หนีอีโจวเคยบอกกับฉันแล้วว่า ในความเข้าใจของคุณแม่หนี ฉันก็คือลูกสะใภ้ของท่าน
กับผู้ป่วยประเภทนี้ แน่นอนว่าฉันไม่สามารถอธิบายให้ท่านได้เข้าใจอย่างชัดเจนได้ เฉียวอี้ยิ้มแล้วบอกกับท่านว่า “ใกล้แล้วค่ะคุณน้า เราจะได้ทานลูกอมมงคลในเร็วๆนี้อย่างแน่นอนค่ะ”
เมื่อกลับมาถึงบริษัท ฉันไม่มีกระจิตกระใจที่จะทำอะไรตลอดช่วงบ่ายเลย ดวงตาที่ดูสับสนของคุณแม่หนีมักจะโผล่ขึ้นมาในหัวของฉันเสมอ เมื่อก่อน ท่านจะไม่เป็นแบบนี้เลย
ช่วงเวลาประมาณหกโมงเย็นสีชิงชวนได้โทรมาหาฉัน ฝั่งที่เขาอยู่เสียงดังมาก เสียงอันวุ่นวาย ยิ่งขับเน้นให้เสียงของเขาล่องลอยมากขึ้น”
“แต่งตัวสวยๆหน่อยนะ”
“ออ” ฉันพูด
“ของขวัญวันเกิดผมล่ะ?”
“ก็ฉันไงล่ะ?”
เขาหัวเราะชอบใจ ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ชุดที่ฉันใส่ออกมาเมื่อเช้าก็ออกจะสวยอยู่แล้ว หลังเลิกงานก็แค่แต่งหน้าเพิ่มเติมนิดหน่อย เฉียวอี้ถามฉันว่าแต่งตัวสวยขนาดนี้ให้ใครดู ฉันเลยตอบว่า ที่แน่ๆไม่ใช่หล่อนก็แล้วกัน
“งานปาร์ตี้วันเกิดของสีชิงชวนเหรอ? ฉันจะไปด้วย”
“เธอเลิกคิดไปได้เลย เธอกับเขาไม่ถูกกันสักหน่อย อีกอย่างคนอื่นเขาไม่ได้เชิญเธอด้วย”
“เธอเป็นถึงคุณผู้หญิง เธอเชิญฉันก็ได้นี่”
“แม่ทูลหัว” ฉันจับไหล่ของหล่อนไว้ “เธอควรหยุดพักเพื่อฉันซะบ้างนะ”
“เชอะ ฉันก็ไม่ได้อยากไปขนาดนั้นหรอก ฉันไปหาฉินกวนดีกว่า” เฉียวอี้มองบนอย่างแรงแล้วเดินจากไป ฉันเองก็เก็บของเตรียมตัวจะออกไปแล้วเหมือนกัน จากเซียวซื่อกรุ๊ปไปตามที่อยู่ที่เขาให้กับฉัน ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง
ฉันเพิ่งลุกขึ้นยืน โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฉันก็นึกว่าเป็นสายจากสีชิงชวนโทรมาตามฉันซะอีก แต่เมื่อดูชื่อที่ปรากฏบนจอโทรศัพท์กลับเป็นหนีอีโจว
“ฮัลโหว อีโจว” ฉันพูดไปด้วยและเดินออกจากห้องไปด้วย
“เซียวเซิง” เสียงของเขาดูเหมือนมีเรื่องเร่งด่วน “ตอนนี้คุณอยู่ไหนเหรอ?”
“ฉันอยู่ที่บริษัท กำลังจะเลิกงาน”
“มีเรื่องต้องรบกวนคุณนิดหน่อย”
“อื้ม นายพูดมาได้เลย?”
“เมื่อกี้ แม่บ้านบ้านผมโทรมาบอกผมว่าแม่ผมหกล้มในบ้าน ตอนนี้ผมไม่สามารถกลับไปได้ทันที ผมอยู่ชานเมือง แม่บ้านได้โทรเรียกรถพยาบาลแล้ว แต่ผมก็ยังไม่วางใจ คุณช่วยไปดูที่โรงพยาบาลให้ผมหน่อยได้ไหม? แต่ถ้าไม่สะดวกล่ะก็…..”
“คุณน้าหกล้มงั้นเหรอ?” ฉันจับราวจับประตูไว้อย่างแน่น “อยู่โรงพยาบาลไหน ตอนนี้รถพยาบาลได้ไปแล้วหรือยัง?”
“ถ้าคุณออกจากเซียวซื่อกรุ๊ปไปบ้านผมล่ะก็ เกรงว่ารถพยาบาลจะรับแม่ผมไปเรียบร้อยแล้ว คุณตรงไปที่โรงพยาบาลเลยดีกว่า”
“ได้ ฉันจะรีบไป”
“เซียวเซิง คืนนี้คุณมีธุระใช่ไหม การที่ผมทำแบบนี้จะเป็นการรบกวนคุณไหม….”
“อีโจว” ฉันรู้สึกเสียใจมากที่เขาเกรงใจกับฉันขนาดนี้ “มีเรื่องอะไรสำคัญไปกว่าเกิดเรื่องกับคุณน้าได้อีกล่ะ?”
เขารู้สึกซาบซึ้งและพูดขอบคุณกับฉันอย่างโล่งใจ “เซียวเซิง ขอบคุณที่มีคุณ”
“คุณน้าล้มจากบนเก้าอี้ได้ยังไงคะ?”
“ตอนนั้นเห็นว่าประตูของตู้เก็บของได้ถูกเปิดออก ฉันเองก็ไม่รู้ว่าคุณผู้หญิงต้องการจะเอาอะไร”
ฉันหันหน้าไปมองคุณแม่หนีที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ท่านยังรู้สึกตัว น่าจะกระแทกตรงช่วงขา บุคลากรทางการแพทย์ได้นำแผ่นไม้ประกบเพื่อตรึงกระดูกไม่ให้เคลื่อนให้ท่านชั่วคราว
ท่านจับมือของฉันไว้ “เสี่ยวเซิง หนูมาเที่ยวที่บ้าน น้าจะเอาขนมให้หนูทานนะ”
ที่แท้ก็จะเอาขนมให้ฉันนี่เอง น่าจะเป็นเพราะดูทีวีอยู่ดีๆ แล้วนึกเรื่องที่ฉันไปหาท่านที่บ้านเมื่อตอนเที่ยงได้ เลยคิดว่าฉันยังอยู่ที่นั่นแล้วจะหยิบขนมมาให้ฉันกิน
ฉันรู้สึกเศร้าใจมาก พยายามห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล “คุณน้าคะ ตอนนี้หนูไม่ทานขนมแล้วค่ะ”
เมื่อก่อนเวลาที่ฉันกับเฉียวอี้ไปบ้านหนีอีโจว จะชอบรื้อกล่องขนมบ้านเขาทุกครั้ง คุณแม่หนีจึงชอบเอาขนมเทให้เต็มกล่องอยู่เสมอ รื้อเมื่อไหร่ก็เจอแต่ของอร่อยทุกครั้ง คุณแม่หนีถูกส่งไปห้องฉุกเฉิน ผ่านไปสักพักคุณหมอก็ออกมาบอกฉันว่ากระดูกขาได้หักแล้ว จะต้องเข้าเฝือก ส่วนอย่างอื่นไม่มีปัญหาอะไร
ฉันได้ไปทำเรื่องแอดมิด พร้อมกับโทรหาหนีอีโจวเพื่อให้เขาไม่ต้องเป็นห่วง แต่ฉันเปิดโทรศัพท์ฉันไม่ได้ อาจพังตอนทำตกพื้นเมื่อกี้ เมื่อฉันทำเรื่องแอดมิดเสร็จเรียบร้อย ก็ได้ยืมโทรศัพท์ในห้องทำงานของคุณหมอ โทรหาหนีอีโจว บอกกับเขาว่าคุณแม่หนีปลอดภัยดีแล้ว และได้ทำเรื่องแอดมิดเรียบร้อยแล้ว
ดูเหมือนเขาอยู่ข้างนอก เดินหอบเหมือนคนที่เหนื่อยมาก “ผมกำลังทำคดีอยู่คดีหนึ่ง คาดว่ากลางดึกคืนนี้ถึงจะกลับไปถึงที่นั่น ขอบคุณคุณมากนะเซียวเซิง คุณช่วยผมจ้างพยาบาลเฝ้าไข้ให้หน่อย แล้วกลับได้เลยนะ!”
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องพวกนี้หรอก เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง”
พยาบาลอ่ะต้องจ้างแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ฉันยังไปไหนไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องรอให้หนีอีโจวกลับมาก่อน เมื่อคุณแม่หนีเข้าเฝือกเสร็จ พยาบาลก็ได้เข็นไปส่งที่ห้องผู้ป่วย ท่านได้รับยาแก้อักเสบ สักพักก็หลับไป ฉันให้แม่บ้านกลับไปก่อน เพราะเขาเร่งรีบออกมาแบบนี้กลัวว่ายังไม่ได้ปิดไฟเตาแก๊ส
ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะโทรหาสีชิงชวนหน่อยดีไหม ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็เป็นวันเกิดของเขา ถึงแม้ว่าฉันไม่ได้ไป แต่ฉันก็ควรโทรไปอวยพรวันเกิดเขาสักหน่อย ในห้องผู้ป่วยของคุณน้ามีโทรศัพท์อยู่ ฉันยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา จู่ๆก็นึกหมายเลขโทรศัพท์ของสีชิงชวนไม่ออก เบอร์โทรศัพท์ของเขาได้ถูกเขาตั้งค่าให้เป็นหมายเลขหนึ่ง ปกติฉันจะไม่กดเป็นเบอร์ แค่กดเลขหนึ่งก็ติดแล้ว ฉะนั้นตอนนี้ให้ฉันนึกครึ่งวันก็นึกเบอร์โทรศัพท์ของสีชิงช่วนไม่ออกสักที
ท้ายที่สุด ฉันก็เลือกที่จะไม่โทร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...