ฉันเข้าใจเหตุผลทุกอย่างแล้ว แต่ความสามารถในการรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของฉันคนนี้ย่ำแย่มาก ฉันไม่รู้ว่าเมื่อเซียวหลิงหลิงเห็นฉันแล้วจะฉีกฉันเป็นชิ้นๆ หรือเปล่า และพอถึงตอนนั้นแล้วฉันจะเป็นอย่างไร
ตัวฉันเองก็ไม่ได้จะฉีกทึ้งอะไรกับเธออยู่แล้ว เพราะพฤติกรรมปากร้ายแบบนี้ ฉันลองเรียนรู้ดูยังไงก็ทำไม่ได้จริงๆ
ฉันกับเฉียวอี้เดินทางมาถึงตระกูลเซียว ฉันไม่ได้มาที่นี่นานมากแล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้มาที่ตระกูลเซียวเพราะว่าเรื่องแบบนี้
ทันทีที่เดินเข้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์ไป ฉันก็ได้กลิ่นของไม้จันทน์ลอยออกมาจากด้านในห้องรับแขก เหมือนเพิ่งได้กลิ่นนี้ไปในโถงที่ตั้งศพของคุณพ่อเมื่อหนึ่งปีก่อนนี้เอง นึกไม่ถึงเลยว่าที่นี่จะถูกจัดเป็นโถงที่ตั้งศพเป็นครั้งที่สองเร็วขนาดนี้
ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับแม่เลี้ยงตึงเครียดมากมาโดยตลอด แต่ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะจากไปเร็วขนาดนี้ และจากไปอย่างเงียบๆ เลยด้วย
ฉันกับเฉียวอี้มักจะพูดกันอยู่บ่อยๆ ว่าคนชั่วจะทนทุกข์ทรมานอยู่เป็นพันๆ ปี ฉันยังคิดอยู่เลยว่าเธอจะอยู่ทรมานฉันไปอีกนานหลายปีถึงจะยอมปล่อยฉันไป
ฉันบอกไม่ถูกเลยว่าในใจของฉันมันรู้สึกยังไงกันแน่ แต่จะให้ฉันร้องห่มร้องไห้ออกมา ฉันก็ร้องไม่ออกเหมือนกัน
ทันทีที่เดินเข้าไปก็เห็นรูปภาพขนาดใหญ่ของแม่เลี้ยงแขวนอยู่กลางห้องโถงที่ตั้งศพ นั่นเป็นภาพวาดเหมือนของแม่เลี้ยง เหมือนเธอจะชอบรูปนั้นมาก และยังตั้งใจล้างรูปขยายใหญ่ออกมาเป็นพิเศษเพื่อเอาไปวางไว้ในห้องของเธออีกด้วย
ฉันเห็นสีชิงชวนอยู่ในห้องรับแขก เขากำลังยุ่งอยู่ในห้องโถงที่ตั้งศพ ฉันไม่เห็นเซียวซือเลย เห็นแค่เซียวหลิงหลิงนั่งร้องไห้โฮอยู่ที่โซฟาเท่านั้น
เซียวหลิงหลิงเป็นคนที่แสดงออกเกินจริงมากๆ ทุกครั้งที่ร้องไห้เธอจะร้องไห้เสียงดังมาก ราวกับจะต้องทำให้คนอื่นรู้ให้ได้ว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่
เมื่อสีชิงชวนเห็นฉัน เขาก็เดินเข้ามาหาฉันทันที
“เซียวซือล่ะ? ” เสียงของฉันแหบแห้งมาก
“เธอพักผ่อนอยู่ข้างบน สภาพไม่ค่อยดีเท่าไร”
“เซียวซือนี่สามารถทำให้ตัวเองสบายที่สุดได้ทุกเวลาจริงๆ นะ ฉันจำได้ว่าตอนที่คุณพ่อเสีย เธอก็ไม่มาเฝ้ายามเลย อ้างว่าตัวเองรู้สึกไม่สบายแล้วก็เอาแต่อยู่ในห้องตลอดเวลา” เฉียวอี้เอ่ยออกมาเสียงเย็นชาด้วยความไม่พอใจ
“อย่าพูดแบบนี้ในตอนนี้เลย” ฉันเอ่ยกับเฉียวอี้เบาๆ ส่วนเธอเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเช่นกัน
“ฉันอยากจุดธูปไหว้เคารพศพคุณน้า” ฉันเอ่ยกับสีชิงชวนเบาๆ
เขาพยักหน้ารับ “คุณรอเดี๋ยวนะ ผมจะไปหยิบมาให้”
ฉันยืนรออยู่กับที่ เฉียวอี้อยู่กับฉันตลอดเวลาไม่ยอมห่างไปไหนเลย
แต่เซียวหลิงหลิงก็ยังคงเห็นฉันอยู่ดี เธอกระเด้งตัวลุกขึ้นมาจากโซฟา จากนั้นก็พุ่งตัวมาอยู่ตรงหน้าฉันด้วยความรวดเร็วอย่างกับจรวด
เธอชี้หน้าฉัน “เซียวเซิง แกยังมีหน้ามาที่นี่อีกนะ แกฆ่าแม่ของฉัน แกทำให้ครอบครัวของฉันบ้านแตกสาแหรกขาด แกยังมีหน้ามาที่ตระกูลเซียวของพวกฉันอีกนะ ทำไม แกอยากได้ส่วนแบ่งมรดกอีกงั้นสิ! ”
เฉียวอี้เข้ามาขวางอยู่ข้างหน้าของฉันไว้ได้ทันเวลา และปกป้องฉันเอาไว้ เธอฉวยโอกาสผลักเซียวหลิงหลิงที่กำลังแยกเขี้ยวยิงฟันออกไป “เซียวหลิงหลิง เธอจะพูดก็พูดเฉยๆ อย่ามายกไม้ยกมือ แล้วมาบอกว่าเซียวเซิงฆ่าแม่ของเธออะไรกัน แม่ของเธอตายเพราะการผ่าตัดล้มเหลว เกี่ยวกับอะไรเซียวเซิงด้วยเหรอ? ”
“นังทอมนี่ หลีกไปให้พ้นเลยนะ! ” เสียงของเซียวหลิงหลิงแตกมาก ฉันฟังแล้วรู้สึกแสบหูจนแทบจะทนไม่ไหว “เซียวเซิง เลือดต้องล้างด้วยเลือด แกเอาชีวิตของแม่ฉันคืนมาเลยนะ ต่อให้แม่ฉันเป็นผี ท่านก็ไม่มีทางปล่อยแกไปแน่! ”
“ฉันก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าคนอย่างพวกเธอเนี่ยได้เห็นได้ยินอะไรก็จะเอามาผสมปนเปลากไปเป็นความแค้นหมด เธอรู้ว่าเซียวเซิงของพวกฉันเป็นคนจิตใจดี ก็เลยอยากกระตุ้นให้เซียวเซิงรู้สึกสำนึกในบาปใช่ไหมล่ะ? เซียวหลิงหลิง ข้อเท็จจริงคือแม่ของเธอป่วย ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่เซียวเซิงจะสามารถควบคุมได้ และอีกอย่าง เรื่องที่แม่ของเธอผ่าตัดก็เป็นการตัดสินใจของเซียวซือน้องสาวของเธอ ในเอกสารเข้ารับการผ่าตัดก็มีชื่อของเซียวซือเซ็นไว้ เซียวเซิงไม่ได้ให้ความเห็นอะไรเลยด้วยซ้ำ พอตอนนี้แม่ของเธอตาย เธอก็มาโทษว่าเซียวเซิงเป็นสาเหตุ เธอจะฝืนถูไถเกินไปแล้วหรือเปล่า? ”
“เซียวเซิงก็นามสกุลเซียวเหมือนกัน เธอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ตลอดไป”
“พอแล้ว” ฉันดึงชายเสื้อของสีชิงชวนเบาๆ “ถึงยังไงทุกครั้งที่เซียวหลิงหลิงเห็นฉัน เธอก็จะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ยังไงที่นี่ก็เป็นโถงที่ตั้งศพของแม่เลี้ยง ดังนั้นเราไม่ก่อเรื่องที่นี่กันอีกโอเคไหม? ยังไงฉันก็มาแล้ว ความตั้งใจก็สำเร็จลุล่วงไปแล้ว ส่วนเซียวหลิงหลิงจะให้ฉันปักธูปที่กระถางหรือเปล่า มันก็ไม่ได้สำคัญมากนัก”
ฉันหันไปบอกกับเฉียวอี้ว่าพวกเรากลับกันเถอะ ในขณะที่เฉียวอี้โอบไหล่ของฉัน สีชิงชวนก็เอ่ยขึ้นมาว่า “คุณกับเฉียวอี้กลับไปก่อนเลย ผมจะอยู่ที่นี่ก่อน”
ในตอนที่พวกฉันกำลังจะหันหลังกลับ ทันใดนั้นพ่อบ้านของตระกูลก็เดินเข้ามาบอกกับฉันว่า “คุณหนูสามครับ คุณหนูรองเชิญคุณไปที่ห้องของเธอแป๊บหนึ่งครับ”
เซียวซือเรียกฉันไปหา? ฉันคิดว่าตอนนี้เธอไม่อยากเจอฉันมากที่สุดซะอีก เฉียวอี้ระแวดระวังขึ้นมาทันที เธอเอ่ยกับฉันว่า “เซียวเซิง เธออย่าไปเลยนะ”
“เซียวซือเรียกฉันนะ ถ้าฉันไม่ขึ้นไปคงไม่ดีเท่าไรหรอกมั้ง! อีกอย่างเธอก็ไม่ใช่เสือดาวหรือหมาไนจิ้งจอกอะไรด้วย”
สีชิงชวนคิดอยู่ครู่หนึ่งและเอ่ยว่า “งั้นผมจะขึ้นไปกับคุณเอง! ”
พ่อบ้านเอ่ยเสริมขึ้นมาอีกครั้ง “คุณหนูรองบอกให้คุณขึ้นไปคนเดียวครับ ถ้าคนอื่นๆ จะตามไปด้วยละก็ งั้นก็อย่าขึ้นไปเลยจะดีกว่าครับ”
ฉันส่ายหน้าไปให้สีชิงชวน “ฉันขึ้นไปเองนี่แหละ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
เฉียวอี้ส่ายหัวรัวๆ จนเหมือนป๋องแป๋ง “ใครจะไปรู้ว่าเซียวซือจะทำอะไรบ้าง? เธออย่าขึ้นไปเลย”
“ถึงเซียวซือจะเกลียดฉัน แต่อย่างน้อยพวกคุณก็อยู่ข้างล่างนี่นะ เธอไม่โง่ถึงขนาดนั้นทำอะไรฉันหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...