พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 235

สีชิงชวนเผด็จการมากเสียจนกระทั่งไร้เหตุผล

ทว่าฉันเห็นด้วยกับคำพูดนี้

ทำไมต้องคิดหาเหตุผลด้วย ฉันเป็นถึงท่านประธาน ฉันสั่งห้ามก็ต้องห้าม

“ไม่ชอบเอารูปนี้ลงโฆษณา เอาตามนี้” ฉันพูดสั้นๆและตรงไปตรงมา

พวกเขาชะงักงันไปตามกัน รวมทั้งเซียวซือด้วย

คาดว่าพวกเขาน่าจะนึกไม่ถึงว่าฉันจะตรงไปตรงมาได้ขนาดนี้

“ทำไมถึงไม่ชอบล่ะ เซียวเซิง?” เธอถามอย่างละมุนละไม

ฉันรู้สึกเกรงใจ แต่ก็ต้องยืนหยัดต่อไป “ไม่มีเหตุผล ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ” ฉันอมยิ้ม “ภาพด้านหลังของสองคนนี้ถึงแม้จะดูสนิทสนมกัน แต่อาจจะไม่ใช่ความสัมพันธ์อย่างที่เราคิดก็เป็นได้ อีกทั้งสัดส่วนของภาพดูเรียบง่ายจนเกินไป ภายภาคหน้าอาจจะทำยากก็เป็นได้”

ในประเด็นนี้ฉันมีสิทธิ์เสนอความคิด ในเมื่อทักษะการวาดภาพของฉันก็ยังโอเครอยู่ เวลาว่างก็มักจะอ่านหนังสือด้านนี้อยู่บ่อยๆ

สายตาของเซียวซือราวกับจะได้รับการกระทบทั่งอยู่บ้าง “ใช่เหรอ ฉันคิดว่าอะไรก็ตามยิ่งดีก็ต้องยิ่งเป็นธรรมชาติ”

“สรุปก็คือฉันไม่ชอบ” ฉันอมยิ้ม “ฉันเป็นถึงท่านประธาน เรื่องเล็กน้อยนี้ฉันควรจะมีอำนาจในการตัดสินใจมิใช่หรอ? หื้อ?” ฉันปรบมือ “ไม่รบกวนเวลาทำงานของทุกคนแล้ว เรื่องงานโฆษณาก็ให้ฝ่ายโฆษณาและฝ่ายวางแผนและควบคุมการผลิตเป็นคนไปจัดการ และส่งแผนงานสามฉบับมาให้เลขาของฉันภายในหนึ่งอาทิตย์ ตามนี้ค่ะ”

นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ฉันพูดมากขนาดนี้ในที่ประชุม พูดออกมาได้เสียที เหมือนว่าก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น

ทว่ามือของฉันเต็มไปด้วยเหงื่อ

ผู้เข้าประชุมต่างจ้องหน้ากันไปมา เซียวซือชะงักไปแปบนึง จากนั้นก็พยักหน้ายิ้ม “ได้ค่ะ ปิดการประชุม”

ผู้เข้าประชุมพากันเดินออกจากห้องประชุม เหลือแค่ฉันเฉียวอี้และหร่วนหลิง

ฉันล้มตัวลงบนเก้าอี้ แม้แต่ฝ่าเท้าก็เต็มไปด้วยเหงื่อ

นิ้วโป้งสองนิ้วปรากฏต่อหน้าฉัน ร่างฉันแทบอ่อนระทวย “ตกใจหมดเลย”

“พูดแค่ไม่กี่คำเอง มีอะไรน่าตกใจนักหรอ” เฉียวอี้ผลักฉัน “ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า”

“ท่านประธานเก่งมากเลย ก้าวแรกมักจะยากเสมอ” หร่วนหลิวเอ่ย “ครั้งนี้ ไม่มีใครกล้าว่าท่านประธานของเราว่าเป็นไอ้ใบ้อีกแล้ว!”

เธอพูดออกไปปั๊บก็รู้สึกว่าตัวเองพูดมากเกินไปแล้ว จึงรีบปิดตัวเองโดยเร็ว

ไม่ต้องให้เธอพูดฉันก็รู้อยู่ ฉันยิ้มด้วยความจำใจ “ฉันรู้น่ะ คนในบริษัทดูถูกฉันนักต่อนัก”

“แต่วันนี้คุณทำได้ไม่เลวเลย อย่างน้อยก็กล้าพูดแล้ว”

“เซียวซือไร้เหตุผลสิ้นดี ใช้รูปของเธอและสีชิงชวนมาลงโฆษณาให้กับเกาะสุริยา ทำอะไรอะ นึกว่าเป็นรูปงานแต่งหรอ ยังจะเป็นรูปคู่อีก แม่งเอ้ย!” เฉียวอี้พูดเสียงดัง ฉันสั่งให้หร่วนหลิงปิดประตูห้องประชุมให้สนิท

ฉันนั่งบนเก้าอี้อยู่ตั้งนมนานถึงจะยันโต๊ะเพื่อลุกขึ้น เฉียวอี้หัวเราะเยาะฉัน “ให้ฉันแบกเธอออกไปไหม?”

“อย่าทำแบบนี้ ท่านประธานของเราผ่านก้าวแรกไปได้ไม่ง่ายเลย ต่อไปวันข้างหน้าก็คงจะดีขึ้น”

“เฮ้ เซียวเซิง อะไรทำให้เธอข้ามผ่านความกลัวกล้าที่จะย่างเท้าก้าวแรกออกมา? เพราะอิจฉาเหรอ?” เฉียวอี้ใช้ข้อศอกของเธอมาสะกิด สะกิดจนฉันเจ็บปางตาย

“ก็ไม่ชอบเฉยๆ”

“เชอะ เฉยมากเลยนะเนี่ย”

เฉียวอี้เธอคิดมากไป ฉันก็แค่ไม่ชอบเฉยๆจริงๆ

ฉันกลับไปที่ออฟฟิศ นึกว่าสีชิงชวนจะมา แต่หร่วนหลิงบอกฉันว่าเขากลับไปแล้ว

เมื่อครู่นับว่าเป็นการให้กำลังใจจากเขา เพื่อให้ฉันกล้าแสดงความคิดเห็นหรือเปล่านะ?

ถ้าฉันไม่แย้งไป จะเป็นการยอมรับเป็นนัยๆจากเขาโดยยอมที่จะใช้รูปเขากับเซียวซือลงโฆษณาให้กับเกาะสุริยาใช่ไหมนะ?

จากนั้นก็จะเต็มไปทั่วท้องถนน?

วันนี้งานยุ่งมาก ฉันไม่เพียงแต่จะต้องสะสางงานของบริษัท เวลาว่างฉันยังต้องแอบแกะสลักหยกเพื่อที่จะมอบให้สีชิงชวน

เฉียวอี้ถามฉันว่าแกะสลักอะไรอยู่ ฉันก็ตอบไปตามตรง

“เธอคิดจะทำอะไร?” เดิมฉันมีเวลาไม่มากนัก เวลาพักเที่ยงผ่านไปฉันยังต้องทำงานต่อ

“เธอกับสีชิงชวนแอบคบกันอยู่ใช่ไหม?”

“บ้าหรอ” ฉันหลบสายตาของเฉียวอี้ด้วยความใจแป้ว

เธอยกหน้าของฉันตั้งตรง “เธอชอบสีชิงชวนเข้าแล้วใช่ไหม?”

“บ้าหรอ”

“เธอชอบเขาเป็นเรื่องปกติ ถึงแม้สีชิงชวนจะน่ารังเกียจ แต่ก็ยังคงมีหญิงสาวจำนวนมากบ้าคลั่นในตัวเขา”

“เธอคุณเยอะไปแล้ว”

“ได้ เธอไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร ตอนนี้เธอกับเขาเป็นสามีภรรยากัน พวกเธอจะทำอะไรกันก็ได้ แต่เซียวเซิง ฉันต้องเตือนเธอไว้ก่อน ก่อนที่คุณยังไม่มั่นใจว่าสีชิงชวนจะเอาจริงก็อย่าเอาตัวเองเข้าไปถลำลึกไปมากกว่านี้”

ใบหน้าเฉียวอี้จริงจังขึ้นมาทันที น้อยครั้งที่จะเห็นเธอเคร่งขรึมขนาดนี้

ฉันฟังเธอจนขนลุกขนพอง “เธอพูดอะไรน่ะ ถลำลึกอะไรกัน ฉันไม่ชอบสีชิงชวนสักหน่อย เขาไม่ใช่สเปคของฉัน”

“ก็หวังว่าตัวเองจะไม่ขายหน้าเอง”

“เธอมันพิลึกจริงๆ” ฉันชำเลืองมองเธอ “เธอหวังให้ฉันเกาะสีชิงชวนกินไม่ใช่หรือไง?”

“ใช่นะสิ ฉันหวังว่าเธอจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา ทางที่ดีให้เขาอาลัยอาวรณ์เธอ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไปไกลซะแล้ว ฉันไม่ได้ให้เธอชอบเขาสักหน่อย! เมื่อไหร่ที่เธอให้ใจเขาไปเธอก็พ่ายแพ้ซะแล้ว!”

“แข่งวิ่งหรอ ถึงได้มีแพ้มีชนะอะ”

“สีชิงชวนเป็นถึงใคร เขาจะมาชอบคนๆหนึ่งง่ายๆหรอ กลัวว่าเขาจะมาแค่เล่นๆนะสิ” เฉียวอี้พูดปากเปียกปากแฉะ ฟองน้ำลายแทบจะกระเด็นใส่หน้าฉันอยู่แล้ว “เธอมันซื่อบื้อ พอให้ใจไปก็จะควักหมดหน้าตัก คนอย่างสีชิงชวนรักใครไม่เป็นหรอก เธอนึกว่าเมื่อก่อนเขาจะรักเซียวซือหรอ? ฉันว่าเขาไม่รักหรอก เขารักแค่ตัวเขาเอง”

ฉันฟังเฉียวอี้จนอารมณ์ทางด้านศิลปะของฉันสลายป่นปี้ไปหมด มองเธออย่างเลื่อนลอยโดยในมือถือมีดแกะสลักอยู่ “เธอตีตนไปก่อนไข้หรือเปล่า?”

“ฉันแค่มาเตือนเผื่อล่วงหน้า คนอย่างสีชิงชวนได้แต่หลอกใช้คนอื่นไปวันๆ จะชอบเขาไม่ได้เป็นอันขาด ถ้าเธอแน่ใจว่าเขาตกหลุมรักเธอเข้าแล้วก็ไม่เป็นไร แต่เธอแน่ใจไหมล่ะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)