เขาเสียใจอะไร? ฉันหยุดเดินและมองไปที่เขา “คุณพูดว่าอะไรนะ? ”
“ผมเสียใจที่คืนนี้ผมไม่น่าวกกลับไปเลย ทุกอย่างพังลงหมดแล้ว”
“หมายความว่ายังไง? ”
“เซียวเซิง คุณรู้ไหมว่าการเติบโตของคนคนหนึ่งมันยากลำบากมากนะ? คุณรู้ไหมว่าการเป็นดอกฝอยทองที่เอาแต่พึ่งพาอาศัยคนอื่น จะไม่มีวันเติบโตกลายเป็นต้นไม้ที่สูงใหญ่ได้”
“ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นต้นไม้สักหน่อย ฉันอยากเป็นแค่ดอกไม้ที่สวยงามอยู่เงียบๆ ดอกหนึ่งเท่านั้น”
“ระยะเวลาในการออกดอกมันสั้นเกินไป ไม่นานก็ร่วงโรยหมดแล้ว เซียวเซิง คุณต้องเป็นต้นไม้ใหญ่ ไม่ใช่ดอกไม้ที่ใครจะมาเด็ดไปก็ได้” ทันใดนั้นสีชิงชวนก็ยื่นมือออกมาเอาปอยผมของฉันทัดหู
ฉันไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับการที่คืนนี้เขาวกกลับมาอีกครั้ง?
แสงไฟในห้องมืดสลัว แต่แววตาของเขากลับดูห่วงใยลึกซึ้ง
ตอนนี้ไม่ใช่สีชิงชวนที่เป็นบ้าแล้ว แต่เป็นฉันต่างหากที่เป็นบ้าไปแล้ว
จากการตีความของฉัน แววตาของเขาที่มองมาที่ฉันมันดูมีความอบอุ่นเล็กน้อย
“คุณหมายความว่ายังไงกันแน่? ”
“เซียวเซิง คุณควรจะรู้ไว้ว่าไม่มีใครสามารถคอยปกป้องคุณอยู่ข้างๆ ไปตลอดไปได้ ต่อให้มี คุณก็ต้องเข้มแข็งขึ้นมาด้วยตัวเอง ก็เหมือนการเล่นเกมนั่นแหละ ตัวละครในเกมก็ต้องผ่านการฝึกฝนครั้งแล้วครั้งเล่าถึงจะสามารถผ่านด่านไปได้”
เหมือนฉันจะเข้าใจขึ้นมานิดหน่อยแล้ว ความหมายของสีชิงชวนคือที่บางครั้งเดี๋ยวเขาก็ใกล้ชิด เดี๋ยวเขาก็ห่างเหินกับฉัน มันเป็นการฝึกฝนฉันอย่างนั้นเหรอ?
“เซียวเซิง คุณเป็นคนฉลาดมาก แต่คุณพึ่งคนอื่นมากเกินไป เซียวหยวนทิ้งบริษัทไว้ให้คุณก็เพราะอยากให้คุณแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ การบริหารบริษัทไม่ใช่การพึ่งพาอาศัยมิตรภาพหรือครอบครัว หรือแม้กระทั่งความรัก แต่ต้องพึ่งตัวคุณเอง”
ฉันเงินหน้าขึ้นไปมองดวงตาที่อยู่ใต้แพขนตายาวของเขา เหมือนฉันจะค่อยๆ เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
หลายวันก่อนหน้านี้ฉันมีความรู้สึกหนึ่งเกิดขึ้นมา ในขณะที่สีชิงชวนสอนฉันจัดการบริหารบริษัทอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจ
ฉันมักจะรู้สึกว่าเขาเกลียดฉัน เกลียดฉันจนจงใจทรมานฉัน
“คุณมักจะรู้สึกว่าตัวเองทำไม่ได้ คุณมักจะอาศัยกำลังที่มาจากภายนอกมากเกินไป จริงๆ แล้วครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ การที่คุณไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเฉียวอี้ ถือเป็นเรื่องดีสำหรับคุณ มันทำให้คุณถูกตีโอบทั้งสี่ด้านจนต้องหาทางเอาชีวิตรอดให้ได้ คุณเข้าใจไหม? ”
ที่แท้สีชิงชวนก็ผ่านเรื่องยากลำบากด้วยการทำด้วยใจล้วนๆ เหมือนภาพลักษณ์ของเขาจะสูงส่งขึ้นต่อหน้าต่อตาฉันทันที
“ทำไมคุณถึงมาบอกฉัน ทำไมจู่ๆ ก็วกกลับมาหาฉัน? ”
“เพราะ...” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ใจไม่แข็งพอ”
ฉันพูดไม่ออกไปทันที ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองดวงตาของสีชิงชวนที่อยู่ตรงหน้าฉัน ในดวงตาของเขามีหมอกบางๆ เข้าปกคลุม
เมื่อสักครู่นี้หัวใจของฉันยังคงสงบนิ่งมากๆ อยู่ แต่จู่ๆ มันก็เต้นแรงขึ้นมา
คำพูดเมื่อสักครู่นี้ สีชิงชวนกำลังสารภาพรักอยู่หรือเปล่า? หรือว่าฉันอารมณ์อ่อนไหวเข้าใจผิดไปเอง?
ฉันอยากถามมาก แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป ได้แต่อ้าปากค้างมองเขา ทันใดนั้นเขาก็คว้าเข้าที่ข้อมือของฉันจากนั้นก็ดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
เขากอดฉันแน่นมาก ริมฝีปากของเขาแนบชิดอยู่ข้างหูของฉัน และเอ่ยอะไรบางอย่างกับฉันเบาๆ เขาพูดว่า “เซียวเซิง ถ้าผมใจร้ายกับคุณมากกว่านี้อีกนิด บางทีคุณอาจจะกลายเป็นคนคนนั้นที่คุณพ่อของคุณอยากให้เป็นได้อย่างรวดเร็วก็เป็นได้”
“สีชิงชวน” ฉันเงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมกอดของเขาและมองหาดวงตาของเขาที่อยู่ใต้เส้นผมสีดำ “เรื่องทั้งหมดนี้พ่อของฉันขอร้องให้คุณทำอย่างนั้นเหรอ? ”
เขาพยักหน้ารับ “คืนหนึ่งหลังจากที่ผมกับคุณแต่งงานกันแล้ว ท่านนัดผมออกไปนั่งคุยกัน ท่านหวังว่าผมจะสามารถสอนคุณให้กลายเป็นคนที่เข้มแข็งได้ ผมไม่รู้ว่าวิธีของผมมันผิดไปแล้วหรือเปล่า” เขาลูบผมของฉันเบาๆ “ผมไม่รู้ว่าถ้าคุณพ่อของคุณรู้แล้ว ท่านจะชมผมหรือว่าด่าผม? เพราะผมไม่ได้ยืนหยัดทำมันจนถึงที่สุด”
“สีชิงชวน...” ฉันเรียกชื่อเขาเบาๆ เขาใช้นิ้วมือมาปิดปากของฉันไว้ “หยุดเรียกได้แล้ว คุณรู้ไหมว่าทุกครั้งที่คุณเรียกผมแบบนี้ ใจผมมันจะอ่อนเอาได้นะ? ”
ฉันมีความสามารถเฉพาะตัวอยู่ ทำไมฉันจะไม่รู้?
“เซียวเซิง บางครั้งผมก็คิดว่าผมเข้มงวดกับคุณมากเกินไปแล้วหรือเปล่า ผมควรผูกคุณไว้ใกล้ตัวผม ให้คุณเป็นผู้หญิงข้างกายของผมหรือเปล่า? ”
“แต่ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะทำยังไงดี พวกเขาให้ฉันปล่อยตัวเซียวซือกับเซียวหลิงหลิง”
“งั้นตัวคุณเองคิดว่ายังไง? ”
“ฉันอยากปล่อยตัวพวกเธอ คุณจะเห็นด้วยไหมถ้าฉันทำแบบนั้น? ”
เขามองมาที่ฉันอย่างจนปัญญา “ผมไม่สามารถทำให้ซาลาเปาลูกหนึ่ง กลายเป็นบ๊ะจ่างใด้ในชั่วพริบตาจริงๆ สินะ! ”
เขาลูบผมฉันเบาๆ ฉันเห็นความรักใคร่ตามใจเล็กน้อยในแววตาของเขา
เขาเอ่ยว่า “การปล่อยพวกเธอออกมาเป็นเรื่องที่ง่ายมาก คุณเคยคิดตรงส่วนนี้บ้างไหม ถึงคุณจะปล่อยพวกเธอออกมา พวกเธอก็อาจจะไม่ได้รู้สึกขอบคุณคุณ และคุณก็จะมีศัตรูเพิ่มขึ้นอีกมากมาย”
“ฉันไม่ได้คิดถึงว่าอยากทำให้พวกเธอรู้สึกขอบคุณฉัน ฉันแค่คิดว่าคุณพ่อคงไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้”
“คุณเป็นนางฟ้าตัวน้อยใจดี”
ฉันนิ่งอึ้งไป นึกไม่ถึงเลยว่าฉันจะได้ยินคำพูดเลี่ยนๆ แบบนี้ออกมาจากปากของสีชิงชวน มันเป็นเรื่องยากมากจริงๆ
เขาอุ้มฉันขึ้นมา จากนั้นก็เดินไปที่เตียงแล้ววางฉันลง ฉันหน้าแดงเล็กน้อยขึ้นมาทันที “คุณจะทำอะไร? ”
“พรุ่งนี้คุณยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมากมายไม่ใช่เหรอ รีบนอนเถอะ”
หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับไป ทำไมเมื่อสักครู่นี้ยังเป็นห่วงรักใคร่ฉันอยู่ดีๆ เขาก็จะหันหลังแล้วเดินจากไปแล้วเหรอ? แต่เขากลับเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบชุดนอนของตัวเองออกมา และเอ่ยว่า “ผมจะไปอาบน้ำ คุณเป็นเด็กดีรอผมล่ะ”
เมื่อเห็นร่างของสีชิงชวนหายเข้าไปในประตูห้องน้ำแล้ว ทันใดนั้นฉันก้รู้สึกหัวหนักขาเบาไปหมด เมื่อสักครู่นี้มันเหมือนฝันไปเลย มันเหมือนไม่ใช่เรื่องจริงเลย
ฉันจิ้มหน้าของตัวเอง ยังมีความรู้สึกอยู่
ฉันไม่ได้ฝันไป นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตนี้ของฉันที่รู้อย่างชัดเจนว่าตอนที่ตัวเองชอบคนคนหนึ่ง แล้วคนคนนั้นก็ดูเหมือนจะชอบฉันนิดหน่อยด้วย ความรู้สึกที่แสนวิเศษแบบนี้มันทำให้ฉันไม่รู้ว่าควรจะบรรยายมันออกมายังไงดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...