“เฉียวอี้” เสียงของฉันนั้นเปรียบเสมือนเสียงของยุงที่กำลังบิน “ฉันต้องการไปบ้านของเธอ”
ฉันก้มศีรษะลงและแสดงท่าทีเบื่อหน่ายต่อชีวิต
ฉันอยู่กับเฉียวอี้มาหลายปีขนาดนี้ เธอเข้าใจและรู้จักนิสัยของฉันเป็นอย่างดี
ฉันไม่ชอบเผชิญหน้ากับใคร ถ้าหากเกิดเรื่องที่ทำให้ฉันไม่สามารถรับได้ ฉันก็จะหลบซ่อนและจะค่อยๆหายไป ฉันสามารถรับได้หรือไม่นั้นเรื่องก็ดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันยังสามารถทำอะไรได้อีก?
ฉันถามสีชิงชวนไปแล้วเขาจะสามารถให้คำตอบอะไรกับฉันได้บ้าง?
หรือว่าฉันคาดหวังให้เขาตอบฉันอย่างไร?
ฉันมองเฉียวอี้ผ่านเส้นผมของฉัน ดวงตากลมโตสีดำสนิทสะท้อนถึงท่าทางหดหู่ของฉัน
หัวใจของเธออ่อนลง ทอดถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “โอเค เธอไปพักที่บ้านของฉัน อยากจะอยู่นานเท่าไรก็อยู่เลย แต่ฉันคิดว่าในไม่ช้าสีชิงชวนจะมาพาตัวเธอกลับไป”
เฉียวอี้พูดถูกต้อง อีกไม่นานสีชิงชวนจะต้องมาพาตัวฉันกลับไปอย่างแน่นอน
รวดเร็วกว่าที่ฉันคิดและจิตนาการไว้เสียอีก
เขาโทรศัพท์หาป๋ออวี่ ป๋ออวี่เปิดลำโพงโทรศัพท์ อาจจะเป็นสีชิงชวนที่สั่งให้เขาทำเช่นนี้
เสียงของเขาดังออกมาจากลำโพงของโทรศัพท์ “เซียวเซิงอยู่บนรถของนายใช่หรือเปล่า?”
“ครับ คุณสี”
“เธอปิดโทรศัพท์และกำลังอยู่กับเฉียวอี้ เกรงว่าคงจะไปซ่อนตัวที่บ้านของเฉียวอี้อีกใช่หรือไม่?”
ฉันไม่รู้เลยว่าสีชิงชวนนั้นจะรู้จักฉันดีขนาดนี้
สิ่งนี้ค่อนข้างน่ากลัว เมื่อคนผู้หนึ่งนั้นไม่แน่ใจว่าตนเองรู้จักและเข้าใจอีกฝ่ายเพียงเล็กน้อย แต่ทว่าอีกฝ่ายนั้นกลับรู้จักตนเองเป็นอย่างดี
เขาคาดเดาได้อย่างถูกต้อง เรื่องที่ฉันต้องเผชิญเมื่อสักครู่นี้ทำให้ฉันเลือกที่จะหลบหนี ไม่มีทางกลับไปทำสงครามและเผชิญหน้ากับเขาอย่างเด็ดขาด
ตั้งแต่ที่การแถลงข่าวนั้นเสร็จสิ้นลงจนกระทั่งตอนนี้ ป๋ออวี่อยู่ข้างกายฉันมาโดยตลอด เขาไม่ได้โทรรายงานสีชิงชวนเลยด้วยซ้ำ แต่เขากลับรู้ถึงผลลัพธ์ของสถานการณ์ในตอนนี้ สามารถเห็นได้ว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นไปตามการคาดเดาของเขา
ป๋ออวี่เงยหน้าขึ้นและชำเลืองมองฉันพลางเอ่ยตอบ “ครับ”
ฉันก้มศีรษะลง รับฟังคำพูดของสีชิงชวนผ่านทางโทรศัพท์ “เธอคือภรรยาของฉัน การที่เธอจะไปนอนค้างบ้านเพื่อนสนิท เธอต้องขออนุญาตจากฉัน”
ป๋ออวี่ยื่นโทรศัพท์ของเขามาให้ฉันโดยไม่ลังเล ฉันยังไม่ทันจะรับโทรศัพท์มา สีชิงชวนพลันเอ่ย “กลับมาขออนุญาตต่อหน้า”
สายตาของเขาดูเหมือนจะเห็นทุกอย่างผ่านโทรศัพท์ ฉันดึงมือกลับในทันใด
เฉียวอี้เอ่ยถามฉัน “ทำไง? นิสัยของสีชิงชวน ถ้าเธอไม่ไปบอกเขาด้วยตัวเอง ต่อให้เธอจะหนีไปบนสวรรค์ เขาก็จะตามจับตัวเธอกลับไปอยู่ดี อีกอย่างนะ ทำไมเธอต้องหลบหน้าเขาด้วย? คนทำผิดคือเขาไม่ใช่เธอ”
“ไม่จำเป็นต้องทำให้ชัดเจนขนาดนั้น ฉันไม่อยากรู้ว่าเขาคิดยังไง”
“ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากรู้ แต่เธอไม่กล้าที่จะรับรู้ต่างหาก ภายในหัวใจของเธอกำลังจินตนาการคิดว่าสีชิงชวนนั้นชื่นชอบในตัวเธออยู่ใช่ไหม? ฉับพลันวันนี้กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอไม่อยากรับรู้ความจริงที่จะมาทำลายภาพความฝันและจินตนาการของเธอใช่ไหม?”
เมื่อมองดูผิวเผินเฉียวอี้นั้นดูไม่สนใจใยดี แต่เธอนั้นรู้ใจฉันดีกว่าใคร
ฉันเองก็รู้ดี ภายในหัวใจของฉันนั้นมีกระจกเงาอยู่แผ่นหนึ่ง
แต่ฉันมักจะนำผ้ามาปิดบังกระจกนั้นไว้
ฉันคิดว่าเรื่องราวมากมายนั้นไม่จำเป็นจะต้องทำให้มันชัดเจนขนาดนั้น
ป๋ออวี่วางสายโทรศัพท์ของสีชิงชวน เขาหันมาพูดกับฉัน “คุณสีบอกว่าให้คุณลงไปจากรถของผมครับ”
“ฮะ?” ฉันจ้องมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ
“เขาบอกว่าหากคุณต้องการไปพักที่บ้านของคุณเฉียว เช่นนั้นคุณต้องไปขออนุญาตจากเขา”
ฉันปิดโทรศัพท์ไปแล้ว เขาไม่สามารถติดต่อฉันได้เช่นนั้นเขาจึงโทรหาเฉียวอี้
เฉียวอี้ลังเลอยู่ชั่วขณะ จากนั้นเธอรับสายยกโทรศัพท์แนบหู “มีอะไรก็ว่ามา”
“เธอจะทำตัวเป็นแม่ไก่แก่ไปถึงเมื่อไร?” เสียงโทรศัพท์ของเฉียวอี้ดังมาก ฉันที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ได้ยินอย่างชัดเจน
“สีชิงชวน นายต้องการจะทำอะไรกันแน่? ไม่ง่ายเลยกว่าที่เซียวเซิงจะรวบรวมความกล้าและช่วยจัดงานแถลงข่าวชี้แจงให้แก่นาย ทำไมนายถึงได้จ้างกลุ่มนักข่าวมาแล้วทำให้เธออับอายแบบนี้?”
“เซียวเซิงอยู่ไหน?”
“อยู่ข้างฉัน”
“บอกให้เธอมาคุยโทรศัพท์”
เฉียวอี้ก้มศีรษะลงและจ้องมองฉัน ฉันส่ายหน้าทันใด
เสียงเย้ยหยันของสีชิงชวนดังขึ้นผ่านลำโพงของโทรศัพท์ “ทำไม คนที่ถูกแทงด้วยมีด ไม่กล้าถามคนที่แทงงั้นเหรอ?”
เฉียวอี้กัดฟันแน่นด้วยความโกรธ “สีชิงชวน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายกำลังคิดอะไร นายคิดจะทำลายความมั่นใจของเซียวเซิง ไม่ต้องการให้หล่อนไปจัดการกับเซียวซื่อกรุ๊ป ต้องการให้หล่อนถอยออกไปแม้จะรู้ว่ามันยาก”
“เธอไม่ใช่คนแถลงการณ์ของเซียวเซิง หล่อนเป็นใบ้หรือไง ไม่คิดจะพูดแม้แต่ประโยคเดียว?”
“สีชิงชวน ในนามของเซียวเซิงฉันจะฟ้องหย่านาย พรุ่งนี้นายรอรับจดหมายจากทนายได้เลย!”
สายโทรศัพท์ของสีชิงชวนตัดไปในทันใด เฉียวอี้ยกโทรศัพท์ขึ้นและคิดจะโยนทิ้ง ฉันจับมือของหล่อนไว้ “อย่าเอาความโกรธไปลงกับสิ่งของของตัวเอง”
โยนโทรศัพท์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ทว่าการทำหมายเลขต่างๆในโทรศัพท์ใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
เฉียวอี้จ้องมองฉันพลางถอนหายใจ “เซียวเซิง เธอไม่สามารถอยู่ในสภาพที่โดนทำร้ายตลอดเวลาได้หรอกนะ สีชิงชวนคือผู้ชายเลวของชาตินี้ เธอต้องไปถามเขาให้ชัดเจนว่าท้ายที่สุดแล้วเขาต้องการทำอะไรกันแน่”
“เธอไม่กล้าถาม” ฉับพลันเสียงของสีชิงชวนปรากฏขึ้นบริเวณด้านหน้าของพวกเราจากระยะไกล ฉันเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ รถยนต์คันหนึ่งจอดตรงหน้าพวกเรา สีชิงชวนนั่งอยู่ภายในรถ ใบหน้าด้านข้างของเขาเผชิญหน้ากับฉัน ไม่แม้แต่จะหันมาเผชิญหน้ากับฉันโดยตรง “เซียวเซิง ขึ้นรถ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...