พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 43

“คุณเซียว ถ้าคุณไม่ยอมรับรายงานผลการตรวจดีเอ็นเอของอีกฝ่ายละก็ คุณมีตัวอย่างการตรวจสอบของคุณพ่อของคุณไหมครับ คุณสามารถยื่นคำร้องให้ทำการตรวจสอบดีเอ็นเออีกครั้งได้นะครับ”

เฉียวอี้กระทุ้งศอกเข้าที่เอวของฉัน ฉันจึงได้สติกลับมา อันที่จริงฉันได้ยินคำพูดที่หนีอีโจวพูดกับฉันหมดแล้ว แต่ในสมองของฉันกำลังคิดเรื่องต่างๆ มากมายจึงไม่ได้ส่งเสียงตอบรับออกไป

ฉันเงยหน้าขึ้นมองหนีอีโจว “จำเป็นต้องทำการตรวจสอบอีกครั้งด้วยเหรอคะ? ”

“ถ้าคุณไม่ยอมรับผลการตรวจสอบของพวกเขาครับ”

“ผลการตรวจสอบอันนี้เกี่ยวข้องกับรายละเอียดของคดีไหมคะ? ”

“ก็ไม่ได้เกี่ยวกันครับ ในมรดกของคุณพ่อของคุณไม่ได้มีการระบุเงื่อนไขเบื้องต้นในการมอบมรดกให้คุณว่าคุณจำเป็นต้องเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเขา ต่อให้จะไม่มีผลการตรวจสอบก็สามารถชนะได้ครับ อีกฝ่ายเพียงแค่ดิ้นรนทุรนทุรายก็เท่านั้นเองครับ”

“ในเมื่อคุณพูดขนาดนี้แล้ว งั้นก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ”

“เซียวเซิง เธอไม่คิดที่จะทำให้มันชัดเจนหน่อยเหรอ? ” เฉียวอี้ใช้สองมือกอบกุมใบหน้าของฉันเอาไว้ “เธอจะคิดแบบขอไปทีอย่างนี้เลยเหรอ? ”

“ไม่ว่าจะมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดหรือไม่ก็ตาม ฉันก็เป็นลูกสาวของพ่ออยู่ดี”

“ฉันดูแล้ว เธอไม่กล้าใช่ไหมล่ะ? ”

เฉียวอี้ก็คือเฉียวอี้ ตีทีเดียวก็ตีฉันตายได้เลย

ใช่ ฉันไม่กล้า

ฉันมองไปที่เธอ “ต้องทำจริงๆ เหรอ? ”

“จำเป็นต้องทำจริงๆ ”

“งั้นก็ได้” ข้อดีที่ใหญ่ที่สุดของฉันคนนี้ และบางทีก็เป็นข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดก็คือการถูกคนเกลี้ยกล่อมได้ง่าย หรือพูดง่ายๆ ก็คือไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเอง

หนีอีโจวเก็บรวบรวมเอกสารและลุกขึ้นยืน “คุณเซียว การขึ้นศาลในวันจันทร์หน้า ก่อนการขึ้นศาลผมจะไปพบคุณอีกครั้ง และเมื่อผลการตรวจสอบดีเอ็นเอของคุณออกมาแล้วก็ให้บอกผมหน่อยนะครับ ถ้ามันไม่เป็นประโยชน์ต่อคดี เราสามารถไม่ต้องส่งมอบผลตรวจให้ศาลได้”

เขาพูดจบก็หันไปพยักหน้าให้เฉียวอี้ “เฉียวอี้ ไปละนะ”

น้ำเสียงที่เขาใช้พูดกับเฉียวอี้แตกต่างกับน้ำเสียงที่ใช้พูดกับฉันโดยสิ้นเชิง

น้ำเสียงที่ใช้พูดกับเฉียวอี้เป็นแบบที่ใช้คุยกับเพื่อนเก่า ส่วนน้ำเสียงที่ใช้พูดกับฉันเป็นน้ำเสียงสุภาพแบบที่ใช้คุยกับคนแปลกหน้า

หนีอีโจวเดินออกจากห้องรับแขกไปแล้ว ส่วนฉันยังคงจ้องมองไปที่ประตูที่ว่างเปล่าอย่างเหม่อลอย

เฉียวอี้ผลักฉันเล็กน้อย “ทำไมหนีอีโจวไม่สนใจเธอเลยล่ะ? ”

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? ” ฉันหงอยเหงาเศร้าซึมมาก

“ตามไปถามให้ชัดเจนสิ! ”

“ช่างมันเถอะ” ฉันเอ่ย

“ฉันล่ะหงุดหงิดเธอชะมัด เธอนี่มันชักช้าจริงๆ ” เฉียวอี้คว้าแขนของฉันเอาไว้จากนั้นก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เธอเป็นนักกีฬามือหนึ่ง ตัวสูงแขนขายาว ตั้งแต่เล็กจนโตขอแค่เป็นกีฬาไม่ว่าชนิดไหนเธอก็ทำได้ดีหมด พลังในการวิ่งระยะสั้นนั้นแข็งแกร่งมาก ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยไม่มีใครสู้เธอได้เลยจริงๆ

ความอดทนในการวิ่งระยะไกลก็ยอดเยี่ยมมาก ปกติฉันวิ่งแค่แปดร้อยเมตรก็จะตายแล้ว เธอเหมาะสมที่จะเป็นนักวิ่งมาราธอนจริงๆ

ฉันแทบจะถูกเธอลากไป เมื่อวิ่งมาถึงหน้าประตูลิฟต์ก็เห็นหนีอีโจวเพิ่งจะเดินเข้าลิฟต์ไป เธอจึงลากฉันเข้าไปในลิฟต์

หนีอีโจวดูไม่แปลกใจที่เห็นพวกเราวิ่งเข้ามา และเอ่ยถามพวกเราด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไปชั้นไหน”

“ไปชั้นไหนอะไรล่ะ พี่เสี่ยวฉวน คุณควรจะอธิบายสักหน่อยไหมว่าทำไมถึงมองเซียวเซิงเหมือนคนแปลกหน้า? ” เฉียวอี้เข้าประชิดตัวหนีอีโจว เอามือข้างหนึ่งยันผนังลิฟต์เอาไว้ เหมือนปี้ตงประธานบ้าอำนาจกับยัยโง่ไป๋เถียนในนิยายรักโรแมนติก

เธอสูงพอๆ กับหนีอีโจว ฉันพบว่าดูเหมือนในช่วงสองปีมานี้เฉียวอี้จะสูงขึ้นอีกแล้ว เดิมทีสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบแปด ตอนนี้น่าจะประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบนิดๆ แล้ว

“เปล่า ผมแค่ไม่รู้ว่าควรจะเรียกเธอว่ายังไงดี จะเรียกว่าคุณเซียวหรือว่าคุณนายสีดีถึงจะเหมาะสม”

ทันใดนั้นฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพอเจอฉัน หนีอีโจวถึงเย็นชาแบบนี้ เป็นเพราะว่าฉันแต่งงานกับสีชิงชวนแล้วอย่างนั้นเหรอ?

“ขอโทษ เซียวเซิง ผมได้ยินข่าวการแต่งงานของคุณ ดังนั้นผมก็เลย...”

“ฉันเข้าใจได้ เพราะถ้าคุณตีฆ้องตีกลองเฉลิมฉลองอย่างชื่นมื่น ฉันก็คงไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดีเหมือนกัน”

“เซียวเซิง คุณโตขึ้นแล้ว” มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เขาคือผู้ชายที่ยิ้มได้สวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา “เมื่อก่อนคุณสูงแค่หน้าอกของผม ตอนนี้คุณสูงเท่าหูของผมแล้ว”

“ฉันยังคงเป็นยัยเตี้ยคนนั้นเหมือนเดิม”

“เด็กผู้หญิงอยากสูงเหมือนเฉียวอี้ยัยโง่คนนั้นกันหมดเลยเหรอ? ” เขายิ้มอย่างอบอุ่นและสวยงามเป็นอย่างมาก ในลิฟต์ไม่มีแสงอาทิตย์ แต่กลับรู้สึกว่าแสงอาทิตย์และความอบอุ่นของวันนี้อยู่ในดวงตาของเขาทั้งหมดแล้ว

“พี่เสี่ยวฉวน ฉันตามหาคุณมาตลอด แต่ก็ไม่เคยหาคุณเจอเลย” ฉันพึมพำ

“ผมไม่ได้อยู่ในอังกฤษ และภายหลังก็ไปที่ประเทศอเมริกา”

“คุณได้รับจดหมายที่ฉันส่งไปให้คุณไหมคะ? ภายหลังที่ฉันถูกคุณพ่อพากลับตระกูลเซียว ฉันได้บอกที่อยู่ของฉันกับคุณไป”

“ผมเขียนจดหมายส่งไปให้คุณแล้ว คุณไม่ได้รับเหรอครับ? และผมยังได้บอกเรื่องที่ผมไปประเทศอเมริกากับคุณไปแล้วด้วย”

“ฉันไม่ได้รับจดหมายเลย” ฉันไม่ได้รับจดหมายจริงๆ “คุณพ่อไปทำงานที่ประเทศอังกฤษ ฉันให้ที่อยู่เขาไปและขอให้เขาไปหาคุณให้หน่อย เซียวซือไปประเทศอังกฤษ ฉันก็ขอให้เธอไปหาคุณ แต่ก็หาไม่เจอ”

เขามองมาที่ฉันอย่างสงสาร ทันใดนั้นแววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นโศกเศร้า “คุณพ่อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตในอังกฤษ คุณแม่เสียใจมากก็เลยพาผมไปขอพึ่งพาอาศัยคุณน้าที่ประเทศอเมริกา”

“อ๋อ” ฉันไม่รู้เลยว่าจะเกิดเรื่องที่บีบรัดหัวใจคนแบบนี้ขึ้นกับหนีอีโจวด้วยเหมือนกัน

ฉันไม่รู้ว่าควรจะปลอบเขาอย่างไร จึงทำได้แค่มองเขาอย่างโง่เขลาอยู่อย่างนี้

ทันใดนั้นเขาก็อ้าแขนทั้งสองข้างออกมาทางฉัน “ยกโทษให้ผมด้วยที่ผมเข้าใจว่าความคิดของตัวเองถูกต้อง ผมกอดคุณได้ไหม เสี่ยวเซิง? ”

ได้แน่นอน สวรรค์รู้ดีว่าฉันรอคอยอ้อมกอดนี้มานานมากแค่ไหนแล้ว

ฉันพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของหนีอีโจว และโอบกอดเขาไว้แน่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)