พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 403

ฉันไม่ได้แจ้งตำรวจ แต่ฉันให้ช่างเทคนิคหลายคนจากแผนกรักษาความปลอดภัยมาเอาโทรศัพท์บนโต๊ะของเลขาคนนั้น โทรศัพท์ของหร่วนหลิง รวมถึงกล้องวงจรปิดไป

ฉันเชื่อหร่วนหลิงร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉันรู้ว่าหร่วนหลิงไม่ได้ทำแน่ๆ

ในเมื่อเบอร์โทรเข้าในเวลา 10.20 น. ของเลขาคนนั้นระบุว่าเป็นหร่วนหลิงที่โทรเข้ามา แต่หร่วนหลิงบอกว่าตอนนั้นเป็นจังหวะที่เธอไม่ได้อยู่ที่ห้องทำงานพอดี งั้นก็มีความเป็นไปได้มากว่าจะมีคนอื่นเข้ามาใช้โทรศัพท์ของหร่วนหลิงโทรไปหาเลขาคนนั้น และยัดของกลางเธอ

อันที่จริงแค่ตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบพิรุธเยอะอยู่เหมือนกัน

ฉันและหร่วนหลิงมองคนจากแผนกรักษาความปลอดภัยย้ายของโน่นนี่ไปมา ส่วนเลขาคนนั้นก็ยืนหน้าซีดอยู่ที่ประตู

ฉันรู้ว่าพวกเธอรวมหัวสมรู้ร่วมคิดกัน อย่างอื่นไม่กล้าการันตี แต่เลขาหลายคนทั้งออฟฟิศนี่จะต้องรู้กันแน่ๆ

บางคนพุ่งเป้ามาที่ฉัน บางคนก็พุ่งเป้าไปที่หร่วนหลิง

พวกเขาคิดว่าฉันให้ความสำคัญกับความสามารถของหร่วนหลิง เงินเดือนของเธอสูงกว่าพวกเขา โบนัสก็เยอะกว่าพวกเขา ฉันไปออกงานไหนก็ต้องพาหร่วนหลิงไปด้วย

ในการเข้าร่วมงานก็ต้องสวมชุดราตรีและรองเท้าแบรนด์เนมต่างๆ เพื่อให้เข้ากับสถานที่ ซึ่งฉันยกของพวกนั้นให้หร่วนหลิงทั้งหมด

ถึงเธอจะคืนให้ฉันทุกครั้ง แต่ฉันก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง

บางทีในสายตาฉันเรื่องพวกนี้มันก็ไม่ได้มีอะไร แต่ในสายตาของคนอื่น หร่วนหลิงก็คือเป้าหมายที่ทำให้พวกเขาอิจฉาตาร้อน

สำหรับพวกเลขาและเหล่าผู้บริหารระดับสูงที่จ้องมองฉันอย่างกินเลือดกินเนื้ออย่างกับเสือร้ายพวกนั้นแล้ว การไล่เธอออกไปเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง

แผนกรักษาความปลอดภัยเอาหลักฐานทั้งหมดกลับไปตรวจสอบที่แผนกของพวกเขาแล้ว ฉันยังมีงานอีกเป็นกองที่ต้องทำ จะมัวแต่ต้อนรับขับสู้กับพวกเธอไม่ได้

ฉันเดินไปที่ประตูและหมุนตัวกลับมามองพวกเธออีกครั้ง “ฉันยอมรับคำขอโทษและการพิจารณาตัวเองอย่างจริงใจของพวกคุณ แต่ฉันจะให้เวลาพวกคุณแค่ชั่วโมง” ฉันมองนาฬิกาข้อมือ “ตอนนี้นับไปจนถึงเวลาเลิกงานก็หนึ่งชั่วโมงพอดี มาที่ห้องทำงานฉันก่อนเลิกงานแล้วก็อธิบายอย่างละเอียดว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่ แต่ถ้าให้ฉันตรวจสอบแล้วผลออกมาว่าพวกคุณไม่ใช่แค่จะวางยาฉัน แต่จะยัดของกลางแล้วโยนความผิดให้หร่วนหลิงด้วยล่ะก็ ฉันไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ ไม่ใช่แค่การป่าวประกาศ ติเตียนและไล่ออกจากบริษัทเท่านั้นนะ แต่คุณจะไม่มีทางได้ทำงานสายงานนี้ในเมืองฮวาอีก และถ้าเป็นไปได้ ฉันก็จะแจ้งความด้วย พวกคุณลองคิดชั่งน้ำหนักเอาเองแล้วกันว่าอะไรมันสำคัญกว่า!”

จากนั้นฉันก็เดินออกจากห้องเลขาและกลับมาที่ห้องทำงานของฉัน

หร่วนหลิงยกนิ้วให้ฉันทันทีที่เข้ามาในห้อง “ท่านประธานคะ เมื่อกี้คุณเท่มากเลยค่ะ ฉันยังคิดวิธีดีๆ ไม่ออกภายในระยะเวลาสั้นๆ ขนาดนั้นเลยค่ะ แค่แป๊บเดียวคุณเอาพวกเธออยู่แล้ว! จริงๆ คุณเก่งมากเลยนะคะ แต่คุณแค่จิตใจดีเกินไป ถ้าจะรับมือกับคนพวกนั้น ต้องใช้วิธีแบบนี้เนี่ยแหละค่ะ”

ฉันยิ้มและบอกกับเธอ “ช่วยไม่ได้นี่ พวกเธอมารังแกคนใกล้ตัวฉัน ฉันก็ต้องโต้กลับบ้างสิ ใช่ไหม?”

“ท่านประธาน…” จู่ๆ หร่วนหลิงก็ตาแดงขึ้นมาอีกครั้ง ปกติเธอก็ไม่ใช่คนเจ้าน้ำตาอะไรขนาดนั้น “ขอบคุณนะคะที่ไว้ใจฉันขนาดนี้ แล้วก็ขอบคุณด้วยนะคะที่ช่วยฉัน”

เมื่อครู่ตอนที่คนของแผนกรักษาความปลอดภัยกำลังรวบรวมหลักฐาน ฉันสังเกตเห็นสีหน้าของหร่วนหลิง เธอดูนิ่งและผ่อนคลายมาก ไม่มีอาการลุกลี้ลุกลนเลยแม้แต่น้อย

ที่จริงฉันก็เชื่อใจหร่วนหลิงมากอยู่แล้ว บวกกับการสังเกตการณ์ของฉัน ฉันรู้ว่าเรื่องนี้ต้องไม่เกี่ยวกับเธอแน่นอน ฉันถึงได้ทำแบบนี้

ก่อนเลิกงานฉันได้รับข้อมูลตอบกลับจากแผนกรักษาความปลอดภัย พวกเขาตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าเวลาประมาณสิบโมงกว่าๆ เลขาของแผนกการตลาดคนนั้นเอาชาลดน้ำหนักเข้ามาจริงๆ

เธอได้รับโทรศัพท์ในเวลาสิบโมงยี่สิบนาที จริงๆ แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าหร่วนหลิงออกจากห้องทำงานไปตั้งแต่เก้าโมงครึ่งแล้ว เวลาประมาณสิบโมงครึ่งเธอถึงจะกลับมา

ฉันบอกกับหร่วนหลิง “โทรแจ้งตำรวจทันทีที่เพลงเลิกงานดังขึ้น!”

“ค่ะ” หร่วนหลิงพยักหน้า เธอพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงลิงโลดและชอบอกชอบใจ “ท่านประธานคะ คุณรักษาท่าทีของคุณให้เป็นแบบนี้ไปตลอดได้ไหมคะ? คุณต้องเอาพวกเธออยู่แน่ๆ คุณต้องดูแลเซียวซื่อกรุ๊ปได้ดีแน่นอนเลยค่ะ อย่าไปคิดว่าเซียวซือมุมานะพยายาม แต่เธอคนนี้ใจคดค่ะ เธอดูแลเซียวซื่อกรุ๊ปได้ไม่ดีหรอก แต่คุณทำได้ค่ะ”

ฉันขอบคุณที่หร่วนหลิงเชียร์ฉันขนาดนี้ แต่ฉันก็รู้ว่าปัญหาของฉันมันอยู่ที่ตรงไหน

แต่ครั้งนี้ฉันไม่มีทางใจอ่อนง่ายๆ แน่

เวลาเซียวซื่อกรุ๊ปเลิกงานจะมีเสียงเพลงดังขึ้น ในเสี้ยววินาทีที่เสียงเพลงดังขึ้น ฉันก็บอกกับหร่วนหลิงทันที “แจ้งความเถอะ!”

“ค่ะ!” หร่วนหลิงหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมาทันทีและกำลังจะกดโทรออก ในตอนนั้นเองประตูก็ถูกผลักเปิดออก เลขาสามคนจากแผนกการตลาดยืนเรียงกันอยู่หน้าประตูด้วยใบหน้าแดงก่ำ

ฉันรู้ว่าในทางความรู้สึกฉันชนะพวกเขา สุดท้ายพวกเขาก็เกิดกลัวขึ้นมา

“ท่านประธาน…” เลขาคนที่เอาชาลดน้ำหนักเข้ามาในห้องฉันคนนั้นพูดตัวสั่นงกๆ “มันเป็นความเข้าใจผิดค่ะ เราไม่ได้ตั้งใจ”

ฉันกวักมือเรียกพวกเธอ “เข้ามาแล้วปิดประตูซะ ไฟในอย่านำออก อย่าทำให้เรื่องน่าขายหน้าของแผนกพวกเธอต้องเผยแพร่จนรู้กันไปทั่วบริษัท ทำลายบรรยากาศของบริษัทเรา”

พวกเธอรีบเดินเข้ามาและปิดประตูลงทันที เดาว่าคงเป็นเพราะน้อยครั้งที่จะได้ยินฉันพูดแบบนี้ พวกเธอจึงมองฉันด้วยสายตาหวาดกลัวมากขึ้นกว่าเดิม

ครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นพวกเธอมองฉันด้วยสายตาและสีหน้าแบบนี้ แล้วก็เป็นครั้งแรกของฉันเหมือนกันที่ได้สัมผัสถึงประสบการณ์การบริหารบริษัท ทำไมผู้บริหารระดับสูงถึงต้องสำรวมกิริยา เพราะถ้าดูเป็นกันเองเกินไปก็จะเอาพวกเขาไม่อยู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)