พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 258

ฉันตื่นมาอีกทีฟ้าก็สว่างแล้ว มีแสงที่ส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาทำให้ภายในห้องเกิดความสว่างขึ้น เฉียวอี้ยังคงหลับอยู่ข้างๆฉัน เอาขามาพาดบนตัวฉันไว้ หล่อนเป็นคนตัวสูงอยู่แล้ว ขาของหล่อนจึงทั้งหนักและยาว ทับตัวฉันจนฉันเกือบหายใจไม่ออกอยู่แล้ว

ฉันแตะตัวหล่อน “เฉียวอี้ เธอตื่นขึ้นมาได้แล้ว ให้ฉันมีทางรอดหน่อยได้ไหม?”

เวลาที่หล่อนหลับ ไม่ว่าจะเรียกยังไงหล่อนก็ไม่ตื่นหรอก ฉันจึงทำได้แค่ยอมแพ้ไป ฉันรู้สึกว่าวันนี้ไข้ตัวเองลดลงแล้ว พอแตะหน้าผากตัวเองดู ก็ไม่ได้ร้อนอะไรมากมายแล้ว น้ำเกลือก็ให้จนหมดแล้วเหมือนกัน ไม่รู้ว่าพยาบาลจะเข้ามาดึงเข็มออกให้ฉันเมื่อไหร่ ฉันลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ ตอนเดินผ่านประตูแล้วมองผ่านกระจกออกไปข้างนอก มันทำให้ฉันตกใจอย่างมาก

ผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นยังไม่ไปไหนกันเลยเหรอเนี่ย เหมือนมะเขือยาวที่ปลิวไปตามลมแรง นอนกองกันเต็มพื้นไปหมด บางคนก็นอนพิงหลับกันบนเก้าอี้ยาวหน้าห้อง พวกเขาไม่ได้ไปไหนทั้งคืนเลยเหรอ? สีชิงชวนบอกให้ฉันพักผ่อนสักครู่ จากนั้นฉันก็หลับไปเลย ต้องโทษเฉียวอี้ที่เล่านิทานให้ฉันฟังทั้งคืน จนทำให้ฉันลืมตาไม่ขึ้น จากนั้นก็หลับไปเลย ฉันไม่ได้ออกคำสั่ง พวกเขาจึงไม่กล้าไปไหน

แน่นอนว่าคนที่พวกเขากลัวไม่ใช่ฉัน แต่เป็นสีชิงชวน แล้วตัวของสีชิงชวนอยู่ไหนอ่ะ? ฉันเหลือบไปเห็นเขาอยู่บนโซฟาห้องข้างนอก เขาเองก็กำลังหลับอยู่ ขายาวของเขายื่นออกมาเลยโซฟา ดูแล้วน่าจะนอนลำบากมาก ฉันนั่งลงข้างเขา พูดตามตรง ฉันไม่รู้จริงๆว่าสีชิงชวนกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าเขาเกลียดฉันจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องมาเฝ้าฉันทุกคืนก็ได้ กลับไปนอนที่บ้านจะดีกว่า แต่หากว่าเขาชอบฉันจริงๆ วันนั้นคงไม่กลั่นแกล้งฉันแบบนั้นหรอก ฉันอยากจะหามีดผ่าตัดมาเปิดหัวเขาดูจริงๆ ดูว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นฉันพยายามทำอะไรอย่างเบาที่สุดแล้วนะ แต่จู่ๆก็เห็นสีชิงชวนลืมตาขึ้นมา มันทำให้ฉันตกใจมาก ฉันอยากจะถอยหลัง แต่ลืมไปว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ จึงทำให้ก้นฉันลงไปนั่งกับพื้นเลย

เขารีบยื่นมือดึงฉันขึ้นมา ด้วยท่าทีรังเกียจมาก “การแอบมองคนอื่นเป็นงานอดิเรกของคุณสินะ!”

ใครจะอยากแอบมองเขา? คิดมากไปหรือเปล่า?

“ผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นยังไม่กลับกันเลยเหรอ?”

“คุณไม่เห็นเหรอ?” เขาลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาแล้วแตะหน้าผากของฉัน “โอ้ว ไข้ลดแล้วนี่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นยารักษาที่ดีเหมือนกันนะ!”

“เป็นเพราะยาที่คุณหมอสั่งจ่ายมันได้ผลต่างหากเล่า”

เขาไม่ได้โต้เถียงฉัน ยืนขึ้นพร้อมกับดึงตัวฉันขึ้นมา “ไปล้างหน้าล้างตา เดี๋ยวจะให้คนส่งอาหารเช้ามาให้”

“แล้วผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นล่ะจะทำยังไงต่อ?”

“ยังอีกสักพักกว่าจะถึงเวลาเข้างาน ให้พวกเขารอไปก่อน”

“พวกเขารอมาทั้งคืนแล้วนะ”

“แล้วจะทำไมอ่ะ?” เขาดันฉันให้เข้าไปในห้องน้ำ แล้วเขาก็ยืนมองฉันอยู่ตรงขอบประตู “คุณเป็นคนแจกเงินเดือนให้กับพวกเขา ครอบครัวของพวกเขาอยู่ได้ก็เพราะคุณ ฉะนั้น รอแค่คืนเดียวมันจะเป็นไรไป?”

“ฉันไม่ได้เป็นคนแจกเงินเดือนสักหน่อย บริษัทต่างหากเล่า!”

“คุณต้องมีจุดยืนเป็นของตัวเอง อย่าปล่อยให้คนอื่นไล่บี้คุณอยู่ตลอดแบบนี้” เขาโยนผ้าขนหนูให้ฉันผืนหนึ่ง “เป็นเพราะคุณไม่ได้มีความมุ่งมั่งในการต่อสู้เลยไง เซียวเซิง”

ฉันไม่ได้สู้รบสักหน่อย จะให้ฉันมุ่งมั่งในการต่อสู้ทำไม? หลังจากที่ฉันทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็เปลี่ยนชุดที่สามารถพอปะเจอคนได้ แล้วป้าอู๋มาส่งอาหารเช้าให้ฉัน เฉียวอี้ยังนอนอยู่ ให้ใช้ฆ้องใบใหญ่มาตีให้ตื่นก็คงไม่ตื่นหรอก ฉันเก็บอาหารเช้าให้หล่อนไว้ชุดหนึ่ง แล้วนั่งกินบนโซฟาในห้องข้างนอก สีชิงชวนดื่มกาแฟแต่เช้าเลย และให้ฉันชิมดูด้วย ขมเหมือนมีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณแม่เฉียวได้ทำปลาให้กินแล้วทำดีปลาแตก ทำให้กินปลาตัวนั้นอย่างกับกินหวงเหลียนอย่างงั้นเลย มันขมจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ เขาทานกาแฟดำกับขนมปังชีส ชีสยืดได้ยาวมากราวกับกำลังกินเส้นบะหมี่เลย

“คุณไม่ไปทำงานเหรอ?” จำได้ว่าเขาเฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดเลย น่าจะได้สองวันแล้วที่ไม่ได้ไปทำงาน

“ถึงผมจะไม่ไป แต่ก็มีคนมาคอยรายงานให้ทราบอยู่ตลอด ไม่เหมือนกับคุณ” เขามีความสุขกับการใช้มีดมาแทงฉันมาก ยิ่งฉันเลือดไหลมากเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น

โรคจิตมาก

“ทำไมฉันต้องโทรหาคุณด้วย?”

สีชิงชวนได้เปิดประตูเดินออกนอกห้องไปแล้ว พอประตูเปิด ก็เห็นว่าคนที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นตื่นกันหมดแล้ว รีบลุกจากบนพื้นขึ้นมายืน “คุณสีครับ อรุณสวัสดิ์ครับ”

สีชิงชวนเดินข้ามคนที่ยังไม่ได้ตื่นไปเลย และไม่ได้พูดทักทายอะไรสักคำ เขาหยิ่งยโสจนถึงขั้นไม่เห็นใครอยู่ในสายตาแล้วจริงๆ

เฉียวอี้แกล้งออกไปพูดกับพวกเขาตามมารยาท “โอ้ เมื่อคืนท่านประธานของเราไม่สบายจึงหลับไปเลย ทั้งๆที่พวกคุณยังอยู่ที่นี่กันแต่ทำไมไม่มีใครเข้ามาแจ้งเลย?”

ฉันได้ยินเสียงของผู้บริหารระดับสูงดังขึ้นต่อเนื่องเป็นระลอก “ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่เป็นไร ท่านประธานล้มป่วยแต่ก็ยังเป็นห่วงบริษัทอีก นั่นมันทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งจริงๆครับ”

ฉันว่าพวกเขาไม่ได้ซาบซึ้งอะไรหรอก เป็นเพราะเมื่อคืนพวกเขาไม่กล้าขยับไปไหนต่างหาก ถึงจะรู้ว่าพวกเขาไม่ได้กลัวฉัน แต่ในใจก็รู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูก ฉันทานอาหารเช้าเสร็จ ผู้บริหารระดับสูงเดินหัวฟูเข้ามายืนตรงหน้าฉันวุ่นวายไปหมด บางคนยังหาวอยู่เลย โถงทางเดินน่าจะนอนลำบากมากๆ จึงเป็นเรื่องปกติที่จะนอนไม่หลับกัน ฉันดูเวลา ยังห่างจากเวลาเข้างานอีกครึ่งชั่วโมง ถ้าหากยังให้พวกเขาเสียเวลามารายงานการทำงาน ก็จะต้องไปทำงานสายกันแน่ๆ ไปสายแค่คนสองคนมันไม่เป็นอะไร แต่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอยู่ที่นี่กันหมด ถ้าทุกคนไปสายกันหมด มันก็จะกลายเป็นเรื่องที่น่าแปลกมากๆเลยล่ะ

ฉันกล่าว “พวกคุณรีบไปทำงานกันเถอะค่ะ ใกล้จะสายแล้ว เลยทำให้ต้องลำบากเลย”

ทุกคนเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกแล้วหันหลังให้ทันที เฉียวอี้คอยเสริมอยู่ข้างหลัง “วันนี้รายงานการทำงานไม่สำเร็จ คืนนี้มารายงานต่อนะคะ หลังเลิกงานให้มาที่นี่เลยนะคะ!”

ทุกคนมองหน้ากันอย่างตกตะลึง และเมื่อหันกลับมา สีหน้าของแต่ละคนก็ดูซีดเผือดกันหมด

เฉียวอี้ยิ้มระรื่น “ทำไมคะ ไม่เต็มใจกันเหรอ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)