พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 241

เฉียวอี้พูดอะไรเยอะมาก หล่อนกลัวว่าหล่อนพูดเยอะเกินแล้วฉันจะไม่เข้าใจ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก และแล้วฉันก็ค่อยๆหลับไป และฉันก็ฝัน ฝันเห็นต้นซากุระ เห็นกลีบดอกซากุระเต็มท้องฟ้าไปหมด ลอยละล่องในอากาศ ท่ามกลางกลีบดอกไม้ดั่งสายฝนโปรยปราย มีเกอิชาจากญี่ปุ่นเดินไปเดินมา คิ้วพระจันทร์เสี้ยว บนหน้าเหมือนทาน้ำยางซับซ้อนนับไม่ถ้วน ริมฝีปากสีแดงสด รูปกลมๆราวกับผลเชอรี่ที่สุกมากและใกล้จะเน่าเสียแล้ว ด้านหลังของเกอิชา ฉันเห็นแขนเสื้อของเซียวซือ เธอยังคงเหมือนดั่งนางฟ้า สวยมาก

จากนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงร้องของสีชิงชวน ทำให้ดอกซากุระที่บานสะพรั่งเต็มท้องฟ้าหายไปทันที มีคนกำลังเขย่าตัวฉันอยู่ จากนั้นเสียงคำรามก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ฉันลืมตาขึ้น เห็นว่าสีชิงชวนยืนอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันตื่นเพราะความตกใจทันที พอหันหัวไปก็เห็นเฉียวอี้นั่งอยู่ข้างฉัน สีหน้าท่าทางดูตะลึงตกใจกว่าฉันอีก

“สีชิงชวน ทำไมคุณถึงมาอยู่ปลายเตียงฉันได้?”

“ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า ภรรยาของผมมาอยู่บนเตียงของคุณได้ยังไง?” สีชิงชวนกัดฟันด้วยความเคียดแค้น ใต้แสงไฟสีส้มที่ส่องลงมา เห็นดวงตาของสีชิงชวนเป็นสีแดง

“ภรรยาของคุณอยู่บนเตียงของฉันมันแปลกตรงไหน? พวกเรานอนเตียงเดียวกันตั้งแต่เล็ก”

“นี่คุณกำลังอวดผมอยู่เหรอ?” มือของเขาจับข้อมือของฉันไว้ “ไม่สนว่าคุณมีเหตุผลอะไรถึงมาอยู่บนเตียงของเพื่อนสนิทของคุณได้ ตอนนี้คุณต้องกลับบ้านกับผม”

จำเป็นที่เขาจะต้องพูดคลุมเครือขนาดนี้ พูดไม่น่าฟังขนาดนี้ไหม? ฉันง่วงนอนจะตายแล้ว อีกอย่างเวลาที่ฉันเห็นเขา มันทำให้ฉันนึกถึงฉากที่เขาอยู่ใต้ต้นซากุระแสนโรแมนติกแล้วจูบกับเซียวซือขึ้นมาทันที

ฉันพยายามดิ้นให้หลุดจากเขา “ฉันรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนไม่ได้ดีถึงขั้นต้องติดเป็นเงาตามตัวขนาดนี้”

“อย่างน้อย ผมต้องรู้ว่าคืนนี้ภรรยาของผมค้างอยู่ที่ไหน”

“ตอนนี้คุณรู้แล้วนี่ กลับไปได้แล้ว” เขาฉุนเฉียว ฉันยิ่งฉุนเฉียวเข้าไปใหญ่

สีชิงชวนรู้สึกตะลึงตกใจ ถึงแม้ว่าวันปกติฉันจะชอบปะทะกับเขา แต่มันก็เป็นแค่การหยอกล้อกัน แต่ครั้งนี้ ฉันโมโหมากจริงๆ อาจเป็นเพราะ ฉันมองเห็นใจของตัวเองแล้วจริงๆ ฉันเป็นเหมือนกับที่เฉียวอี้พูดไม่มีผิด ฉันหลงรักสีชิงชวนเข้าแล้ว เหอะ ให้ตายซะยังดีกว่าเลย เมื่อเห็นเขาปรากฏตัวอยู่ปลายเตียงของเฉียวอี้ในตอนนี้ ในใจฉันเกิดความลังเลและสลับซับซ้อน ยุ่งเหยิงมาก

“กลับบ้านกับผม” สีชิงชวนไม่ได้พูดอะไรมากกับฉัน ดึงตัวฉันจากเตียงนอนแล้วแบกฉันเดินออกไปเลย

เฉียวอี้ลุกจากเตียงแล้วแย่งชิงฉัน “สีชิงชวน คุณเป็นคนแรกที่กล้าแย่งคนจากเตียงนอนของฉันเลยนะ”

สีชิงชวนแบกฉันแล้วก้าวเดินออกจากห้องเฉียวอี้ ยังดีที่เวลานี้อาสะใภ้สี่ได้หลับแล้ว ห้องรับแขกไม่มีใคร นอกจากเฉี้ยวอี้ก็ไม่มีใครเห็นฉันถูกเขาแบกไว้บนบ่าอย่างแปลกประหลาดแบบนี้ ฉันรู้สึกปลื้มใจมาก

เฉียวอี้ไล่ตามออกมาแต่ก็ตามไม่ทัน ฉันเห็นหล่อนขยับปากเป็นการบอกฉัน “หลักสามประการ หลักสามประการ!”

หลักสามประการนั่นฉันยังเข้าใจไม่กระจ่างเลย โอเค๊? สีชิงชวนจะชอบขับรถเข้ามาในสวนดอกไม้บ้านของหล่อนตลอด จอดอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ เขาจับฉันขึ้นรถแล้วคาดเข็มขัดนิรภัย สองมือยันเบาะที่นั่งฉันไว้ จ้องมองฉันในระยะประชิด คืนนี้มืดมาก แต่ดวงตาของเขามืดมนกว่าค่ำคืนที่มืดมิดนี้อีก

ยิ่งเขาเข้าใกล้ฉันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกกดดันมากขึ้นเท่านั้น ฉันพยายามผลักเขาออก “สีชิงชวน คุณอย่าทำแบบนี้ได้ไหม?”

ฉันรีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกอย่างรวดเร็วและผลักเขาออก จากนั้นก็ลงจากรถของเขา แล้วรีบไปจากที่นั่น สวนดอกไม้ของบ้านเฉียวอี้ค่อนข้างจะโค้งไปมา ทำให้รถของสีชิงชวนไม่สามารถขับเข้าไปได้ ฉันได้ยินเสียงเท้าเดินของเขาตามหลังฉันมา แต่ฉันก็สามารถที่จะสลัดเขาทิ้งได้เช่นเคย ฉันรู้จักแผนผันของที่นี่ดีกว่าเขา มีแต่จะทำให้เขาเดินหลงทางเปล่าๆ

พอทำให้สีชิงชวนหลงทาง ฉันรีบวิ่งออกมานอกประตูบ้านเฉียวอี้ทันที แล้วเดินตามทางไปเรื่อยๆ จู่ๆก็รู้สึกปวดฝ่าเท้าขึ้นมา ก้มหัวลงไปดูถึงรู้ว่าฉันไม่ได้ใส่รองเท้าออกมา ไม่เพียงไม่ใส่รองเท้า ฉันยังใส่ชุดนอนของเฉียวอี้ที่ไซส์ใหญ่กว่าเสื้อฉันสองไซส์ออกมาอีกด้วย เมื่อกี้สีชิงชวนแบกฉันออกมาจากเตียงเลย สภาพฉันเลยเป็นแบบที่เห็น

ในตัวฉันไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว ไม่มีมือถือด้วย และแน่นอนว่าจะไม่ย้อนกลับไปที่บ้านเฉียวอี้อีกแน่ๆ เพราะมันไกลมาก จะทำให้ฝ่าเท้าของฉันเจ็บกว่านี้ได้ ฉันลองคิดๆดู เพื่อไม่เป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยน ดังนั้น ฉันจึงยืนอยู่ข้างถนนเพื่อรอให้สีชิงชวนขับรถมาเจอ ฉันเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ อุตส่าห์สลัดเขาทิ้งไปได้แล้วแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับยืนรออยู่ข้างถนนเพื่อที่จะให้เขามาหาฉัน ไม่นาน ก็เห็นรถของเขาขับมาอย่างช้าๆ คงเพราะขับรถไปด้วยและกำลังตามหาฉันไปด้วยอยู่ล่ะมั้ง

ฉันยืนอยู่ข้างถนน ไฟหน้ารถของเขาส่องมาที่ฉัน เขาจอดรถข้างๆฉันแล้วลงมาจากรถอย่างกระหืดกระหอบ “สมองของคุณโดนลาถีบมาเหรอ?”

ฉันมองเขาอย่างเงียบๆ ฉันนึกขึ้นได้แล้วว่า เป็นเพราะสาเหตุอะไรถึงถูกสีชิงชวนค่อยๆทำให้พินาศได้ ทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้นกับฉัน เขาจะมีอาการฉุนเฉียวมาก ร้อนใจมาก คราวที่แล้วฉันหนีกลับมาจากเกาะ เขาก็รีบขับเรือเร็วมาตามฉันกลางดึก จนทำให้เขาล้มป่วยไปสองวัน และที่เขามาบ้านเฉียวอี้กลางดึกเพื่อที่จะมาหาฉัน ทั้งๆที่ฉันควรจะรู้สึกประทับใจ เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่จะติดกับด้วยวิธีการนี้ของเขา แต่ว่า การที่เขามาแสดงความรักว่ารักฉันจะเป็นจะตายทั้งๆที่ในตัวของเขามีกลิ่นของเซียวซือติดอยู่ เลยทำให้ฉันอยากจะหนี

เขาจะโมโหก็เป็นเรื่องของเขา ฉันบอกกับเขาอย่างนิ่งเฉย “สีชิงชวน เท้าฉันเป็นแผลแล้ว”

เขารีบนั่งลงแล้วจับเท้าของฉันขึ้นมาดู “ไปโรงพยาบาลกัน”

เขาอุ้มฉันขึ้นรถ ฉันปวดฝ่าเท้ามาก เขาเองก็ไม่ได้โวยวายอะไรอีก เขาช่วยฉันคาดเข็มขัดนิรภัย จากนั้นก็สตาร์ทรถ ฉันถูกเข็มขัดนิรภัยของเขารัดอย่างแน่นหนา เท้าที่ได้รับบาดเจ็บก็พาดไว้หน้ารถ เป็นภาพที่เศร้ารันทดมากๆ ขณะที่เราสองคนต่างสงบลง อาการเจ็บก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)