พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 251

สายลมแรงๆ พัดเข้าใส่จนฉันรู้สึกเวียนหัวไปหมด ครั้งนี้สีชิงชวนทำให้ฉันรู้สึกหลงทาง

บางที เขาคงคิดว่าก่อนหน้านี้เขาอ่อนโยนกับฉันมากเกินไป ตอนนี้จึงทำให้ฉันได้เห็นว่าใบหน้าภายใต้รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นนั้นมันเป็นยังไงกันแน่

ฉันควรทำยังไงดี?

ฉันหันกลับไปมองก็เห็นว่ารถของเฉียวอี้ขับห่างจากเราไปไกลแล้ว ฉันจึงทำได้เพียงไล่ตามรถของสีชิงชวนไป เพราะรถของเขาลงระดับความเร็วลงแล้ว

บางครั้งฉันก็ไม่สามารถถอยหลังกลับได้ และทำได้เพียงเดินหน้าต่อไปเท่านั้น

ฉันฝ่าฝนไล่ตามรถของสีชิงชวนไป แต่ในตอนที่มีฉันสัมผัสกับมือจับประตูอีกครั้ง รถของเขาก็ขับเร็วขึ้นอีกครั้งเช่นกัน ทิ้งฉันที่เปียกซ่กไปทั้งตัวเพราะน้ำจากแอ่งน้ำที่เขาขับผ่านกระเด็นใส่ไว้ข้างหลัง

ฉันยืนเหม่อลอยอยู่ท่ามกลางสายฝน ตอนนี้ร่มเหลือแต่โครงและใช้การไม่ได้อีกต่อไป

จิตใจฉันเลื่อนลอยและรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเหมือนกับสายฝนที่ตกลงมาจนทุกอย่างดูพร่าเลือน

ฉันกำลังคิดว่า ฉันจะกลับหาเฉียวอี้ ขึ้นไปนั่งบนรถที่ไม่ได้มีฝนตกจนชุ่มฉ่ำแบบนี้แล้วรอให้รถลากมารับพวกเรา แบบนั้นจะดีไหม?

แต่ฉันกลับไปก็จะทำให้เธอลำบากไปด้วยเปล่าๆ ถ้าไม่มีรถลากมา เธอไม่ต้องรอในรถทั้งคืนหรอกเหรอ?

ฉันไม่รู้ว่าสีชิงชวนจะทำอะไร แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองจะต้องทำอะไรต่อไป

ตอนนี้ฉันอยากพูดคำหยาบชนิดด่าพ่อล่อแม่เลยด้วยซ้ำ แต่ฉันรู้ว่ามันคงไม่ได้ดูเท่เลยสักนิด

ฉันต้องยอมรับชะตากรรม ใครให้ฉันต้องมาพบเจอคนที่ไม่ว่าจะสักกี่ชาติก็ยังเข้าใจยากอย่างสีชิงชวนกันล่ะ

ฉันไม่ตามเขาต่อแล้วก็ไม่กลับไปด้วย ยืนอยู่ที่เดิมนี่แหละ ร่มไร้ประสิทธิภาพในการกันฝนอย่างที่มันควรจะเป็นไปแล้ว ฝนจึงเทใส่หัวฉันเต็มๆ หนาวชะมัด

ฉันกะจะตากฝนให้ตายๆ ไปซะ บางทียิ่งหนาวก็ยิ่งมีสติมากขึ้น

ในหมอกฝน ฉันเห็นว่ารถของสีชิงชวนจอดลง ใครคนหนึ่งเดินกางร่มลงมาจากรถและเดินมาทางฉัน

เขาเดินเร็วมากจนแทบจะเหมือนกับวิ่งอยู่แล้ว เมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันถึงเห็นได้ชัดๆ ว่าคนคนนั้นที่ว่าก็คือสีชิงชวน

เขาลงมาจากรถทำไม เห็นว่าฉันไม่ไปก็เลยกลับมาทรมานฉันอีกงั้นเหรอ?

ฉันติดเงินเขาเท่าไหร่กันนะ ทำไมเขาถึงทำกับฉันแบบนี้?

เขาหยุดลงตรงหน้าฉันและขยับร่มคันใหญ่มาบังไว้เหนือศีรษะฉัน ฝนตกหนักและลมก็แรงมากจริงๆ เสียงของเขาและใบหน้าของเขาล่องลอยอยู่ในหมอกฝน

ฉันได้ยินเขาตะโกนใส่ฉันอย่างเลือนราง “คุณรู้ตัวไหมว่าคุณมันโง่แค่ไหน?”

ฉันไม่ได้โง่นะ ฉันแค่ขี้ขลาด

ท่ามกลางสายฝนและลมที่โหมกระหน่ำ เขายังมีหน้ามาสงสัยในระดับสติปัญญาฉันอีกนะ สุดยอดจริงๆ

“สภาพแวดล้อมแย่ๆ แบบนี้ คุณทำได้แค่พยายามวิ่งไปข้างหน้ามันก็ยังพอมีหวัง ถ้าไม่ไหวจริงๆ คุณก็กลับไปหาเฉียวอี้ที่รถก็ได้ แต่คุณกลับหยุดยืนอยู่ที่เดิม ถ้ามีรถมาข้างหลังแล้วมองไม่เห็นคุณ ตอนนี้คุณคงถูกชนตายไปนานแล้ว!” เขาแผดเสียงออกมา สายฝนโปรยปรายผ่านใบหน้าหล่อเหลาของเขา

ตอนนี้เขาเหมือนกับจอมมารและเทวดาที่อยู่ในร่างเดียวกันเลย

ฉันหนาวจนตัวสั่นไปหมดจึงไม่สามารถตอบคำถามเขาออกไปได้

เขากลับเดินเข้ามาดึงทึ้งเสื้อผ้าของฉัน ฉันได้แต่ขัดขืนเขาอย่างไม่เข้าใจ “คุณทำอะไร?”

“อย่าขยับ ใส่เสื้อผ้าเปียกๆ เดี๋ยวจะป่วยเอา” เขาดึงเสื้อโค้ตบางๆ ที่อยู่บนร่างฉันออก หยดน้ำฝนตกกระทบใส่ตัวฉัน ใส่เสื้อกับถอดเสื้อออกมันไม่ต่างกันเลยจริงๆ หนาวเหมือนกันทั้งคู่

เขาถอดเสื้อโค้ตของตัวเองแล้วเอามาคลุมให้ฉัน จากนั้นก็โอบไหล่ฉันไว้และพาไปที่รถของเขา

ฉันเดินตามเขาไปอย่างมึนๆ เขาเป็นอะไรไปอีกแล้วเนี่ย? จู่ๆ ก็เลิกทรมานฉันแล้ว ทั้งลงมาจากรถแถมยังเอาเสื้อมาคลุมให้ฉันอีก?

เวอร์ชันอัปเกรดของการตบหัวแล้วลูบหลังเหรอ?

ฉันหนาวเกินกว่าจะคิดออก ไม่นานก็ถูกเขาจับยัดเข้าไปในรถ เขาบอกให้คนขับรถเปิดฮีตเตอร์ ตอนนี้เป็นช่วงต้นฤดูร้อน การเปิดฮีตเตอร์นี่มันก็ยังไงอยู่นะ

แต่ทว่าเมื่อลมร้อนๆ พัดใส่ตัวฉัน ไม่นานฉันก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา อีกทั้งชุดของเขาทั้งยาวทั้งใหญ่จนมันห่อฉันไว้ได้ทั้งตัว

เขายัดแก้วน้ำร้อนแก้วหนึ่งใส่มือฉัน ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าเขาไปเอาน้ำร้อนมาจากไหน ฉันจิบมันทีละน้อยจนกระทั่งรู้สึกอุ่นขึ้น

“เซียวเซิง” ฉันรู้สึกได้ว่าสีชิงชวนกำลังแตะหน้าผากของฉัน เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้และถามขึ้น “คุณเป็นอะไรไป?”

ฉันอยากพูด แต่กลับเปล่งเสียงออกไปไม่ได้

“คุณป่วยเหรอ?” ฝ่ามือของเขาเย็นกว่าหน้าผากของฉันมาก ตอนที่เขาแตะมามันรู้สึกสบายมากๆ เลย

ฉันอยากให้เขาวางทาบมันไว้บนหน้าผากของฉันโดยไม่ต้องเอาออก แต่ไม่นานเขาก็ชักมือกลับไปและเอ่ยกับคนขึ้นรถ “ขับเร็วหน่อย ไปโรงพยาบาล”

“คุณเป็นพวกร่างกายอ่อนแอหรือไง?” เขาดุฉันด้วยท่าทางโหดๆ “แค่ตากฝนแป๊บเดียวเอง ทำไมป่วยแล้ว?”

“ก่อนมีประจำเดือนฉันก็เป็นแบบนี้แหละ ภูมิต้านทานต่ำลงน่ะ”

“ทำไมจะมีรอบเดือนอีกแล้ว?” ทันใดนั้นเขาก็เอาเสื้อบนตัวฉันไป ฉันหนาวจนต้องขดตัว

“หนาวอะ” ฉันเงยหน้าขึ้นและเห็นแววตาของสีชิงชวนที่กำลังมีไฟลุกโชนอยู่ในนั้น

“คุณกำลังป่วย คุณต้องระบายความร้อนออก ห่มไว้ไม่ได้”

“อ้อ” แล้วแต่เลย เพราะไม่ว่าแบบไหนฉันก็รู้สึกทรมานอยู่ดี

เขาให้ฉันนอนในอ้อมกอดเขาโดยหนุนตักของเขา ฉันนอนกลับหัวมองหน้าเขาแบบนี้ มันดูเหมือนกับสัตว์ประหลาดที่มีดวงตาและจมูกคว่ำกลับด้านเลยล่ะ

หึ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะยังไงตอนที่เห็นหน้าปกติของเขา ฉันก็ไม่เข้าใจเขาอยู่ดี

เขายังวุ่นวายและยังถามฉันไม่เลิกกับคำถามที่ว่าทำไมจู่ๆ ฉันถึงป่วย “เมื่อกี้คุณตากฝนไม่ถึงสิบนาที ทำไมคุณถึงป่วยได้?”

ฉันจะตอบยังไงดี? ฉันมองเขา คร้านจะเอ่ยปากพูด

“ครั้งก่อนผมเล่นบาส ตากฝนอยู่เป็นชั่วโมง ทั้งทีมไม่มีใครป่วยเลยสักคน”

ระหว่างคนแต่ละคนมันเอามาเปรียบเทียบกันได้เหรอ? โดยเฉพาะเรื่องร่างกายเนี่ย สำหรับเขาแล้วเขาตากฝนเล่นบาสหนึ่งชั่วโมงได้สบายๆ สำหรับฉันแล้ว ช่วงก่อนมีรอบเดือนฉันจะอ่อนแอมากจนตากฝนแค่นิดเดียวก็สามารถป่วยได้

อีกอย่าง ฉันยังถูกคนที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้อย่างสีชิงชวนทรมานร่างกายและจิตใจด้วยอีกต่างหาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)