ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าห้องจะใหญ่และหรูหราขนาดนี้ เหมือนกับโรงแรมห้าดาวก็ไม่ปาน
ฉันคิดว่าเรือสำราญที่ฉันนั่งครั้งก่อนนั้นหรูหรามากแล้ว แต่ทว่าเรือสำราญลำก่อนกับลำนี้เทียบกันไม่ได้เลย
ฉันทอดถอนหายใจ ป๋ออวี่นำยามาให้กับฉัน มอบให้ฉันสองเม็ด “ยานี้มีประสิทธิภาพมาก เมื่อกินแล้วก็หลับเลย เมื่อตื่นมาแล้วก็จะไม่รู้สึกอะไร”
“ขอบคุณ คุณละเอียดรอบคอบมาก พกยาติดตัวมาด้วย”
“คุณสีบอกให้ผมพกมาครับ เขาบอกว่าคุณเมาเรือ”
“ไม่ต้องยกความดีความชอบให้กับสีชิงชวนหรอก ไหนเล่าที่เขาจะจิตใจดีแบบนั้น?”
ป๋ออวี่ยิ้มให้ฉันอย่างสุภาพ เขามองดูฉันกินยา
“งั้นคุณนอนพักสักหน่อยเถอะครับ”
ป๋ออวี่เดินจากไป ฉันนอนอยู่บนเตียง อันที่จริงเรือลำนี้แล่นได้สงบและนิ่งมาก แต่ฉันรู้สึกว่ามันโคลงเคลง
ฉันผล็อยหลับไปและฉันฝัน
ฉันฝันว่าเรือลำนี้เจอภูเขาน้ำแข็งและจมลงเหมือนกับเรือไททานิค มีห่วงยางชูชีพเพียงอันเดียวเท่านั้น สีชิงชวนมอบให้กับฉัน จากนั้นตัวเขาก็จมลงก้นทะเล
ฉันตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้อง สีชิงชวนที่อยู่ข้างกายฉันมองมาที่ฉันด้วยท่าทีตกใจ “เป็นอะไรไป?”
เหงื่อเย็นเปียกชุ่มไปทั่วทั้งร่างกายของฉัน ฉันลุกขึ้นนั่ง หัวใจที่อยู่ภายในหน้าอกนั้นเต้นระรัว
“ทำไมตะโกนเรียกชื่อผม แถมยังตะโกนเรียกเสียงดังอีกต่างหาก?” เขาจ้องมองฉัน
เขาร้ายกาจขนาดนี้ จะทิ้งฟางเส้นสุดท้ายของชีวิตและมอบให้ฉันได้อย่างไรกัน เกรงว่าเมื่อถึงตอนนั้น เขาไม่เตะฉันออกก็นับว่าดีเท่าไรแล้ว!
ฉันอ้าปากค้างอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็หายใจอย่างเหนื่อยหอบ “ฉันฝันน่ะ”
“ฝันอะไร?”
“ฝันว่า” ฉันมองดูใบหน้าของเขาที่ยังคงซีดเซียวเล็กน้อย “เรือลำนี้ของพวกเราจม คุณเอาห่วงยางชูชีพของฉันไป”
เขารับฟังด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ใบหน้าของเขาไม่แสดงอาการใด “ไม่แปลกใจเลยที่คุณเรียกชื่อผมอีกทั้งยังกัดฟันและร้องไห้ กลัวว่าจะเป็นแบบนั้นเหรอ?”
ฉันร้องไห้เหรอ?
ฉันสัมผัสใบหน้าของฉัน ดูเหมือนว่าจะเปียกชื้นเล็กน้อย
ฉันเป็นอะไรไป ฝันร้ายแล้วตัวเองก็ร้องไห้ออกมา
“เฮอะ” เขาไม่เห็นด้วยกับฝันร้ายของฉันเป็นอย่างมาก “เรือไม่มีทางจม ต่อให้เรือจะจม ผมไม่มีทางใช้ห่วงยางชูชีพของคุณแน่ เพราะ” เขาลุกขึ้นจากเตียงของฉันและมองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้ม “ก่อนที่เรือจะจมลงทะเล ผมก็คงจะเตะคุณลงทะเลไปก่อน”
ฉันไม่สามารถคาดหวังอะไรในตัวเขาได้ ฉันพลิกตัวและหลับตาลงด้วยความรู้สึกหดหู่
ฉันจะพูดอย่างไรดี สีชิงชวนเป็นคนที่ชอบทำตัวน่ารำคาญ เป็นปีศาจคอยบงการ และฉันเองที่ฝันไปว่าเขานั้นกลายเป็นคนดี เขาจะมอบห่วงยางชูชีพให้ฉันได้อย่างไร
ฝันไปเสียเถอะ!
“ผมกับเซียวซือเปิดประชุมกันนิดหน่อย คุณก็มาด้วยล่ะ”
ธาตุแท้คนบ้างานของสีชิงชวนนั้นถูกเปิดเผยออกมาอีกแล้ว ทุกชั่วโมงทุกขณะล้วนแต่จะประชุมงาน
แต่ทว่านับว่ายังโชคดีที่ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกป่วยแล้ว ได้กินยาและนอนพัก ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายทั้งร่างกายและจิตใจ
ฉันลุกขึ้นและเดินตามสีชิงชวนไปห้องประชุมขนาดเล็ก ขนาดเล็กที่ว่ามานั้น สามารถจุคนได้ประมาณสิบถึงยี่สิบคน
พวกเขากำลังให้คะแนนความประทับใจแรกเริ่มที่มีต่อเรือสำราญ เซียวซือให้แบบสอบถามแก่ฉัน “เซียวเซิง คุณเองก็ต้องกรอกข้อมูลด้วย ความเห็นของคุณสำคัญมาก”
ตัวฉันเองรู้สึกว่าฉันไม่ใช่คนสำคัญ ขอบคุณเซียวซือที่มองฉันแบบนี้
ฉันเองก็ขีดเขียนไปอย่างส่งเดช กระทั่งสีชิงชวนใช้ด้ามปากกาเคาะศีรษะของฉัน “เซียวเซิง คุณคาดหวังให้มีห้องสูบบุหรี่ไหม?”
เอ่อ? ฉันตั้งใจกับการขีดเส้นนั้นของฉันนะ มีข้อความเขียนไว้ คุณคิดเห็นอย่างไรหากเรือลำนี้ไม่มีห้องสูบบุหรี่ หากคาดหวังให้มีโปรดทำการติ๊กเครื่องหมายถูก
“คุณขี้เกียจและคิดจะหนีประชุมงั้นเหรอ?” สีชิงชวนโยนก้อนกระดาษใส่ฉัน จากนั้นชี้ไปยังที่นั่งด้านข้างเขา “นั่งลงและจดข้อมูลด้วย”
ไม่ใช่เด็กประถมที่กำลังเข้าเรียนเสียหน่อย ยังต้องให้จดบันทึกข้อมูลด้วย
ภายในห้องนั้นปิดแอร์ อากาศค่อนข้างร้อน ฉันพบว่าบริเวณหน้าผากของสีชิงชวนมีเม็ดเหงื่อหยดลงมา
ฉันยื่นทิชชูให้เขาด้วยเจตนาดี “ไม่งั้นเปิดแอร์ไหม ดูเหมือนคุณจะร้อนมากนะ”
“คุณจะต้องยุ่งวุ่นวายอยู่กับแอร์ให้ได้เลยสินะ?”
“ปรับให้อุณหภูมิสูงขึ้นหน่อยก็ได้นี่นา อ๊ะ ฉันมีความเห็นข้อหนึ่ง เกี่ยวกับแอร์” ในที่สุดฉันก็มีโอกาสพูดแล้ว “ฉันพบว่าช่องลมของแอร์ไม่สามารถปรับขึ้นได้ ลมแอร์เป่าใส่ผู้คนทำให้รู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก”
“ดูเหมือนว่าคุณจะสามารถเสนอได้เพียงแค่ปัญหานี้ ปัญหาที่คุณป้าแม่บ้านก็สามารถค้นพบได้” เขาเชิดคางไปทางป๋ออวี่ “เขียนความคิดเห็นของเธอลงไป”
สีชิงชวนคอยเอาแต่ดุด่าว่าฉัน ทำให้ฉันรู้สึกอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก
ไม่ง่ายเลยกว่าการประชุมจะเสร็จสิ้น ฉันจดบันทึกอย่างจริงจัง ฉันมอบให้สีชิงชวนดูด้วยท่าทีโอ้อวด “ลายมือของฉันสวยไหม? ตอนอยู่มหาลัยฉันเป็นหัวหน้าชมรมคัดลายมือ”
“คุณคุณลาออกจากตำแหน่งประธานแล้วไปสมัครเสมียนสิ” เขาพูดกับฉันอย่างเย็นชา
ฉันไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ เห็นได้ชัดว่าเมื่อเราอยู่ด้วยกันตามลำพัง นับได้ว่าพวกเราเข้ากันได้ดี ทำไมเมื่อเซียวซืออยู่ที่นี่ด้วยแล้วฉันถึงไม่มีจุดยืนเลยล่ะ
กว่าจะถึงเกาะสุริยาระยะทางยังอีกยาวไกล หลับหนึ่งคืนและถึงที่นั่นในเช้าวันรุ่งขึ้น
อาหารค่ำจัดขึ้นบริเวณดาดฟ้า บนโต๊ะยาวมีอาหารทะเล ผลไม้และพืชผักทุกชนิด ยังมีไวน์แดงอีกด้วย มีไฟหลากสีสันพันรอบราวบันได แสงสะท้อนกระทบตกลงบนผ้าปูโต๊ะลายลูกไม้สีขาว งดงามมากจนทำให้ผู้คนไม่กล้าหายใจ กลัวว่าลมหายใจของตนเองนั้นจะดังจนเกินไปและทำลายทัศนียภาพที่งดงามทั้งหมดนี้
ตรงโต๊ะยาวนั้นมีเก้าอี้เพียงสองตัวเท่านั้น ฉันครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ คาดว่าน่าจะเป็นที่ของสีชิงชวนและเซียวซือ
อย่างไรก็ตาม ฉันเมาเรือและไม่อยากอาหารมากนัก ฉันตรงไปยังห้องครัวและหยิบขนมปังชิ้นหนึ่ง จากนั้นเดินไปยังท้ายเรือ นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินพลางกินขนมปัง
ป๋ออวี่นั่งลงข้างกายฉัน ยื่นเครื่องดื่มให้ฉันแก้วหนึ่ง “อาหารค่ำคุณกินเพียงเท่านี้เหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...