พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 443

“วางใจเหอะ ตอนนี้เสวียเหวินกำลังดิ้นรนเพื่อลมหายใจเฮือกสุดท้ายอยู่ อุตส่าห์ได้เจอที่พึ่งสุดท้ายทั้งที เธอคิดว่าเขาจะปล่อยไปเปล่าๆ เหรอ?”

“แล้วยังไง?”

เฉียวอี้ยิ้มแต่ไม่ตอบ ท่าทางเหนือชั้นสุดๆ

ฉันทานอิ่มเกินไปจึงเอนตัวพิงเบาะที่นั่งด้วยอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น

ทันใดนั้นเฉียวอี้ก็ตบฉันเบาๆ ฉันเบิกตาขึ้นมองก็เห็นว่าเธอกำลังมองกระจกมองหลังพลางบุ้ยปากเป็นสัญญาณ ฉันจึงมองตามสายตาเธอ

ฉันเห็นว่ามีรถคันหนึ่งกำลังขับตามเรามาด้านหลังติดๆ เพราะรถขับมาใกล้เราเกินไป ดังนั้นคนขับรถจึงดูออกภายในพริบตาเดียวว่าเป็นเสวียเหวิน

“ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะ” เฉียวอี้บอก “ตอนนี้เสวียเหวินก็เหมือนกับหมาป่าดุร้ายที่กินเนื้อดิบๆ แล้วก็โหดร้ายสุดๆ ตัวหนึ่ง อุตส่าห์ได้กลิ่นคาวเลือดหยดหนึ่งแล้ว เขาจะปล่อยไปง่ายๆ ได้ไง?”

เขาตามมาแล้วงั้นพวกเราก็เบาใจแล้วล่ะ ไม่งั้นถ้าเชือกเส้นนี้ขาดไป แล้วเรากลับไปหาเขาอีกครั้ง เขาต้องเล่นตัวแน่ๆ

“งั้นเธอก็ขับต่อไปเถอะ”

“เซียวเซิงก็รู้จักกลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับแล้วเหรอ โตพอจะถ่ายทอดความรู้ให้ได้แล้วน่ะเนี่ย” เฉียวอี้ลากเสียงยาว

เฉียวอี้ไม่ได้ขับรถกลับบ้าน แต่ขับไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เธอจอดรถแล้วเอียงศีรษะให้ฉัน “ไป เราไปช็อปปิ้งกัน”

ฉันรู้ว่าเฉียวอี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาช็อปปิ้งหรอก ก็แค่พาเสวียเหวินออกมาเดินข้างนอก

แต่ช่วงนี้ฉันก็รู้สึกตึงๆ อยู่เหมือนกัน ออกมาเดินช็อปปิ้งหน่อยก็ดี

ก็เป็นผู้หญิงนี่นา พอได้เห็นของสวยๆ งามๆ ก็ลืมเรื่องกลุ้มใจบางอย่างไปได้ในพริบตาแล้วล่ะ

ถึงความกลุ้มใจของฉันจะไม่สามารถลืมได้ในชั่วพริบตา หรือต่อให้ลืมไปแต่ไม่นานก็จะนึกขึ้นได้อีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นไร

การช็อปปิ้งอย่างบ้าคลั่งสามารถปลอบโยนจิตใจได้แค่ชั่วขณะ สำหรับฉันมันก็ดีมากแล้วล่ะ

ฉันกับเฉียวอี้ช็อปกันอย่างแหลกลาญ อย่าคิดว่าปกติเฉียวอี้จะดูแก่นแก้วเหมือนทอมบอย แต่พอถึงเวลาช็อปปิ้งเธอกลับเหมือนผู้หญิงธรรมดาๆ นี่แหละ

มีแบรนด์หนึ่งที่ฉันกับเฉียวอี้ชอบมาก ฉันชอบกระโปรงและรองเท้าส้นสูงของร้านพวกเขา ส่วนเฉียวอี้ชอบกางเกงและกระเป๋าของร้านพวกเขา

เราสองคนยืนอยู่ในร้านนั้น ฉันชี้ไปที่ของที่ฉันชอบและบอกกับพนักงาน “ฉันเอาอันนี้…อันนี้…แล้วก็อันนี้ค่ะ อันนั้นเอามาให้ฉันลองหน่อยค่ะ”

เฉียวอี้ชี้ไปที่ของที่ตัวเองชอบและบอกกับพนักงาน “อันนั้น…อันนั้น…แล้วก็อันนั้น ฉันเอาหมดเลยค่ะ เอาอันนี้มาให้ฉันลองหน่อยค่ะ”

เมื่อพนักงานเห็นว่ามีลูกค้ารายใหญ่มาก็รีบวิ่งแจ้นเข้ามาทันทีและยิ้มให้เราหน้าบานเหมือนดอกไม้

ตอนที่ฉันเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วและกำลังส่องกระจกดู ก็เห็นเสวียเหวินผ่านทางกระจก เขากำลังยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าร้านและกำลังชะโงกหน้าเข้ามามอง

พนักงานในร้านก็เห็นเขาเช่นกันจึงถามพวกเราเบาๆ “คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ชายคนนั้นที่ยืนอยู่หน้าประตูมาด้วยกันกับพวกคุณหรือเปล่าคะ?”

“ใช่ค่ะ” เฉียวอี้ยิ้มระรื่น จากนั้นก็กวักมือให้เสวียเหวิน เขาจึงรีบเดินเข้ามาทันที เฉียวอี้บอกกับพนักงาน “คุณผู้ชายคนนี้จ่ายค่ะ”

เสวียเหวินหน้าซีดทันที ฉันกับเฉียวอี้รีบกวาดซื้อของที่ตั้งโชว์ในร้านทั้งหมดทันที นี่เป็นร้านที่มีชื่อเสียง ยอดบิลไม่ใช่น้อยๆ แน่นอน อย่าว่าแต่เสวียเหวินในตอนนี้เลย ต่อให้เป็นตอนก่อนหน้าที่เขาจะแตกหักกับเซียวหลิงหลิง เขาก็ไม่สามารถควักเงินจำนวนมากขนาดนี้ออกมาจ่ายได้ในคราวเดียวหรอก

เขายิ้ม “ผมไม่รบกวนสาวๆ ช็อปปิ้งกันดีกว่า อีกเดี๋ยวผมค่อยเลี้ยงข้าวพวกคุณทีหลังนะครับ”

“เพิ่งกินมาค่ะ นี่ก็กำลังช็อปปิ้งย่อยอาหารอยู่” เฉียวอี้เหลือบมองเขาผ่านกระจกแวบหนึ่ง

เสวียเหวินกลับยิ้มโดยไม่รู้สึกอึดอัดเลยสักนิด “ทั้งสองคนเป็นผู้หญิงที่มีฉลาดและมีความสามารถ เงินทองที่น้อยนิดของผมนั่นจะเทียบกับทั้งสองคนได้ไง ไม่งั้นผมจะอยากร่วมมือกับทั้งสองคนเหรอครับ”

“ร่วมมืออะไร?” เฉียวอี้สั่งชาเสาวรสกาหนึ่ง ส่วนฉันสั่งกาแฟเย็นแก้วหนึ่ง

“ตอนแรกผมบอกกับเซียวเซิงไปแล้ว ผมมีความลับสุดยอดของเซียวซืออยู่ ถ้าช่วงนี้ทั้งสองคนมีแผนกำลังจะทำอะไรก็เอาผมไปร่วมด้วยสักคนสิครับ แผนนี้ของผมร่วมลงทุนด้วยได้แน่ๆ!”

“คุณจะเอาความลับไม่เป็นชิ้นเป็นอันอะไรนั่นมาใช้แทนเงินเหรอ เสวียเหวิน ฉันว่าคุณเงินขาดมือจนบ้าไปแล้วหรือเปล่า?”

“เปล่านะ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเงินจริงๆ นังเซียวหลิงหลิงนั่นอายัดเงินผมน่ะ”

“เงินแค่นั้นของคุณยังต้องอายัดอีกเหรอ?” เฉียวอี้ยิ้ม

ของที่เราสั่งมาเสิร์ฟแล้ว คอแห้งจริงๆ นั่นแหละ ฉันกอดกาแฟเย็นไว้แล้วดื่มไม่หยุด เฉียวอี้ก็ใช้หลอดดูดชาเสาวรสของเธอเช่นกัน

เราทำเหมือนไม่แยแสกับความลับนั้นของเขา ทำให้เสวียเหวินตายใจและเลิกหลอกล่อให้เราสนใจ

เขาถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่ง “ทั้งสองคน ผมรู้ว่าที่ทั้งสองคนไม่ไปต่างประเทศต้องเป็นเพราะจะกลับมาฮึดสู้กับเซียวซือแน่ๆ ลองคิดดูสิว่าเซียวซือต่ำช้าแค่ไหน ใช้วิธีนั้นแย่งหุ้นของคุณไป แล้วเซียวซือยังไม่ประมาณตน เอาเงินทุนทั้งหมดไปซื้อหุ้นของเฉียวกรุ๊ปไปอีก คิดว่าตัวเองจะใช้อิทธิพลและอำนาจในทางมิชอบในเมืองฮวา แต่กลับลืมไปว่าตัวเองไม่ได้มีคุณค่าสำคัญอะไรเท่าไหร่”

“คุณเลิกไร้สาระสักที” เฉียวอี้ขัดจังหวะเสวียเหวินที่กำลังสาธยายยาวเหยียด “ช่วงนี้ฉันกับเซียวซือไม่ได้ทำอะไรกันหรอก คุณบอกความลับนั้นของคุณมาก่อน ฉันจะประเมินราคาและให้เงินสดคุณเอง แต่ถ้าคุณจะร่วมถือหุ้นด้วยก็อย่างหวังเลย”

เสวียเหวินดวงตาเป็นประกาย เดาว่าเขาก็อยากได้เงินสดเหมือนกัน

เขายื่นนิ้วออกมานิ้วหนึ่ง เฉียวอี้มองมันแวบหนึ่งแล้วหัวเราะ “ความลับอะไรของคุณมีค่าถึงหนึ่งล้าน?”

“ไม่ๆๆ” เสวียเหวินส่ายหน้าทันที “หนึ่งล้านเหรอ? ความลับของผมน่ะ มีค่าหนึ่งร้อยล้านต่างหาก!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)