พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 223

“สีชิงชวน คุณอย่ามาทำตัวไม่มีเหตุผลนะ” ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นบ้าอะไรอีก ทั้งๆ ที่เซียวซือก็อยู่ เขาจะให้ฉันกลับไปทำไม?

ทำให้เซียวซือดูเหรอ?

หรือว่าทำให้สื่อดู?

ประเด็นคือในบ้านเขามีสื่อด้วยเหรอ?

ตอนนั้นเอง รถของหนีอีโจวก็ได้ขับเข้ามา ฉันบอกกับเขาสั้นๆ “เย็นนี้ฉันจะเลิกงานตรงเวลา เอาอย่างนี้ละกันนะ”

สีชิงชวนไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่ฉันกลับได้ยินเสียงดังโครมครามดังมาจากในสาย เหมือนเสียงของอะไรบางอย่างตกลงบนพื้น

“สีชิงชวน สีชิงชวน! ” ฉันตะโกนเรียกเขาด้วยความร้อนใจ แต่เขาไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ตอบกลับมาเลย

หนีอีโจวลงมาเปิดประตูรถให้ฉัน ฉันขึ้นไปบนรถแล้วโทรกลับไปหาสีชิงชวนอีกครั้ง แต่สายโทรไม่ติดแล้ว

เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้นกับสีชิงชวน?

ฉันนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็โทรหาเซียวซือ แต่เธอไม่รับสาย

คงไม่ใช่ว่าสีชิงชวนโกรธมากจนลื่นล้มในห้องน้ำหรอกนะ?

เขาเป็นผู้ชายร่างสูงใหญ่แข็งแรง ถ้าล้มแล้วจะเป็นยังไงกันนะ?

แล้วทำไมฉันต้องกังวลขนาดนี้ด้วยล่ะ?

“เซียวเซิง” เสียงของหนีอีโจวเรียกสติฉันกลับมา ฉันจึงพบว่าตอนนี้ตัวเองกำลังแทะสายคล้องโทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? ”

“เปล่าค่ะ” ฉันรู้สึกว้าวุ่นในใจ เมื่อเช้าก็นัดกับหนีอีโจวไว้ดิบดีแล้ว แต่ตอนนี้กลับรู้สึกผิดมากๆ ที่มาเปลี่ยนใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าสีชิงชวนเป็นอะไรไปแล้วหรือเปล่าอีก “หนีอีโจว” ฉันอ้ำๆ อึ้งๆ “กลางวันนี้ต้องขอโทษด้วยนะคะ”

“คุณมีธุระเหรอครับ? ” เขามองฉันจากกระจกมองหลัง

“ค่ะ” ฉันพยักหน้า “ขอโทษจริงๆ นะคะ เย็นนี้ฉันจะไปเยี่ยมคุณน้าแน่นอนค่ะ ไปแน่นอนจริงๆ ค่ะ”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ? ”

“เปล่าค่ะ” ฉันส่ายหน้าไปมาเหมือนป๋องแป๋ง

แน่นอนว่าหนีอีโจวไม่ได้เอาแต่ตื๊อไม่มีเหตุผลเหมือนสีชิงชวน เขาไม่ได้ถามต่ออย่างรู้เหตุรู้ผล “งั้นก็ได้ครับ คุณจะไปที่ไหน ผมจะไปส่งคุณเอง”

ฉันคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็บอกที่อยู่บ้านของสีชิงชวนกับเขาไป ถึงยังไงฉันก็ไม่ได้ขับรถมาและต้องนั่งแท็กซี่ไปอยู่แล้ว

ระหว่างทางฉันโทรหาสีชิงชวนอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่รับ

เมื่อหนีอีโจวขับรถเข้าในบริเวณคฤหาสน์ของสีชิงชวน จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมา “เซียวซือ”

ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง และเห็นเซียวซือกำลังขับรถผ่านรถของพวกเราไป

เอ๋ เซียวซือกลับเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?

หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับสีชิงชวน แล้วเซียวซือขับรถพาเขาไปโรงพยาบาล?

ฉันยืดคอมองตามรถของเซียวซือที่ขับออกไปไกลแล้ว ฉันเองก็ไม่เห็นเหมือนกันว่านอกจากเธอแล้วในรถยังมีใครอยู่อีกหรือเปล่า

ฉันให้หนีอีโจวขับรถไปจอดหน้าประตูคฤหาสน์ จากนั้นก็หันมาขอบคุณหนีอีโจว “ตอนบ่ายคุณจะไปที่บริษัทอีกหรือเปล่าคะ? ”

“ไม่ครับ ผมต้องไปที่สำนักงานกฎหมายแล้ว”

“งั้นตอนเย็นฉันจะติดต่อคุณไปนะคะ”

“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ? ” หนีอีโจวเอ่ยถามฉันด้วยความเป็นห่วง

ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับสีชิงชวนจริงๆ ละก็ เซียวซือไม่มีทางนิ่งดูดายหรือกลับออกไปแน่นอน ฉันจึงคิดว่าน่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ฉันส่ายหน้า “ไม่มีอะไรแล้วค่ะ คุณไปทำธุระของคุณเถอะ”

“ครับ งั้นผมกลับก่อนนะ”

ฉันลงจากรถ โบกมือให้หนีอีโจว จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปข้างในประตูเหล็กของสวนดอกไม้ทันที

ฉันชนเข้ากับหน้าอกของยัยเซ่อเบธที่ยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ ผิวหนังของมันห่อหุ้มไปด้วยเหล็กทำให้ฉันรู้สึกเจ็บมาก

“เจ้านายของเธอล่ะ? ” ฉันเอ่ยถามเซ่อเบธด้วยความร้อนใจ

“เจ้านายอยู่ข้างบนค่ะ”

“เขาไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม? ”

“เสียใจอะไร? โทรศัพท์ตกแตกแล้วยังไง? ขอร้องล่ะสีชิงชวน สีซื่อกรุ๊ปเพิ่งร่วมผลิตโทรศัพท์รุ่นหนึ่งกับแบรนด์ดังไปไม่ใช่เหรอ คุณมีโรงงานผลิตโทรศัพท์ขนาดใหญ่อยู่ในครอบครองนะ คุณบอกฉันหน่อยสิว่าคุณจะเสียใจอะไรกับอีแค่โทรศัพท์ตกพัง? ”

“โทรศัพท์เครื่องนี้อยู่กับผมมานานแล้ว ความผูกพันน่ะเข้าใจไหม ก็เหมือนที่คนผูกพันกับสัตว์นั่นแหละ”

“ตามที่ฉันรู้มา โทรศัพท์คุณเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด เพิ่งปล่อยออกมาได้แค่สองเดือน มันนานตรงไหน? ”

“คุณใจดำเกินไปแล้ว เซียวเซิง” เขาเอ่ยอย่างจริงใจ “คุณไม่เข้าใจความรู้สึกของผมที่มีต่อมันหรอก”

ฉันไม่อยากฟังคำพูดโกหกของเขา จึงแย่งโทรศัพท์ของเขามาและโยนมันลงไปในตะกร้าที่ใส่เศษกระดาษ “สีชิงชวนทำแบบนี้ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ คุณแค่ไม่อยากให้ฉันอยู่กับหนีอีโจว นอกจากเหตุผลนี้ก็ไม่มีเหตุผลอื่นแล้ว ตอนนี้ฉันจะไปตามนัดเหมือนเดิม! ”

ฉันลุกขึ้นยืนและเดินออกไป เมื่อมาถึงหน้าประตู ฉันก็ได้ยินเสียงเขาพึมพำเบาๆ “ปวดท้อง”

“ถึงจะปวดจนตายก็ช่างมัน” มือของฉันจับลูกบิดประตูแล้ว แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองเขา “คุณตายหรือยัง? ”

สีหน้าของเขาดูเจ็บปวดมาก แต่ใครจะไปรู้ว่ามันจริงหรือโกหก?

“ผมยังไม่ได้กินข้าวเลย”

ฉันได้กลิ่นหอมของอาหารที่หอมมากๆ สายตากวาดมองไปรอบๆ ห้อง และในที่สุดก็เจอเข้ากับกล่องอาหารหลายกล่องและกระติกเก็บความร้อนวางอยู่บนโต๊ะน้ำชาทางด้านนั้น ฉันเดินเข้าไปดู อาหารข้างในดูก็รู้แล้วว่าเป็นอาหารที่รสชาติดีและใส่ใจมากๆ

มีผักคะน้าผัดกับเนื้อหอยและลูกชิ้นปลา ฉันลองชิมดูแล้วมันใส่กะปิลงไปด้วย

นี่เป็นอาหารที่เซียวซือทำ เธอทำอาหารได้ไม่กี่อย่าง และอาหารจานนี้เป็นอาหารที่แม่บ้านของที่บ้านสอนเธอทำ

เซียวซือต้องล่วงหน้ากลับบ้านไปทำอาหารให้สีชิงชวนก่อนแน่นอน ฉันเห็นว่าบนโต๊ะมีชามสองใบและตะเกียบสองคู่วางอยู่ ดูแล้วเซียวซือน่าจะตั้งใจไว้ว่าจะทานข้าวเที่ยงกับสีชิงชวน แล้วทำไมตอนนี้ถึงกลับไปแล้วล่ะ?

“เซียวซือล่ะ? ทำไมเธอถึงกลับไปกะทันหัน? ”

......

[1] จากบทสนทนานี้

“หล่นแตก”

“ล้มตรงไหน? ” ฉันก็เห็นว่าท่าทางของเขายังดูดีอยู่นี่

ที่สีชิงชวนตอบว่า “หล่นแตก” แล้วเซียวเซิงถามว่า “ล้มตรงไหน” เป็นเพราะว่าในภาษาจีนใช้คำว่า “摔” (อ่านว่า ไซว) เหมือนกัน ซึ่งคำนี้แปลได้หลายความหมายคือ 1.หกล้ม ล้มลง 2. ตกแตก หล่นลง ตกลงมา 3. โยน จับขึ้นมาตบหรือปัดออก เช่น ปัดฝุ่นออก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)