พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 250

ฉันจับฝ่ามือของเฉียวอี้ไว้แน่น ฝ่ามือของเธอร้อนมาก ฉับพลันฝนก็โหมกระหน่ำลงมา เม็ดฝนขนาดใหญ่กระทบร่างกายของพวกเรา

ขณะนี้ รถของเฉียวอี้มาถึงแล้ว เธอโอบไหล่ของฉัน “เธอจะไปกับฉันหรือว่าจะขึ้นรถของสีชิงชวน?”

“ฉันไปกับเธอ” ฉันไม่ต้องการเผชิญหน้ากับสีชิงชวน ฉันสับสนมาก

เห็นกันอยู่ว่าก่อนเช้าวันนี้ เขานั้นแสดงท่าทางที่คลุมเครือกับฉัน ทำให้ฉันรู้สึกคิดไปเองว่าเขานั้นชอบที่จะอยู่กับฉัน

แต่การเคลื่อนไหวที่กะทันหันของเขาทำให้ฉันไม่ทันตั้งตัว การกระทำนั้นทำให้ฉันรู้สึกเวียนหัวและสับสน

นี่เป็นวิธีการตามแบบฉบับของเขา ทำให้รู้สึกดีในตอนแรกและจากนั้นก็ตบหน้า

ฉับพลันฉันสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของสีชิงชวน

แม้ว่าเขานั้นจะแสดงท่าทีอ่อนโอนและเอาใจใส่ต่อฉันมากแค่ไหน แต่ทว่าหากฉันไม่แยแส เขาก็สามารถงัดไม้ตายมาจัดการฉันได้เช่นกัน

“โอเค” เฉียวอี้ประคับประคองฉันพลางเดินไปยังรถของเธอ เมื่อฉันขึ้นรถของเธอแล้วฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก

อย่างไรก็ตาม เวลาล่วงเลยไปครู่ใหญ่ คนขับของเธอไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้

“เกิดอะไรขึ้น?”

“คุณหนู ผมจะลงไปดูครับ” คนขับรถลงไปจากรถ ผ่านไปชั่วขณะ เขาเดินมาแจ้งกับพวกเราผ่านทางหน้าต่าง

“เครื่องยนต์ขัดข้องกะทันหันครับ”

“ทำไมจู่ๆถึงได้ขัดข้องแบบนี้?”

“ไม่รู้ครับ” คนขับรถแสดงสีหน้าเป็นทุกข์มาก เขาเกาศีรษะ “ที่นี่กันดารมาก ต่อให้ผมเรียกรถลากก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมารับไหม”

เขตชานเมืองของใจกลางเมืองฮวา ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงอยู่ห่างไกลจากใจกลางเมือง

เฉียวอี้มองมาที่ฉันด้วยความลำบากใจ “ไม่อย่างนั้น เซียวเซิงเธอไปที่รถของสีชิงชวนเถอะ รถคันนี้คงอีกนานกว่าจะซ่อมได้”

“งั้น เธอก็ไปกับฉัน”

“ฉันไม่ไปหรอก ฉันไม่ลงรอยกับสีชิงชวน เขาน่ะไม่กินเธอหรอก อีกเดี๋ยวฝนคงตกหนักขึ้น เธอไม่ต้องมาอยู่ที่นี่กับฉันหรอก”

“ไม่ ฉันจะอยู่กับเธอ”

“เธอรีบไปกับสีชิงชวนเถอะ ไม่งั้นเธอก็คงต้องหลบซ่อนตัวเองจากสีชิงชวนไปตลอดชีวิต ไม่รู้จริงๆว่าเธอคิดยังไง คนทำผิดไม่ใช่เธอเสียหน่อย ทำไมเธอต้องหลบหน้าเขาด้วย?” เฉียวอี้ค้นหาร่มที่อยู่ภายในรถให้กับฉัน “รีบไปเถอะ ถ้าไม่อยากเอ่ยคำถามต่อหน้าเขา เธอก็ไม่ต้องถาม แค่นั้นเอง”

นี่เป็นทางเดียวที่สามารถทำได้ในตอนนี้ แต่ทว่าตอนนี้ฝนตกหนักมากอีกทั้งรถยังเสียอีกด้วย ฉันไม่สามารถทอดทิ้งเฉียวอี้ไว้กลางทางเช่นนี้ได้หรอก เธอกลับผลักฉันลงจากและโบกมือให้กับฉัน “รีบไป เร็วเข้า ฝนตกหนักมาก”

ฝนตกหนักมากจริงๆ โชคดีที่ร่มของเฉียวอี้มีขนาดใหญ่ ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถกันเม็ดฝนที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ได้

ฉันก้าวเท้าไปยังรถของสีชิงชวน รถของเขายังคงจอดรอฉันอยู่ที่เดิม

ฉันเดินมาด้านข้างรถ กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตู ฉับพลันได้ยินเสียงของสีชิงชวนเอ่ยกับคนขับรถ “ออกรถ”

ดังนั้น ฉันทำได้เพียงแค่จ้องมองรถของสีชิงชวนค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปผ่านหน้าฉัน

เขาหมายความว่าอะไร?

เขาทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองโง่เง่า ฉันถือร่มไว้อย่างนั้นและยืนนิ่งอยู่กับที่พลางจ้องมองไฟสีแดงของรถที่ปรากฏอยู่ท่ามกลางสายฝน

เฉียวอี้วิ่งเข้ามาหาฉันท่ามกลางสายฝนที่กำลังโหมกระหน่ำ ฉันรีบกางร่มให้กับหล่อน

“สีชิงชวนทำอะไร? ทำไมถึงขับรถออกไปแบบนั้น?”

ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันจ้องมองแววตาที่โกรธเคืองของเฉียวอี้ผ่านสายฝนโดยที่ไม่สามารถอธิบายได้

เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ฉันไม่รู้และไม่เข้าใจว่าสีชิงชวนนั้นต้องการทำอะไรกันแน่

ฉันไม่ได้พูดอะไร โทรศัพท์ของเฉียวอี้พลันดังขึ้น เธอรับสายโทรศัพท์และเอ่ยเสียงดัง “สีชิงชวน นายต้องการทำอะไร?”

อ้อ สีชิงชวนโทรเข้ามา

น้ำเสียงของเขายังคงหนักแน่นเช่นเคย “ให้เซียวเซิงรับสายโทรศัพท์”

เฉียวอี้ยื่นโทรศัพท์มาแนบหูของฉัน ฉันเอ่ย “ฮัลโหล”

หลังจากที่คนขับรถเห็นฉันผ่านกระจกมองหลัง เขาชะลอความเร็ว

มือของฉันสัมผัสประตูรถและกำลังจะเปิดประตู ฉันกลับได้ยินเสียงของสีชิงชวนเอ่ยกับคนขับรถ “ขับให้ไวกว่านี้”

แววตาของความเห็นใจปรากฏขึ้นในสายตาของคนขับรถผ่านกระจกมองหลัง เล็บของฉันครูดผ่านประตูรถ และรถก็ขับผ่านฉันไปอย่างรวดเร็ว

การกระทำของสีชิงชวนนั้นชวนให้สับสนเป็นอย่างมาก ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าเขานั้นต้องการทำอะไร

มือข้างหนึ่งของฉันจับประตู อีกข้างหนึ่งถือร่มไว้ เมื่อลมแรงพัดผ่าน ร่มของฉันพลันพลิกขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่สามารถกันฝนได้อีกแล้ว

ฝนกำลังตกหนัก ร่างกายของฉันเปียกโชกอย่างรวดเร็ว เม็ดฝนในฤดูร้อนนั้นหนาวยะเยือกทำให้ฉันรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วทั้งร่างกาย

ฉันเห็นสีชิงชวนที่อยู่ภายในรถหันกลับมา จ้องมองฉันผ่านกระจกด้านหลังของรถ

ฝนตกหนักเกินไป ลมพัดผ่านอย่างรุนแรง ฉันเห็นเพียงใบหน้าของเขา แต่ฉันนั้นเห็นสีหน้าของเขาได้ไม่ชัดเจน

จู่ๆเขาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาและสั่นโทรศัพท์เล็กน้อย ฉันเดาว่าเขาคงต้องการให้ฉันเปิดโทรศัพท์

เมื่อกี้นี้ฉันปิดโทรศัพท์ไว้ โชคดีที่กระเป๋าของฉันนั้นไม่ได้เปียกมากเท่าไรนัก ฉันเปิดโทรศัพท์ สายโทรศัพท์ของสีชิงชวนพลันโทรเข้ามาด้วยความรวดเร็ว

“เซียวเซิง” น้ำเสียงของเขาสงบนิ่ง

“อือ” ฉันพยายามปกป้องโทรศัพท์ สั่นสะท้านอยู่ท่ามกลางสายฝน “คุณต้องการทำอะไร?”

“ไม่ใช่ว่าต้องการให้ฉันขึ้นรถหรอกเหรอ?”

“รถของคุณขับไวขนาดนั้น ฉันจะขึ้นได้ไปอย่างไร?”

“ดังนั้นคุณเลยจะยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ?”

เขาต้องการอะไร? ท้ายที่สุดแล้วเขาต้องการอะไรกันแน่?

ฉันต้องการถามเขาให้เคลียร์ แต่เขากลับวางสายโทรศัพท์ไป

วันนี้สีชิงชวนเป็นบ้าไปแล้วหรือว่าท้ายที่สุดแล้วเขานั้นรังเกียจฉันและแสดงธาตุแท้ของเขาให้ฉันเห็น?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)