พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 234

ฉันเดินเข้าไปในห้องประชุม ทุกคนต่างมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน นี่เป็นความคิดที่เฉียวอี้เสนอขึ้นมา ท่านประธานอย่าไปเร็วจนเกินไป โดยเฉพาะคนที่ไม่มีอำนาจบารมีอย่างฉันจะต้องยิ่งสร้างภาพมากกว่าเดิม

รอให้ฉันมีอำนาจบารมีสูงส่งเสียก่อน แล้วค่อยอ่อนน้อมถ่อมตัว

ฉันเพิ่งจะเดินไปตรงตำแหน่งที่นั่งฉัน หัวหน้าพนักงานระดับสูงก็ลุกขึ้นทันที ทักทายด้วยการทำความเคารพฉันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา “สวัสดีครับ/ค่ะ ท่านประธาน”

เหตุการณ์น่าตกตะลึง ทำฉันตกใจอยู่ไม่น้อย

ฉันเตรียมจะยิ้มตอบ ทว่ากลับเห็นสีหน้าอึมครึมเหมือนฟ้าฝนกำลังจะตกของสีชิงชวน

ฉันจำในสิ่งที่เขาเคยบอกฉันไว้ได้ มาดเคร่งและการอยู่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการเมินเฉยต่อการเคารพของผู้อื่น

ฉันทำได้ยากมาก ทว่าก็ได้เก็บอาการยิ้มไปบ้างแล้ว พยักหน้าเบาๆให้ถือว่าเป็นการทักทายตอบ

การประชุมก็ผ่านไปได้ด้วยดี ฉันพบว่าในตัวเองเริ่มจะตามสถานการณ์ทันเข้าทุกที อย่างน้อยสิ่งที่พวกเขาพูดมาฉันก็สามารถเข้าใจได้ทันที มิหนำซ้ำยังมีความคิดเป็นของตัวเองอีกด้วย

ฉันยังหลงระเริงกับการตามสถานการณ์ทันอยู่ เซียวซือยืนอธิบายแผนการสร้างเกาะสุริยาที่ไปในครั้งนี้และรูปที่ถ่ายมาโดยใช้ Power Pointอยู่หน้าเวที

เซียวซือเก่งจริงๆ เวลาสั้นๆเพียงสองวันทำแผนโฆษณาได้ออกมาดีขนาดนี้

ทว่าสายตาของฉันกลับจดจ่อกับรูปๆหนึ่ง

ในรูปเป็นวิวทะเล ทั้งยังมีแบบจำลองวิลล่าวิวทะเลที่เสร็จสมบูรณ์อยู่แห่งหนึ่ง รูปถ่ายไว้ดีมาก วิวทิวทัศน์ที่งดงามขนาดนั้นใครดูก็เบิกบานใจทั้งนั้น

ทว่าฉันกลับใจจดใจจ่อกับเงาด้านหลังที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ของคนสองคน

ผู้หญิงสวมชุดกระโปรงยาวสีขาว ส่วนผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงยีนที่พับขากางเกงไว้ คลื่นก็ได้ซัดวนไปยังเท้าของพวกเขา

พวกเขายืนควงแขนกัน แนบชิด เป็นธรรมชาติ และโรแมนติก

พวกเขาก็คือสีชิงชวนและเซียวซือ ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่ารูปนี้ใครเป็นคนถ่าย เหมือนกับจะตั้งใจถ่ายเงาด้านหลังของพวกเขาไว้ในรูป

มีผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “รูปนี้ถ่ายได้ดี ดารานางแบบในรูปเป็นอยู่บริษัทไหน?”

ใครบ้างล่ะจะมองไม่ออกว่าสองคนนั้นคือเซียวซือและสีชิงชวน?

และก็มีคนคล้อยตามทันที “ฉันว่าใช้รูปนี้ในการโฆษณานั่นแหละ ดีกว่านางแบบนายแบบที่ต้องมาโพสท่าพวกนั้นร้อยเท่า”

เชอะ ดูแค่เงาด้านหลังก็ทราบได้เลยหรอว่าพวกเขาไม่ธรรมดา?

ฉันหยิบแฟ้มเอกสารมาบังหน้าพลางแอบมองไปหาสีชิงชวน เขาสีหน้าไร้อารมณ์ เหมือนไม่คิดจะโต้แย้ง

เซียวซือก้มหน้าก้มตา พร้อมกับยกยิ้มเบาๆ

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ฉันถึงคิดว่ามันไม่เหมาะไม่ควร

รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไม่สบายตรงจุดไหน รู้แค่ว่าไม่สบาย

ผู้จัดการฝ่ายโฆษณารู้สึกตื่นเต้น “งั้นก็เอาป้ายโฆษณานี้นี่แหละ ถึงเวลานั้นก็ให้เงาด้านหลังของเทวดานางฟ้าคู่นี้ได้จุติลงทุกซอกทุกมุมของเมืองฮวาเลย?”

เฉียวอี้นั่งบนเก้าอี้ด้านหลังฉัน คาดว่าเธอก็น่าจะเห็นเงื่อนงำอะไรบางอย่าง จึงปริปากเอ่ยอย่างเย็นยะเยือก “ทุกซอกทุกมุมเลยเหรอ? บนเสาไฟฟ้าด้วยไหม?”

บรรดาพนักงานระดับสูงบนโต๊ะประชุมไม่กล้าหัวเราะ เหล่าเลขาและผู้จัดการทางด้านหลังอั้นไม่ไหวมีคนหัวเราะออกมา

“ชิงชวน” เซียวซือปริปากพูดอย่างอ่อนโยน “คุณคิดว่าไง จะให้ประธานฉินดูว่าเขาพอใจในโฆษณานี้หรือเปล่า?”

“ประธานฉินไม่สนใจในรายละเอียดยิบๆย่อยๆ ในส่วนนี้เขาโยนให้เราจัดการ ผมไม่ติดอะไร” สีชิงชวนในวันนี้ใจกว้างจัง ใจกว้างจนฉันแทบจะไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ

ทว่าสายตาคล้ายจะยิ้มของเขาสาดส่องผ่านใบหน้าฉันไป

“ถ้าทุกคนเห็นพ้องต้องกัน งั้นเราก็ตกลงตามนี้” ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาปริปากพูดอย่างเบิกบาน

เฉียวอี้ถีบเก้าอี้ฉันจากทางด้านหลังจนฉันเกือบจะกลิ้งลงไปใต้โต๊ะ

ที่จริงฉันก็ลังเลอยู่พอสมควร ใช่สิ ฉันจะปริปากพูดแสดงความไม่เห็นพ้องต้องกันดีไหมน่า?

ฉันเป็นถึงท่านประธาน ฉันมีอำนาจการตัดสินใจ อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไร

ทว่าฉันเข้าบริษัทเซียวซื่อกรุ๊ปมานานขนาดนี้ ทุกคนต่างก็หาว่าฉันเป็นหุ่นเชิด หุ่นกระบอก หรือไม่ก็ด่าฉันไปเลยว่าเป็นแค่เสมียน ถึงแม้ในนามจะเป็นถึงท่านประธาน แต่ตอนประชุมก็ได้แต่จดเลคเชอร์ พยักหน้าตกลง ไม่มีความคิดเห็นใดๆทั้งสิ้น

“ฉันกำลังครุ่นคิดอยู่เธอก็กล่าวปิดประชุมซะแล้ว” ฉันอมยิ้ม แม้ว่ามุมจะกระตุกอย่างไม่เป็นธรรมชาติก็ตาม

ผู้เข้าประชุมกลับมา เซียวซือก็กลับไปนั่งที่ตัวเองใหม่ ทุกคนต่างงุนงง ทั้งยังเผยความหงุดหงิดออกมาบ้างเล็กน้อย ฉันดูออก

ฉันดื่มน้ำชาไปกรึ๊บนึง รู้สึกคอแห้งเลยดื่มไปหมดแก้วเลย

คำสุดท้ายที่ดื่มกลืนไม่ดีเลยทำให้สำลักไป ไอคอกแคกๆเหมือนตับไตไส้พุงจะกระเด็นกระดอนออกมา เฉียวอี้และหร่วนหลิงทั้งทุบหลังและหยิบทิชชูให้ฉัน

มีพนักงานระดับสูงคนหนึ่งพูดขึ้น “ท่านประธาน ถ้าไม่สบายตรงไหน ก็รีบกลับไปพักเถอะ!”

ในสายตาพวกเขาฉันจะมาทำงานหรือไม่มาก็ไม่ต่างกันเลย

ฉันโบกไม้โบกมือ กว่าจะหายใจกลับมาเป็นปกติไม่ง่ายเลย สายตาส่องผ่านใบหน้าของสีชิงชวนและเซียวซือ

สีชิงชวนสงบนิ่ง เซียวซือก็สงบนิ่งเหมือนกัน มองอะไรไม่ค่อยออก

ฉันรวบรวมความกล้า ตวัดริมฝีปาก และชี้ไปยังรูปใบนั้น “รูปนี้เอาไปลงโฆษณา ฉันคิดว่าไม่เหมาะเท่าไหร่”

“ทำไมล่ะ?” ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาถามขึ้น “ฉันรู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นการวางสัดส่วนของภาพ ท่วงทำนองหรือนางแบบต่างก็ดีมากๆ”

“ฉันรู้สึกว่าธรรมดา”

“ท่านประธาน ถ้ายังจะต้องหานางแบบมาถ่ายอีก ก็ไม่แน่ว่าผลลัพธ์จะดีไปกว่ารูปนี้ แล้วทำไมจะต้องไปสิ้นเปลืองทุนทรัพย์และทรัพยากรมนุษย์ด้วย?” ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาพูดปุ๊บ ทุกคนต่างก็คล้อยตาม

หลายวันมานี้พวกเขาดูเหมือนจะเคารพฉัน แต่ในใจกลับโอนเอนไปยังฝ่ายของเซียวซือ

ฉันพยายามคิดหาเหตุผลโต้แย้ง แต่กลับอึกอักพูดไม่ออก

ทันใดนั้น โทรศัพท์บนโต๊ะของฉันก็ดังขึ้น ฉันชะเง้อหน้าไปดู ไม่นึกว่าสีชิงชวนจะส่งวีแชทมาให้

ฉันไม่ต้องกดเปิดก็สามารถเห็นโยคสั้นๆได้ใจความ

“คุณเป็นถึงท่านประธาน ออกคำสั่งไปแล้วยังจะหาเหตุผลอะไรอีก?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)