พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 196

“กินอาหารค่ำง่ายๆ อายุจะยืนยาว” ฉันดื่มเครื่องดื่มไปอึกหนึ่ง รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ อร่อยมาก

ป๋ออวี่มองมาที่ฉัน เมฆหลากสีสันบนท้องฟ้าสะท้อนในดวงตาของเขา ฉากที่งดงามปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

ทำไมนัยต์ตาของป๋ออวี่ถึงได้มีภาพที่งดงาม

สีชิงชวนนั้นเป็นเปลวเพลิงนรกบนโลกมนุษย์ นัยต์ตาของเขาลุกโชนด้วยเปลวไฟอยู่เสมอ เปลวไฟที่สามารถแผดเผาผู้คนให้กลายเป็นเพียงขี้เถ้าได้

“อาหารค่ำมีอาหารทะเลมากมาย มีกุ้งมังกรสดใหม่เยอะแยะเลยด้วย ไปกินอาหารที่โต๊ะด้วยกันเถอะ!”

“ไม่รบกวนพวกเขาดีกว่า” ฉันกล่าว “ฉันคิดว่ากุ้งมังกรตัวใหญ่อร่อยไม่เท่ากับกุ้งมังกรตัวเล็ก ทำไมคนเราถึงได้ชอบกินตัวใหญ่กัน?”

“ปัญหานี้” ป๋ออวี่กัดหลอดดูด หลอดดูดสีแดงก็เปื้อนริมฝีปากของเขาและเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ “หากถามคนทุกคน คนทุกคนต่างก็มีความชอบที่แตกต่างกัน”

“ป๋ออวี่” ฉันมีปัญหาที่อยากจะถามเขามาโดยตลอด “ในเมื่อคุณไม่ชอบผู้ชาย งั้นคุณชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ? ถ้าหากครั้งนั้นไม่ใช่ว่าฉันสร้างความวุ่นวาย เป็นไปได้ไหมว่าคุณจะตกหลุมรักเคอเหม่ยซู?”

บนเส้นผมของเขากระทบด้วยแสงระยิบระยับ ผมหน้าม้าที่ยังไม่ได้จัดทรงของเขานั้นก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

เขาไม่ได้ตอบคำถามในทันที ฉันคิดว่าฉันทำอะไรกะทันหันเกินไป อยู่ดีๆก็เอ่ยถามคำถามแบบนี้กับเขา

“ขอโทษด้วย ฉันถามอะไรที่ไม่ควรถามใช่ไหม?”

เขายิ้มและส่ายศีรษะให้แก่ฉัน “ผมกำลังใช้ความคิดอยู่น่ะ คำถามนี้ก็ต้องตอบอย่างจริงจัง ถึงแม้ว่าในตอนแรกผมจะไม่เชื่อในเรื่องรักแรกพบก็ตาม แต่ผมกับเคอเหม่ยซูนั้นได้พบกันหลายครั้ง ผมไม่มีท่าทีว่าจะชอบเธอเลย ดังนั้นในอนาคตผมคิดว่าความเป็นไปได้ที่จะตกหลุมรักเธอจะยิ่งลดน้อยลง”

“ตอนแรกไม่เชื่อในรักแรกพบ งั้นตอนนี้ล่ะ เชื่อแล้วหรือยัง?” ฉันจับผิดข้อบกพร่องในคำพูดของเขาได้อย่างรวดเร็ว

รอยยิ้มของป๋ออวี่นั้นอ่อนโยนดุจเมฆหมอกหลากสีสันที่งดงามอยู่บนฝากฟ้า “ใช่ ผมเชื่อว่าบนโลกนี้มีรักแรกพบ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครหรือมีสถานะอย่างไรก็ตาม”

น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนมาก อ่อนโยนเสียจนหัวใจของฉันเคลิบเคลิ้มไปพร้อมกับเขา ฉันจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขาที่กระทบด้วยแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน “งั้นความหมายที่คุณพูดมา ตอนนี้ภายในหัวใจของคุณมีคนรักที่เป็นรักแรกพบแล้วงั้นเหรอ?”

รอยยิ้มของเขาปรากฏลักยิ้มเล็กๆทำให้ผู้คนหลงใหลและเคลิ้มไปกับเขา ฉันไม่เคยเห็นป๋ออวี่ยิ้มแบบนี้มาก่อนเลย

“เป็นผู้หญิงเหรอ?” ฉันเอ่ยถามเขาอย่างระมัดระวัง

ยิ้มของเขานั้นอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น “แน่นอน ผมไม่ได้ชอบผู้ชายเสียหน่อย”

“ขอโทษด้วย”

ฉันกินขนมปังและดื่มน้ำผลไม้หมดแล้ว อันที่จริงฉันยังไม่อิ่ม

ฉันวางแก้วไว้บนดาดฟ้าของเรือ จากนั้นฉันงอขาและกอดเข่าด้วยมือทั้งสองข้าง โชคดีที่ฉันใส่กระโปรงยาว ไม่ว่าจะนั่งท่าไหนฉันก็สามารถนั่งได้ทั้งนั้น

ลมพัดชายกระโปรงของฉันพลิ้วไหว ชุดเดรสที่ฉันสวมอยู่นั้นสีชิงชวนเป็นคนเลือกให้ฉัน ชุดเดรสสีฟ้าอ่อน เมื่อครู่ฉันยืนอยู่บริเวณราวจับของเรือ ฉันแทบจะจมดิ่งอยู่ภายใต้น้ำทะเลสีฟ้าคราม

ฉันและป๋ออวี่อยู่ท่ามกลางความเงียบสงบเช่นนี้แล้วรู้สึกสบายเป็นอย่างมาก ออร่ารังสีของป๋ออวี่นั้นอ่อนโยนไม่ใช่ออร่าของการกดขี่ข่มเหง

ฉันมองพระอาทิตย์ตกดินด้วยท่าทีเหม่อลอย คาดหวังว่าพระอาทิตย์จะตกลงสู่ระดับน้ำพร้อมกับเสียงร้อง เหมือนกับว่ากำลังจะตกสู่ห้วงทะเลอย่างไรอย่างนั้น

ฉันไม่เคยดูพระอาทิตย์ตกดินเช่นนี้มาก่อน แต่ทว่าเสียงของสีชิงชวนกลับเป็นเสมือนเสียงฟ้าร้องที่อยู่เหนือศีรษะของฉัน “ตามหาจนทั่วเรือ เกือบให้กัปตันใช้โทรโข่งเรียกตามหาตัวคุณแล้ว คุณกลับมาหลบอยู่ที่นี่”

ทัศนียภาพที่เงียบสงบถูกสีชิงชวนทำลายจนหมดสิ้น ฉันเงยหน้าขึ้น เขายืนอยู่ตรงราวจับของเรือและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว

เสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีฟ้าอ่อนและกางเกงทรงหลวมสีขาว ในทิวทัศน์ทะเลและท้องฟ้าที่สวยงามนี้ เขาไม่ได้ดูเกะกะขวางตาเลยสักนิด ราวกับว่าเขากลมกลืนไปกับภาพที่สวยงามนี้อย่างไรอย่างนั้น

เมื่อสีชิงชวนไม่พูดไม่แสดงท่าทีโกรธ เชานั้นเป็นเหมือนภาพวาดภาพหนึ่ง

แต่ทว่า เมื่อเขาเอ่ยปาก น้ำเสียงที่เย็นชาและเย้ยหยันของเขาได้ทำลายภาพทั้งหมดภายในทันที มีพลังเทียบเท่ากับระเบิดปรมาณู

ฉันลุกขึ้นยืน ใครจะรู้ว่าฉันกลับเรอออกมา ฉันยกมือขึ้นปิดปากทันใดและจ้องมองไปทางเขา

เขาขมวดคิ้วแน่น “เมื่อกี้คุณขโมยปลาในทะเลมากินเหรอ?”

ฉับพลันเขาก็บีบมือของฉัน จากนั้นก็หยิกฉัน ฉันกำลังจะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“คุณหยิกฉันทำไม?”

“คุณกำลังสร้างโอกาสให้ผมกับเซียวซือใช่หรือเปล่า?” เขาก้มศีรษะลงและจ้องมองฉันด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “ทำไมคุณไม่ไปส่งเซียวซือให้ผมบนเตียงเลยล่ะ?”

“ฉันไม่ใช่แม่เล้า อีกอย่าง หลังของคุณก็ยังไม่หายดี ฉันเกรงว่าคุณจะไร้เรี่ยวแรง”

“ถ้าอย่างนั้นในตอนกลางคืนคุณไม่เปิดโปรโมทตลาดด้วยตัวเองดูล่ะ?” บนใบหน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้ม ท่าทีของเขาเหมือนจะไม่พอใจมาก

ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันไปล่วงเกินเขาตอนไหน จู่ๆเขาก็ไม่พอใจ

ฉันเห็นอกเห็นใจป๋ออวี่มาก สีชิงชวนนั้นอารมณ์แปรปรวนง่ายแบบนี้คงยากที่จะรับมือได้ อยู่ใกล้กษัตริย์ก็เหมือนอยู่ใกล้เสือ[2] จะไปรู้ได้อย่างไรว่าจู่ๆเขาก็จะอารมณ์ไม่ดี

เซียวซือนั่งรอพวกเราอยู่ทางด้านซ้ายมือ เธอเปลี่ยนชุดเดรส ไม่ใช่สีขาวอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเดรสยาวเปิดไหล่สีฟ้าอ่อนมีระบายที่ไหล่ เผยให้เห็นไหล่ที่งดงามของเธอ สวยมากจริงๆ

ทำไมฉันเพิ่งค้นพบว่าชุดของสีชิงชวนและเซียวซือนั้นดูเหมือนจะเป็นชุดคู่กัน

คนงดงามและวิวงดงามเช่นนี้ ทำไมถึงลากฉันและป๋ออวี่มาอยู่ที่นี่ด้วย?

โอ้ ฉันเห็นพนักงานถือถาดมาเสิร์ฟอาหาร ที่แท้สีชิงชวนก็ต้องการทำให้คนอื่นได้เห็น เขาเพียงลากพวกเรามาประสมประเสให้ครบจำนวนก็เท่านั้น

คนที่ไร้มารยาทเช่นเขาช่วยฉันขยับเก้าอี้ ฉันนั่งลงข้างกายเขา เขาช่วยฉันปูผ้าบนตักของฉัน

ฉันขอบคุณเขาอย่างไม่เต็มใจ แต่เขากลับฉวยโอกาสเอาเปรียบฉัน เขาบีบต้นขาของฉันด้วยแรงที่ไม่หนักและไม่เบาจนเกินไป ถ้าเขาขยับและเคลื่อนไปอีกหน่อยจะเป็นเขตปฏิกิริยากระตุกเข่าแล้ว คอยดูสิว่าฉันจะเตะเขาจนตายหรือไม่

เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล[1] หมายความว่า เมื่อมีประโยชน์ก็ทำดีกับคนผู้นั้นไว้ แต่เมื่อหมดประโยชน์ก็ละเลย ไม่สนใจไยดี

อยู่ใกล้กษัตริย์ก็เหมือนอยู่ใกล้เสือ[2] หมายความว่า ทำงานใกล้ชิดกับคนใหญ่คนโต​ ย่อมมีความอันตรายเหมือนกับเสือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)