตใจ

ฉันลุกขึ้นและเดินตามสีชิงชวนไปห้องประชุมขนาดเล็ก ขนาดเล็กที่ว่ามานั้น สามารถจุคนได้ประมาณสิบถึงยี่สิบคน

พวกเขากำลังให้คะแนนความประทับใจแรกเริ่มที่มีต่อเรือสำราญ เซียวซือให้แบบสอบถามแก่ฉัน “เซียวเซิง คุณเองก็ต้องกรอกข้อมูลด้วย ความเห็นของคุณสำคัญมาก”

ตัวฉันเองรู้สึกว่าฉันไม่ใช่คนสำคัญ ขอบคุณเซียวซือที่มองฉันแบบนี้

ฉันเองก็ขีดเขียนไปอย่างส่งเดช กระทั่งสีชิงชวนใช้ด้ามปากกาเคาะศีรษะของฉัน “เซียวเซิง คุณคาดหวังให้มีห้องสูบบุหรี่ไหม?”

เอ่อ? ฉันตั้งใจกับการขีดเส้นนั้นของฉันนะ มีข้อความเขียนไว้ คุณคิดเห็นอย่างไรหากเรือลำนี้ไม่มีห้องสูบบุหรี่ หากคาดหวังให้มีโปรดทำการติ๊กเครื่องหมายถูก

“คุณขี้เกียจและคิดจะหนีประชุมงั้นเหรอ?” สีชิงชวนโยนก้อนกระดาษใส่ฉัน จากนั้นชี้ไปยังที่นั่งด้านข้างเขา “นั่งลงและจดข้อมูลด้วย”

ไม่ใช่เด็กประถมที่กำลังเข้าเรียนเสียหน่อย ยังต้องให้จดบันทึกข้อมูลด้วย

ภายในห้องนั้นปิดแอร์ อากาศค่อนข้างร้อน ฉันพบว่าบริเวณหน้าผากของสีชิงชวนมีเม็ดเหงื่อหยดลงมา

ฉันยื่นทิชชูให้เขาด้วยเจตนาดี “ไม่งั้นเปิดแอร์ไหม ดูเหมือนคุณจะร้อนมากนะ”

“คุณจะต้องยุ่งวุ่นวายอยู่กับแอร์ให้ได้เลยสินะ?”

“ปรับให้อุณหภูมิสูงขึ้นหน่อยก็ได้นี่นา อ๊ะ ฉันมีความเห็นข้อหนึ่ง เกี่ยวกับแอร์” ในที่สุดฉันก็มีโอกาสพูดแล้ว “ฉันพบว่าช่องลมของแอร์ไม่สามารถปรับขึ้นได้ ลมแอร์เป่าใส่ผู้คนทำให้รู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก”

“ดูเหมือนว่าคุณจะสามารถเสนอได้เพียงแค่ปัญหานี้ ปัญหาที่คุณป้าแม่บ้านก็สามารถค้นพบได้” เขาเชิดคางไปทางป๋ออวี่ “เขียนความคิดเห็นของเธอลงไป”

สีชิงชวนคอยเอาแต่ดุด่าว่าฉัน ทำให้ฉันรู้สึกอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก

ไม่ง่ายเลยกว่าการประชุมจะเสร็จสิ้น ฉันจดบันทึกอย่างจริงจัง ฉันมอบให้สีชิงชวนดูด้วยท่าทีโอ้อวด “ลายมือของฉันสวยไหม? ตอนอยู่มหาลัยฉันเป็นหัวหน้าชมรมคัดลายมือ”

“คุณคุณลาออกจากตำแหน่งประธานแล้วไปสมัครเสมียนสิ” เขาพูดกับฉันอย่างเย็นชา

ฉันไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ เห็นได้ชัดว่าเมื่อเราอยู่ด้วยกันตามลำพัง นับได้ว่าพวกเราเข้ากันได้ดี ทำไมเมื่อเซียวซืออยู่ที่นี่ด้วยแล้วฉันถึงไม่มีจุดยืนเลยล่ะ

กว่าจะถึงเกาะสุริยาระยะทางยังอีกยาวไกล หลับหนึ่งคืนและถึงที่นั่นในเช้าวันรุ่งขึ้น

อาหารค่ำจัดขึ้นบริเวณดาดฟ้า บนโต๊ะยาวมีอาหารทะเล ผลไม้และพืชผักทุกชนิด ยังมีไวน์แดงอีกด้วย มีไฟหลากสีสันพันรอบราวบันได แสงสะท้อนกระทบตกลงบนผ้าปูโต๊ะลายลูกไม้สีขาว งดงามมากจนทำให้ผู้คนไม่กล้าหายใจ กลัวว่าลมหายใจของตนเองนั้นจะดังจนเกินไปและทำลายทัศนียภาพที่งดงามทั้งหมดนี้

ตรงโต๊ะยาวนั้นมีเก้าอี้เพียงสองตัวเท่านั้น ฉันครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ คาดว่าน่าจะเป็นที่ของสีชิงชวนและเซียวซือ

อย่างไรก็ตาม ฉันเมาเรือและไม่อยากอาหารมากนัก ฉันตรงไปยังห้องครัวและหยิบขนมปังชิ้นหนึ่ง จากนั้นเดินไปยังท้ายเรือ นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินพลางกินขนมปัง

ป๋ออวี่นั่งลงข้างกายฉัน ยื่นเครื่องดื่มให้ฉันแก้วหนึ่ง “อาหารค่ำคุณกินเพียงเท่านี้เหรอ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)