ด้านนอกฝนซาลงแล้ว สีชิงชวนน่าจะหมดแรงจึงล้มตัวนอนลง ในที่สุดเขาก็เลิกแผดเสียงแล้ว เหมือนกับฝนด้านนอกที่สุดท้ายก็สงบลงไปชั่วขณะ
ฉันนั่งอยู่ข้างเตียงของสีชิงชวน เขาหลับไปแล้ว หน้าของเขาแดงมาก
ฉันยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าของเขา มันร้อนมากๆ สีชิงชวนกำลังป่วย
มือฉันเย็นจึงใช้ลดอุณหภูมิบนหน้าผากเขาได้พอดี แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาจะปัดมือฉันออกทั้งที่ยังปิดตาอยู่ “ไม่ต้องเอามือเหม็นๆ ของคุณมาโดนผม”
ครั้งนี้ออกมาอย่างรีบร้อน หมอยังอยู่ที่เกาะ ไม่ได้มาด้วยกันกับพวกเรา ดังนั้นฉันและป๋ออวี่จึงทำได้แค่ใช้สติปัญญาที่มีของตัวเองมาช่วยให้อาการป่วยสีชิงชวนดีขึ้น
ในกล่องยาเต็มไปด้วยยาดีๆ มากมาย แต่เป็นยาจำพวกที่ใช้แก้อาการบาดเจ็บฟกช้ำซะส่วนใหญ่ ยาแก้หวัดมีแค่แบบเดียว ก็คือยาที่สีชิงชวนดื่มไปเมื่อครู่
“ไม่มียาลดไข้” ฉันค้นหายาจนหมดกล่องแล้วเงยหน้าขึ้นบอกป๋ออวี่
“น่าจะเป็นเพราะพวกเขาสะเพร่าไป ไว้ผมจะบอกเรื่องนี้กับผู้จัดการให้พวกเขาเช็กกล่องยาก่อนออกเรือทุกครั้ง”
“ตอนนี้ทำยังไงกับสีชิงชวนดี?”
ป๋ออวี่ยกมือขึ้นมองนาฬิกา “อีกสามชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ”
ให้สีชิงชวนทนไปสักสามชั่วโมงก็คงไม่เป็นไร เขาไม่ได้ป่วยหนักอะไร ก็แค่เป็นหวัดเพราะตากฝนสองชั่วโมง
ป๋ออวี่เก็บกล่องยาแล้วพูดขึ้น “ผมไปเฝ้าคุณสีนะครับ คุณไปนอนพักที่ห้องอื่นสักหน่อยเถอะ!”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันมองเขาอย่างกังวล “ถ้าสีชิงชวนหาเรื่องคุณ คุณก็โยนทุกอย่างมาให้ฉันได้เลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ป๋ออวี่ยิ้ม “คุณสีเป็นคนใจกว้าง”
งั้นเหรอ…อย่างงั้นเหรอ?
ฉันและป๋ออวี่นั่งอยู่หน้าเตียงของสีชิงชวนและมองเขาหลับด้วยความสะลึมสะลือ
หน้าเขาแดงมากขึ้นทุกที ฉันกลัวมากจริงๆ ว่าเขาจะป่วยตายเอา
“ฉันไปเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาใช้ลดไข้ให้เขานะ”
“ครับ เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้เขาหน่อย คุณสีใส่ชุดคลุมอาบน้ำหนาๆ แบบนี้นอนด้วย มันต้องถอดออก ไม่งั้นมันไม่ระบายความร้อน”
“เขาไม่ได้เอาเสื้อผ้ามา ทั้งตัวมีแค่ชุดนี้นี่แหละ”
“อยู่บนเรือไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวถึงแล้วผมค่อยให้คนเอาชุดมาให้ที่ท่าเรือ เรือถึงเมืองฮวาพรุ่งนี้เช้าก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะครับ”
“พวกคุณสองคนจะปรึกษากันข้างๆ หูผมไปถึงเมื่อไหร่?” เขาลืมตาข้างหนึ่งขึ้นอย่างดุๆ เหมือนกับจะกินพวกเราเข้าไปอย่างนั้นแหละ “หนวกหูชะมัด”
ที่แท้เขาก็หลับไม่สนิท โชคดีที่ไม่ได้นินทาอะไรเขาไป
ป๋ออวี่ช่วยถอดเสื้อผ้าให้เขา ฉันไปเปิดน้ำแล้วเอาผ้าขนหนูมาชุบน้ำบิด
เมื่อฉันออกมาจากห้องน้ำ สีชิงชวนก็นอนเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียงแล้ว ส่วนด้านล่างถูกห่มด้วยผ้าห่มบางๆ แต่ข้างในก็น่าจะโล่งโจ้งเหมือนกัน
เขานอนราบอยู่แต่กล้ามเนื้อก็ยังแน่นปึ๋งเหมือนเดิม คนแบบนี้โดนฝนแค่สองชั่วโมงทำไมถึงยังป่วยได้นะ?
ฉันบิดผ้าขนหนูแล้วส่งไปให้ป๋ออวี่ เขาเช็ดตัวให้สีชิงชวน จากนั้นก็เหมือนเขาจะไม่รับรู้อะไรแล้ว ไม่ว่าเราจะทำอะไรกับเขา เจ้าตัวก็ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
ฉันรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย “ป๋ออวี่ สีชิงชวนสลบไปแล้วหรือเปล่า? เขาไม่ได้เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ เซียวเซิง คุณสีร่างกายแข็งแรงมาตลอด แค่ตากฝนนิดเดียวเอง ไข้สูงนิดหน่อยเดี๋ยวก็หายครับ”
ใช่ แค่ตากฝนเอง เขาคงไม่ตายหรอก
ฉันวางใจไปได้เปลาะหนึ่ง แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้น
ยังดีที่อีกไม่ช้าก็จะเช้าแล้ว เรือก็ค่อยๆ เข้าใกล้ท่าเรือแล้ว ฉันขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือแล้วมองไปรอบๆ ก็เห็นคุณเลขาแสนสวยของสีชิงชวนกำลังยืนกอดถุงกระดาษถุงหนึ่งและเงยหน้าขึ้นมองข้างๆ ท่าเรือ
เรือมาถึงฝั่งแล้ว ป๋ออวี่จึงเอาชุดมาให้สีชิงชวนเปลี่ยน
เขาหลับไปได้หนึ่งตื่น แต่หน้าก็ยังแดงและตัวก็ยังร้อนอยู่เหมือนเดิม ตัวของเขาแห้งไม่มีเหงื่อออกเลยสักนิด
ฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบไปโรงพยาบาล แต่ยังไงก็ต้องเสนอกับเขาไปอยู่ดี “เราไปโรงพยาบาลเถอะ คุณไข้สูงมากเลย”
ฉันคิดว่าเธอจะโกรธหรือไม่ก็เศร้าเสียใจอยู่กับตัวเองที่ถูกสีชิงชวนทิ้งไว้คนเดียว
แต่เธอยังสุขุมและสง่างามเหมือนเดิม
สาวสวยชื่อดังของเมืองฮวานี่สมคำร่ำลือดีจริงๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่สามารถทำให้เธอตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูกได้
ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่คิดว่าเธอจะให้สีชิงชวนตามฉันมาก่อนแล้วตัวเองก็อยู่ที่เกาะต่อ
ช่างมีน้ำใจจริงๆ เปรียบเทียบฉันกับเซียวซือ ไม่ว่าจะเปรียบเทียบยังไงก็รู้สึกว่าทั้งกิริยาท่าทางและจิตใจของเธอมันทิ้งห่างจากของฉันไปเยอะเลย
ฉันยื่นโทรศัพท์คืนไปให้ป๋ออวี่ สีชิงชวนพิงไหล่ของฉันและหลับไปแล้ว ศีรษะของเขาเหมือนกับเตาไฟที่ปล่อยความร้อนออกมาอย่างต่อเนื่องจนหน้าครึ่งหนึ่งของฉันร้อนผ่าวไปหมดแล้ว
รถขับมาที่คฤหาสน์ที่เราเคยอยู่ก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่าทำไม ไปแค่สองวัน แต่ฉันกลับรู้สึกว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยกเว้นคนที่เปลี่ยนไป
หมอสวีมาถึงนานแล้ว เมื่อเห็นเราประคองสีชิงชวนเข้ามา เขาก็รีบมาต้อนรับทันที
“โห หน้าแดงมากเลย คุณชายสามไปแช่ตัวอาบน้ำในทะเลมาเหรอครับ?”
ดูเหมือนว่าหมอสวีกับสีชิงชวนจะสนิทกัน ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ไม่คิดว่าเขาจะยังกล้าพูดเย้าสีชิงชวน
พวกป๋ออวี่พาสีชิงชวนขึ้นไปนอนที่ชั้นบน ฉันช่วยอะไรไม่ได้จึงได้แต่ยืนมองจากหน้าประตูเข้าไปด้านใน
ยัยเบธจะเดินไปคำนับข้างใน “สาวใช้ กรุณาหลบหน่อยค่ะ”
“เธอก็ช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกันแหละ”
“ฉันสามารถวินิจฉัยได้โดยตรงโดยอิงจากอุณหภูมิพื้นผิวของเจ้านายค่ะ”
“หมออยู่ที่นี่ เธออย่าไปโชว์พาวต่อหน้าคนที่เขาเก่งกว่าเถอะ”
หมอสวีตรวจให้สีชิงชวนไปด้วยพึมพำไปด้วย “คุณชายสามคิดว่าเงินเดือนที่ให้ผมมันเยอะไปหรือเปล่า ไม่อยากให้ผมว่างใช่ไหม? คุณชายสามไม่มาหาผมตลอดทั้งปี ตอนนี้ป่วยถี่ไปหน่อยหรือเปล่าครับ?”
“คุณเงียบไปเลย ผมยังได้ยินนะ” สีชิงชวนพูดอย่างอ่อนแรง แต่ก็ยังคงความดุดัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...