พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 458

เจอกับป๋ออวี่ในสถานการณ์แบบนี้ไม่น่าแปลกใจอะไร เขาลาออกนานแล้ว ตอนนี้เขาสืบทอดธุรกิจของพ่อเขาอยู่ ถือได้ว่าเป็นนายทุนใหญ่ที่มีชื่อเสียงและเงินทอง

เฉียวอี้ก็จำเขาได้แล้ว กระซิบกับฉันด้วยเสียงอันเบาว่า “คือป๋ออวี่นี่เอง คนรอบข้างของสีชิงชวนนี่เป็นคนในวงการเดียวกันหมดเลย หลังจากเขารับช่วงต่อกิจการจากพ่อเขาก็เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว หมดกัน ถ้าครั้งนี้เขาประมูลโครงการไปได้ บริษัทอื่นก็ไม่ต้องไปคิดแล้วแล้วยิ่งพวกเราไม่ต้องไปคิดเลย”

ใช่นะสิฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เดิมทีคนที่มาประมูลงานนี้มีไม่มาก บวกกับศักยภาพของป๋ออวี่ดีขนาดนี้ พวกเราก็ถือว่าแค่มาชมงานมารอดูสถานการณ์ก็เท่านั้นแหละ

การประมูลครึ่งแรกกำลังจะจบลงแล้ว งานครึ่งหลังเป็นการประกาศว่าใครจะชนะการประมูล

“เหมือนจะมีคนเสนอใบราคาไปทั้งหมดสามเจ้า ป๋ออวี่น่าจะชนะแบบไม่ต้องสงสัย ถ้าเทียบกับอีกสองบริษัทแล้วบริษัทของป๋ออวี่มีความแข็งแกร่งกว่า แล้วมีศักยภาพมากกว่ายังไงครั้งนี้เขาก็ชนะแล้วละ”

ไม่ต้องให้เฉียวอี้พูดฉันก็พอจะเข้าใจฉันยิ้มกับเธอ ไม่ต้องพูดว่าเราสองคนไม่มีบริษัท ถึงแม้เราสองคนจะมีบริษัทก็ต้องวิ่งหนีอยู่ดี

ในขณะที่กำลังพัก พวกเรากำลังหาของกินฟรีที่เจ้าของงานจัดไว้ แล้วเล่นมือถือไปพลาง เห็นข่าวของสีชิงชวนหมั้นหมายกับเซียวซือ

พวกเขาสองคนช่างขี้โอ้อวดจริง เหมือนอยากจะให้คนทั้งโลกรู้ก็แค่การหมั้นหมายกันเท่านั้น สื่อยังนำเสนอหัวข้อพิเศษของพวกเขาตั้งแต่ทั้งสองเริ่มรักกันถึงเลิกรากันแล้วกลับมาคบกันอีกแล้วตอนนี้กำลังจะหมั้นหมายกัน บรรยายสาธยายซะยาวเหยียดเหมือนละครน้ำเน่าที่ดำเนินเรื่องเรื่อยๆยาวเรื่องหนึ่ง

ส่วนฉันหรอ ไม่เห็นเขียนถึงสักตัวเลยตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วฉันเป็นคนไม่มีตัวตนคนหนึ่ง

ก็ใช่ อืม ตอนนี้สื่อกำลังวุ่นกับการเขียนข่าวเรื่องราวความรักของพวกเขา ถ้ามีการพูดถึงฉันขึ้นมาน่าจะทำให้เสียบรรยากาศหมด

ขณะที่ฉันกำลังไถเล่นมือถือ มีคนคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน “เชียวเซิง อะไรจะบังเอิญขนาดนี้?”

น้ำเสียงคุ้นหูมาก ฉันเงยหน้าขึ้นมาคนยิ่งคุ้นเคยไปใหญ่

เขาคือป๋ออวี่ ฉันยืนขึ้นมา ได้พบเขาฉันก็ดูเก้อเขิลทำไรไม่ค่อยถูก

เพราะมือถือฉันกำลังเปิดข่าวการหมั้นของสีชิงชวนกับเซียวซืออยู่ ฉันเลยรีบปิดมือถือแล้วยิ้มเบาๆ “สวัสดี ป๋ออวี่”

หลังจากครั้งนั้น ที่ป๋ออวี่สารภาพรักกับฉัน ภายใต้แรงกดดันของสีชิงชวน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้ากัน

“ที่จริงแล้วตอนอยู่ในงานฉันมองไปแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นเธอ พวกเธอก็มีความสนใจในโครงการนี้เหมือนกันเหรอ?”

ป๋ออวี่มองแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นฉันเหรอ?

เฉียวอี้อุตส่าห์ทุ่มเทแต่งปลอมตัวให้ฉันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถูกคนอื่นมองออกตั้งแต่แว๊บแรก?

“ก็ต้องสนใจอยู่แล้ว เป็นโครงการที่ดีขนาดนี้ คนที่ทำธุรกิจเป็นก็ต้องให้ความสนใจอยู่แล้ว แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีศักยภาพแบบนั้นทุกคน ”เฉียวอี้ลุกขึ้นมาพูดกับป๋ออวี่

“ถ้าหากพวกเธอสนใจก็สามารถเข้าร่วมได้นะ ถ้าหากฉันประมูลสำเร็จฉันสามารถแบ่งปันตั๋วให้พวกเธอได้”

“แบ่งปันตั๋วการประมูลจะไปมีความหมายอะไร ถ้าจะเอาก็ต้องเอาหัวหลักไปเลย”

“แล้วพวกเธอยื่นใบราคาหรือยัง”

ฉันส่ายๆหัว : “ไม่ได้เสนอ พวกเราในตอนนี้ไม่มีเงินลงทุนขนาดนั้น”

ป๋ออวี่มองดูฉันอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็พยักๆหัว “ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ ฉันไปก่อนนะ”

“ตอนนี้สีชิงชวนกำลังยุ่งอยู่กับงานหมั้น พูดถึงบริษัทในเครือของสีซื่อก็ขยายสาขาย่อยไปเยอะแล้วเขาไม่อยากจะแทรกเข้าตรงนี้เพิ่มเติมก็ถือเป็นเรื่องปกติ”

“ฉันคิดว่าเขาอยากให้โอกาสกับคู่ขาเก่าของเขาสักครั้งหนึ่งแหละ”

“คู่ขาเก่าอะไรพูดอะไรฟังไม่เข้าหูเลย ฉันบอกแล้วว่าสีชิงชวนไม่ใช่เกย์”

“ยี้ ขนาดนี้แล้วเธอยังจะมาปกป้องเขาอีก เขาจะหมั้นหมายกับเซียวซือแล้ว”

“เธอพูดอย่างนี้อยากจะตายใช่ไหม?” มันไม่ง่ายเลยกว่าที่ ฉันจะดึงจุดสนใจฉันมาโฟกัสกับงานประมูลครั้งนี้ ตอนนี้พอเธอพูดขึ้นมา ฉันก็คิดขึ้นมาอีกแล้ว

ที่บอกว่าฉันไม่เศร้าใจเป็นการพูดไม่จริงแหละ ไม่ว่าสีชิงชวนจะทำไปด้วยจุดมุ่งหมายอะไรในใจของฉันก็รู้สึกถึงความสูญเสียอยู่ดี

ฉันมองไปที่ป๋ออวี่ครู่นึง คนจำนวนมากำลังรายล้อมเขา ฉันพูดกับเฉียวอี้ว่า “พวกเราไปกันเถอะ”

“อืม ก็คงทำได้แค่กลับจะทำอะไรได้ มีโอกาสดีขนาดนี้เธอว่าเซียวซือจะไปขอแบ่งตั๋วประมูลกับป๋ออวี่ไหม?”

นั่นฉันก็ไม่รู้ด้วยแล้ว แต่ฉันรู้สึกว่าเซียวซือต้องกำลังหาวิธีมาแสดงความยินดีกับเขา ดูจากคนเหล่านี้ที่รายล้อมป๋ออวี่แล้วก็รู้ เพราะงานประมูลครั้งนี้ คนส่วนใหญ่ที่มาก็เพื่อให้ได้ตั๋วการประมูล แต่บางคนก็มาเพื่อขอแบ่งปันตั๋ว คนเราส่วนใหญ่ก็คิดได้ รู้ว่าเงินทุนของตัวเองไม่มากพอ ดังนั้นเลยไม่เป็นยอดพีระมิดก็ได้ แต่ขอเป็นส่วนกลางของพีระมิด กินปลาเล็กปลาน้อยก็เพียงพอแล้ว

ฉันกับเฉียวอี้เดินออกจากงานเดินมาขึ้นรถ เฉียวอี้กำลังเตรียมจะออกรถ มีคนมาเคาะประตูหน้าต่างรถเรา คนคนนั้นพวกเราเองก็ไม่รู้จัก

เขาพูดกับพวกเราด้วยความสุภาพว่า “คุณผู้หญิงเชียว คุณผู้หญิงเฉียว รบกวนคุณสองคนขับรถตามพวกเรา คุณป๋อมีเรื่องจะคุยกับพวกคุณนิดนึง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)