ฉันเป็นคนที่พอถูกด่าก็จะสูญเสียความเป็นตัวเองไปได้ง่ายๆ เซียวซือด่าฉันจนฉันเวียนหัวไปหมดแล้วหรือเปล่า?
คำว่าเป็นเธอ เป็นเธอ เป็นเธอ เป็นเธอหลายต่อหลายครั้งที่คล้ายกับการประพันธ์แบบเน้นคำเน้นประโยคของฉงเหยาที่เธอดุด่าออกมานั้น ทำให้สมองของฉันว่างเปล่าไปหมดแล้ว
ฉันจึงได้แต่เบิกตากว้างมองเซียวซือที่ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เธอคนนี้ช่างแตกต่างจากเซียวซือสตรีที่มีชื่อเสียงผู้งามล่มเมืองคนก่อนราวฟ้ากับเหว
ฉันสามารถพูดว่าฉันทำลายเซียวซือคนนั้นไปแล้ว ฉันฆ่าเธอคนนั้นไปแล้ว จนเธอกลายเป็นผู้หญิงเสียสติที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันในตอนนี้ไปแล้วได้หรือเปล่า?
แต่ว่าฉันไม่ยอมรับสิ่งที่เธอประณามและกล่าวหาฉันหรอกนะ
“เซียวซือ พี่ใจเย็นๆ ก่อนนะ ตอนนี้พี่ไม่ได้อยู่ในช่วงตกต่ำของชีวิต การตายของคุณน้าเป็นแค่เรื่องเหนือคาดความหมาย ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”
“ดีขึ้น? ดีขึ้นยังไง เธอลองบอกฉันมาหน่อยสิ แม่ฉันจะฟื้นขึ้นมาเหรอ? สีชิงชวนจะกลับมาหาฉันเหรอ? ทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้งั้นเหรอ? เซียวเซิง เธอทำกระจกแตกเป็นเสี่ยงๆ ไปแล้ว ต่อให้เธอจะติดมันเข้าด้วยกันยังไง มันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว”
แต่ชีวิตของเซียวซือไม่ใช่กระจกบานหนึ่ง และฉันก็ไม่ได้เป็นคนทำมันแตกเสียหน่อย!
“เซียวซือ ฉันไม่ได้แย่งสีชิงชวนมา เป็นพี่เองที่หนีไปในคืนก่อนแต่งงาน...”
“ฉันบอกเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าทำไมฉันถึงหนีไป เซียวเซิง เธอนี่มันเป็นคนที่ทั้งๆ ที่ได้รับผลประโยชน์ที่ตัวเองต้องการไปแล้ว แต่กลับทำเหมือนว่าไม่อยากได้จริงๆ นะ...” เซียวซือส่ายหัว เธอส่ายหัวแรงมากจนเส้นผมไปติดอยู่บนใบหน้าของเธอ
ในค่ำคืนอันมืดมิด ดวงตาของเธอปล่อยลำแสงสีดำออกมา ทำให้ฉันกลัวจนตัวสั่นเป็นลูกนก
สองมือของเธอจับฉันไว้แน่นมาก ฉันรู้สึกว่าผิวหนังของฉันต้องโดนเล็บเธอจิกทะลุไปแล้วแน่ๆ มันเจ็บมากๆ
ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรฟังคำพูดของเธอแล้วมาหาเธอที่ห้องของเธอเลย สภาพของเธอในตอนนี้ ฉันพูดคุยอะไรกับเธอไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว และพวกเราก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องคุยกันอีกด้วย
ในใจของเซียวซือ เธอคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉัน
ฉันไม่รู้เลยว่าเธอมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร แต่เรื่องทั้งหมดนี้ทำให้ฉันงงงันมาก
ฉันดิ้นสุดแรงเกิด เพราะอยากสะบัดเธอให้หลุด แต่อย่าได้มองว่าเซียวซือเป็นคนผอมอะไรแบบนั้น เพราะตอนนี้เวลานี้เธอกลับมีแรงเยอะมากเป็นพิเศษ ฉันดิ้นยังไงก็สะบัดเธอออกไปไม่หลุด
“เซียวซือ ฉันรู้ว่าพี่เสียใจมากที่คุณน้าจากไป แต่พี่ทำแบบนี้ไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรนะ พี่ใจเย็นๆ ก่อนดีไหม? ”
เสียงของฉันแตกเป็นเสี่ยงๆ ไปในสายลมยามค่ำคืน ไม่รู้ว่าลมมันพัดแรงขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ลมแรงพัดเส้นผมของเซียวซือกระจัดกระจาย ทำให้แววตาของเธอในยามค่ำคืนดูดุดันขึ้น ดูเหมือนเป็นคนแปลกหน้ายิ่งกว่าเดิม ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจยิ่งกว่าเดิม
เธอจับแขนทั้งสองข้างของฉันและเขย่าตัวฉันไม่หยุด แผ่นหลังของฉันกระแทกกับด้านบนของราวจับเหล็กซ้ำๆ จนรู้สึกเจ็บมาก เพราะด้านบนของราวจับแกะสลักลวดลายด้วย ลวดลายขรุขระพวกนั้นขูดหลังของฉันจนเจ็บไปหมดแล้ว
“เซียวซือ เซียวซือ พี่ใจเย็นๆ นะ พี่ฟังฉันนะ สภาพจิตใจของพี่ตอนนี้ไม่คงที่มากๆ พี่พักผ่อนสักหน่อยเถอะนะ พอถึงตอนนั้นพี่ก็จะเข้าใจเรื่องพวกนั้นเอง บางครั้งชีวิตของคนเราก็เป็นแบบนั้นแหละ มันเป็นไปไม่ได้ที่ชีวิตของคนเราจะอยู่ในจุดสูงสุดตลอดไป ตอนที่คุณแม่จากไป ตอนที่คุณพ่อจากไปก็เป็นช่วงที่ชีวิตของฉันตกต่ำถึงขีดสุดเหมือนกัน...”
“เซียวเซิง เธออย่ามาเลี่ยงภาระหนักๆ รับแต่ภาระเบาๆ นะ เธออย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะ เซียวเซิง! ” เซียวซือตะโกนเรียกชื่อฉันไม่หยุด เธอร่างกายผอมแห้งแต่เรี่ยวแรงกับเยอะมากจนน่าแปลกใจ เธอเขย่าตัวฉันจนฉันรู้สึกเวียนหัวไปหมด
เพราะว่าพวกเราอยู่บนดาดฟ้าต่อให้จะทะเลาะกันเสียงดังมากแค่ไหน สีชิงชวนกับเฉียวอี้ที่อยู่ข้างนอกก็ไม่มีทางได้ยิน ฉันไม่อยากยุ่งเหยิงอยู่กับเธอแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าระหว่างฉันกับเธอพวกเราคนใดคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บขึ้นคงไม่ได้แน่
ฉันจับไหล่ของเซียวซือเอาไว้เพื่อจะทำให้เธอสงบลง แต่ปฏิกิริยาตอบโต้ของเธอรุนแรงมาก มือและเท้าดึงทึ้งตบตีฉัน
ฉันต้องการผลักเธอออกห่างจากราวจับ จึงดันเธอออกไปสองก้าว แต่เธอก็กดฉันลงกับราวจับอีกครั้ง
เธอเกลียดฉัน เกลียดจนขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน เกลียดฉันมากจนอยากฆ่าฉันให้ตาย ทำให้ฉันหายไปจากโลกใบนี้
ฉันคิดว่าที่เธอเกลียดฉันน่าจะไม่ใช่เพราะเรื่องการจากไปของคุณแม่ของเธอ แต่เธอเกลียดฉันมาตั้งแต่แรกแล้ว
ใช่แล้ว เฉียวอี้พูดถูก ตั้งแต่ตอนแรกที่ฉันปรากฏตัวขึ้นมาในโลกของเธอ เซียวซือก็เกลียดฉันแล้ว เธอเกลียดที่ฉันแย่งความรักที่คุณพ่อมีต่อพวกเธอไป ต่อมาระหว่างพวกเราก็มีสีชิงชวนปรากฏตัวขึ้นมาและไหนจะเรื่องอื่นๆ อีก
ดังนั้นเมื่อแม่ของเธอตาย เธอจึงโยนความเคียดแค้นนี้มาที่ฉัน จริงแล้วๆ ถ้าเป็นคนที่พูดกันด้วยเหตุผลสักหน่อยก็จะรู้ว่าการตายของแม่เลี้ยงมันเกี่ยวข้องอะไรกับฉันด้วยเหรอ?
ฉันกลัวมาก ฉันพยายามดิ้นสุดชีวิต ฉันออกแรงผลักไหล่ของเธอ แต่เธอกลับดูดติดอยู่กับตัวฉันเหมือนแม่เหล็ก
ถึงเธอจะกดฉันด้วยมือเดียว และมืออีกข้างก็ยกต้นขาของฉันอยู่ แต่ฉันก็ผลักเธอออกไปไม่ได้
เมื่อคนคนหนึ่งกำลังยึดติดกับความคิดเห็นของตัวเธอเองมากๆ ตัวเธอก็จะมีพละกำลังที่ลึกลับมากๆ อย่างหนึ่งมาประคับประคองเธอเอาไว้
เมื่อสถานการณ์บีบบังคับจนไม่มีวิธีอื่นแล้ว ฉันจึงได้แต่ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง “สีชิงชวน เฉียวอี้! ”
เมื่อได้ยินชื่อของสีชิงชวน ฉันก็เห็นความโกรธลุกโชนเดือดพล่านอยู่ในดวงตาของเซียวซือ
“หุบปากซะ เซียวเซิง แกคิดว่าสีชิงชวนเป็นพระเจ้าผู้ช่วยชีวิตของแกจริงๆ นะเหรอ? แกคิดว่าพอตอนนี้เขาอยู่ข้างๆ แกแล้ว เขาก็จะอยู่ข้างๆ แกตลอดไปอย่างนั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ! มันเป็นไปไม่ได้หรอก ความสนใจของสีชิงชวนที่มีต่อผู้หญิงสักคนหนึ่งไม่มีทางอยู่เกินครึ่งปีแน่นอน ไม่มีทางแน่นอน แกหุบปากเลยนะ! หุบปากซะ! ”
ราวกับกระดูกทุกส่วนในร่างกายของเซียวซือทิ่มแทงฉันจนรู้สึกเจ็บไปหมด และฉันเองก็ใช้แรงมากเกินไปไม่ได้ เพราะกลัวว่าฉันจะไปทำร้ายเธอเข้า ฉันจึงได้แต่ตะโกนเรียกชื่อของสีชิงชวนกับเฉียวอี้ต่อไป ด้วยความหวังว่าพวกเขาจะได้ยินและเข้ามาช่วยฉัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...