ถ้าเขาพูดกับฉันว่าให้ฉันเดา ฉันต้องโกรธแน่ๆ แต่ยังดีที่เขาไม่ได้พูดแบบนั้น
เขาก้มหน้าลงมามองฉัน “เมื่อกี้คุณยังไม่ได้คำตอบของคุณอีกเหรอ”
งั้นก็หมายความว่าฉันเป็นคนนั้นของสีชิงชวน คนที่ทั้งไม่ได้ชอบและไม่ได้เกลียด แต่ก็ไม่ได้ไม่รู้สึกอะไรด้วยเลย
งั้นในใจของเขาฉันเป็นอะไรกันแน่?
ถ้าเขาไม่พูด ฉันก็ไม่รู้
รถของเขาจอดอยู่แค่ข้างหน้านี้เอง เขาวางฉันลงบนที่นั่งข้างคนขับและคาดเข็มขัดนิรภัยให้ฉัน จากนั้นก็เดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งของรถ
สีชิงชวนก็เหมือนผีผู้ชายที่มีรูปร่างหน้าตาดีสามารถทำให้ผู้คนหลงใหลมัวเมาได้ เขาทำให้ฉันสับสนมึนงงไปหมด ฉันมองเขาสตาร์ทรถ จากนั้นก็เอ่ยตัดสินขึ้นมาว่า “สีชิงชวน ฉันไม่สนว่าคุณจะปฏิบัติกับฉันยังไง แต่อย่างน้อยฉันก็พอจะรู้แล้วว่าที่คุณปฏิบัติกับฉันแบบนี้มันเหี้ยมโหดชะมัด”
“นี่พูดถึงเรื่องไหนอีกเนี่ย? ” เขาขับรถไปข้างหน้าช้าๆ
“ถ้าคุณเย็นชากับฉัน หรือว่าไม่สนใจฉัน สำหรับฉันแล้วมันก็แค่เรื่องดีเรื่องหนึ่ง แต่คุณในตอนนี้ฉันมองคุณไม่ออกจริงๆ คุณทำให้ฉันตกใจมาก เดี๋ยวคุณก็ดีกับฉัน เดี๋ยวก็ร้ายกับฉัน เดี๋ยวก็โหดเหี้ยมเดี๋ยวก็เอาใจใส่ดูแล คุณทำฉันจะเป็นบ้า”
“คุณอ่อนแอขนาดนั้นเลยเหรอ? ”
“ใช่ ฉันอ่อนแอขนาดนั้นเลยแหละ มีไม่กี่คนแหละที่จะเป็นเหมือนคุณ มีจิตใจที่เข้มแข็ง จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุณถึงต้องให้เงินเจี่ยงเทียนด้วย? ทำไมในวันนั้นที่ฝนตกหนัก คุณถึงให้ฉันวิ่งตามรถคุณ? ทำไมทุกครั้งที่ฉันอยู่โรงพยาบาลคุณถึงมาดูแลฉันทั้งวันทั้งคืนไม่ยอมพักล่ะ? แล้วไหนจะวันนั้นที่ฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อีก และคุณอยู่ที่ที่เกิดเหตุในเวลาต่อมาใช่ไหม? ”
วันนั้นในความเลือนรางฉันเห็นคนคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อฉันอยู่ด้านนอกรถ เสียงของเขาดูตื่นตระหนกตกใจมากๆ และฉันยังเห็นน้ำตาในดวงตาของเขาอีกด้วย ภายหลังฉันคิดอยู่นานมาก แต่ก็คิดไม่ออกว่าคนคนนั้นเป็นใคร เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง
จะมีผู้ชายคนไหนที่จะร้องไห้เพราะฉันได้บ้าง?
ในช่วงหลายวันนั้นหนีอีโจวไม่ได้อยู่ที่เมืองฮวา เขาไปต่างประเทศ และดูเหมือนว่าในชีวิตของฉันจะไม่มีผู้ชายคนอื่นอีกแล้ว
ดังนั้นฉันจึงคิดอยู่นานและไม่รู้ว่าจะใช่สีชิงชวนหรือเปล่า คำถามนี้ติดอยู่ในใจฉันมาโดยตลอด ฉันเก็บไว้ในใจอยู่นานจนสุดท้ายก็ตะโกนออกมา ทั้งๆ ที่รู้ดีว่ามันไม่มีคำตอบ
แต่พอฉันได้ตะโกนออกไปแล้วมันก็รู้สึกโล่งใจ ฉันกลับไปนั่งอยู่ในที่ของตัวเองให้ดีๆ อีกครั้ง
ฉันเปิดหน้าต่างรถออก ลมจากด้านนอกหน้าต่างพัดเข้ามาในรถ เมื่อสักครู่นี้ฉันตกใจมากก็เลยเหงื่อออกไปทั้งตัว ตอนนี้เสื้อผ้าเปียกจนแนบติดไปกับแผ่นหลังของฉันแล้ว
รถขับพาฉันเดินทางไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เมื่อขับผ่านถนนที่ไร้แสงไฟช่วงนี้ไป ด้านหน้าก็เป็นถนนใหญ่ที่สว่างไสว
แต่เมื่ออยู่ข้างกายของสีชิงชวนแล้ว ดูเหมือนว่าแสงสว่างที่เป็นของฉันจะไม่มีวันมาถึง
เขาจะทำให้ฉันตกอยู่ในความระแวงไม่รู้จบตลอดไป
ในตอนที่เขาพารถเข้าโค้งและขับมาถึงทางหลวง บนถนนมีรถวิ่งกันขวักไขว่สวนกันไปมาไม่ขาดสาย ไฟรถส่องแสงระยิบระยับ จนทำให้ฉันหลงทางไปในทันที
หลงทางไปในแสงสีละลานตาที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้
“คนคนนั้นคือผมเอง”
ฉันรู้สึกสับสนไปทันที เมื่ออยู่ดีๆ ก็ได้ยินสีชิงชวนพูดแบบนี้กับฉัน
ฉันหันกลับไปมองเขาด้วยความประหลาดใจ “คุณพูดว่าอะไรนะ? ”
“คนคนนั้นคือผมเอง” เขาเอ่ยย้ำขึ้นมาอีกครั้ง “วันนั้นผมรีบตามไปที่สถานที่ที่คุณเกิดอุบัติเหตุ และเห็นคุณติดอยู่ในรถ ผมได้ยินคุณเรียกชื่อของผม ผมไม่ได้แค่ตะโกนเรียกชื่อของคุณเท่านั้น แต่ผมยังร้องไห้ด้วย ร้องไห้เหมือนคนโง่คนหนึ่ง”
เดี๋ยวนะ นี่ฉันหูฝาดไปแล้วหรือเปล่า หรือว่าสมองของสีชิงชวนพังไปแล้ว เขากำลังพูดอะไรกับฉันอยู่กัน?
“คุณร้องไห้ทำไม? คงไม่ใช่ว่าคุณรู้สึกผิดหรอกใช่ไหม? ”
“รู้สึกผิด? ทุกคนพูดกันว่าที่คุณเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นเพราะผม คุณเองก็คิดแบบนี้เหมือนกันเหรอ? ”
“ฉันไม่รู้”
“เป็นเพราะผมเอง” เขาบอกฉันชัดๆ ทีละคำ
สีชิงชวนทำให้ฉันสับสนจริงๆ สับสนมากๆ
สีชิงชวนอุ้มฉันเดินเข้าประตูไป ฉันรู้สึกเขินอายเล็กน้อย จึงบอกกับเขาเบาๆ ว่า “คุณวางฉันลงเถอะ ให้ฉันใส่รองเท้าแตะก็เดินได้แล้ว”
แต่บรรดาเพื่อนๆ และคุณแม่สีเห็นพวกเรากันหมดแล้ว มีคุณผู้หญิงท่านหนึ่งใช้เสียงที่ไม่ดังไม่เบาเอ่ยกับคุณแม่สีด้วยรอยยิ้มว่า “คู่ของชิงชวนทั้งสองคนนี่รักกันมากจริงๆ นะ ยากมากที่จะเห็นชิงชวนของพวกเธอปฏิบัติกับผู้หญิงดีขนาดนี้”
“นั่นภรรยาของเขานะ ถ้าเขาไม่ดีกับเธอ แล้วใครจะดีกับเธอล่ะ? รีบลงไพ่เร็ว ฉันรอเธอมานานแล้วนะ” คุณแม่สีหันมามองพวกเราแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันกลับไปเล่นไพ่ต่อ
ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่สีชิงชวนอุ้มฉัน ก็มักจะถูกคุณแม่สีมาเห็นเข้าตลอดเลย
ทั้งๆ ที่มีลิฟต์ แต่เขาก็ยังยืนกรานจะอุ้มฉันเดินขึ้นบันได
ฉันไปอาบน้ำ แต่ยังคงรู้สึกแย่อยู่ ฉันยืนอยู่ใต้ฝักบัว ปล่อยให้น้ำอุ่นโอบล้อมตัวฉันไว้
ฉันยังไม่ทันอาบน้ำเสร็จ สักพักสีชิงชวนก็มาเคาะประตู “เซียวเซิง”
“อื้ม” ฉันขานรับ “มีอะไร? ”
“คุณกำลังทำอะไรอยู่? ”
“ฉันอยู่ในห้องน้ำมันจะทำอะไรได้อีกล่ะ? ก็ต้องอาบน้ำอยู่แล้วสิ”
“คุณอยู่ข้างในนานเกินไปแล้วนะ”
เขานี่มันยุ่งจริงๆ เขาสนใจด้วยเหรอว่าฉันจะอาบน้ำนานเท่าไร?
ฉันปิดน้ำ เช็ดตัวให้แห้ง ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็เปิดประตูออกไป เขาก็กำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูพอดี
“ทำไม? กลัวว่าฉันจะจมน้ำตายในอ่างอาบน้ำเหมือนครั้งที่แล้วเหรอ? ในภาพจำของคุณฉันมันอ่อนแอขนาดนั้นเลย? ”
เขามองมาที่ฉันด้วยสายตาลึกซึ้ง แม้ว่าฉันจะถูกเขามองจนลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจมากนัก และเดินผ่านเขาไป แต่เขากลับคว้าข้อมือของฉันไว้
“เซียวเซิง ผมรู้สึกเสียใจนิดหน่อยแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...