พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 461

หากเป็นเมื่อก่อน ถ้าได้รับคำเชิญแบบนี้ฉันคงจะไม่ยอมรับเด็ดขาด ทั้งยังจะหันหลังแล้วเดินจากไปเลย

แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน ตอนนี้ไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะไม่ถอย แล้วอีกอย่างเพราะฝั่งตรงข้ามคือเซียวซือด้วย

เธอได้ใจมากแล้ว เธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอมีหมดแล้วทุกอย่าง

ถ้าหากเธอมีหมดแล้วทุกอย่างจริงๆ มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับฉัน

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนฉันคงจะไม่เอามาใส่ใจ แต่ตั้งแต่เสวียเหวินเอาวีดีโอนั้นให้ฉันดู ฉันก็รู้เลยว่าสิ่งที่เซียวซือแย่งฉันมาทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของอะไร

เธอได้ใจมากใช่ไหม? งั้นฉันจะทำให้เธอต้องกลัดกลุ้มใจเอง

ฉันพยักหน้าให้เฉียวอี้ “ไป พวกเราเข้าไปร่วมแบ่งปันความสุข ความสนุกกับเซียวซือกัน”

เฉียวอี้ตื่นเต้นดีใจมาก เธอคิดไม่ถึงว่าฉันจะตอบโต้เกมส์กลับขั้นสูงแบบนี้

เธอดีดนิ้วแล้วพูดว่า “โอเค ไปกันเถอะ”

เลขาคนนั้นเกิดอาการตกใจเบาๆ ถ้าเอาตามที่ฉันเข้าใจ เธอคงคิดไม่ถึงว่าฉันจะกล้าเข้าไปข้างในจริงๆ

ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าการเป็นคนคนหนึ่งที่คนอื่นไม่ค่อยเข้าใจ มันมีความรู้สึกดีแบบนี้เอง

ใครจะยอมให้คนอื่นมาเดาใจได้ถูก

ฉันกับเฉียวอี้เดินเข้าไปในบาร์ ดูแล้วเซียวซือให้ความสำคัญกับงานแต่งงานของเธอกับสีชิงชวนมากเป็นพิเศษ ขนาดในผับบาร์ยังตกแต่งสถานที่เป็นพิเศษ ธีมในการจัดงานเลี้ยงค่ำคืนนี้คือธีมเจ้าสาว พอฉันเข้าไปก็เห็นเซียวซือยืนอยู่บนเวทีของชั้นสอง สวมใส่ชุดสีขาวลากพื้นเหมือนชุดแต่งงาน

เฉียวอี้หัวเราะเยาะ “คิดไม่ถึงว่าเซียวซือจะหิวโหยการแต่งงานขนาดนี้ เซียวเซิง” เฉียวอี้หันหน้ามามองฉัน “ฉันเดาไม่ถูกเลยว่าถ้าครั้งนี้เซียวซือไม่ได้แต่งงานเธอจะเป็นยังไง?”

“ฉันก็เดาไม่ถูก แต่พวกเราสามารถรอดูได้เลย” ฉันเดินขึ้นบันไดเดินผ่านเซียวซือไป

สายตาเซียวซือมองฉันด้วยความเซอร์ไพรส์นิดนึง คิดว่าเธอน่าจะคาดไม่ถึงว่าฉันจะเข้ามาในงานจริงๆ

แต่เธอก็จัดการอารมณ์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว พิงตรงราวบันได แสดงท่าทางอย่างนางพญาที่สูงส่ง

“เซียวเซิง คิดไม่ถึงว่าจะเจอกันเร็วขนาดนี้”

“ฉันก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะอดทนรอไม่ได้ขนาดนี้ หรือเพราะเธอกังวลว่าวันหมั้นของเธอจะมาไม่ถึงแน่ เธอเลยจัดงานไว้ก่อน?”

ที่จริงแล้วเวลาฉันใจร้ายฉันก็สามารถร้ายได้มากๆ แต่แค่ฉันเป็นใจดีเกินไป ไม่อยากให้ใครต้องมาลำบากใจเพราะฉันเท่านั้น

แต่ขนาดฉันดีขนาดนี้ คนอื่นยังบอกว่าฉันเป็นคนแรดเงียบ ไม่รู้จริงๆว่าจะไปอธิบายที่ไหนได้บ้าง

ฉันยั่วโมโหทำให้เซียวซือโกรธได้สำเร็จ เธอยืนหลังเกร็งไปครู่หนึ่งมือจับราวบันไดอย่างแน่น “เซียวเซิง ใครสอนให้เธอพูดคำเหล่านี้ หรือเพราะเธอมันใจดำตั้งแต่ข้างในกระดูกของเธออยู่แล้ว?”

ฉันขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเธอ มองไปรอบๆทั้งสี่ทิศ “คืนนี้สีชิงชวนจะมาไหมนะ?เธออยากจะให้เขามาเห็นสารรูปแบบนี้ของเธอก่อนหรือเปล่า?

“วันนี้เป็นวันเลี้ยงสละโสดของฉัน ฉันเป็นตัวหลักของงานเลี้ยงนี้ เซียวเซิงฉันรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นแม่หม้ายคนหนึ่งที่ถูกทิ้ง เห็นสามีเก่ากำลังจะแต่งงานกับฉันใจก็ต้องไม่สงบอยู่แล้ว”

“ก็แค่งานหมั้นเอง เซียวซือ” ฉันเตือนสติเธอ “การหมั้นกับการแต่งงานมันแตกต่างกันมากนะ ถึงจะเป็นวันแต่งงานแล้วก็เถอะ วันนั้นสีชิงชวนก็อาจจะเปลี่ยนใจไม่มาก็ได้ เพราะงั้นจึงไม่ต้องพูดถึงแค่การหมั้นเลย”

ฉันพูดไปถูกจุดที่เซียวซือกังวล ถึงจะอยู่ภายใต้แสงที่สลัวๆนี้ ฉันก็มองออกว่าสีหน้าของเซียวซือนั้นเปลี่ยนไป

คนที่มีความมั่นใจในตัวเองมากอย่างเซียวซือ ก็มีช่วงเวลาที่ประหม่าอยู่เหมือนกัน

เธอตั้งสติตัวเองแล้วพูดว่า “เซียวเซิง เธอรู้ไหมว่าการแสดงออกของเธอในตอนนี้เขาเรียกว่าเหมือนหมาจนตรอก? สำหรับคนขี้แพ้ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเธอ ฉันไม่อยากจะต่อปากต่อคำด้วยหรอกนะ ถ้าเธอยินดีจะอยู่ดูฉันมีความสุขละก็งั้นเธอก็อยู่ที่นี่ต่อได้เลย เธออย่าคิดว่าคำที่เธอพูดไม่กี่คำเมื่อกี้จะทำให้ฉันตกใจกลัวได้ ความมั่นใจอย่างอื่นฉันไม่ค่อยมีหรอก แต่กับเธอฉันมีความมั่นใจมาก สีชิงชวนรับปากฉันแล้วว่าจะแต่งงานกับฉัน ไม่ว่าใครหน้าไหนก็จะมาแย่งเขาไปจากมือฉันได้”

เซียวซือเดินผ่านหน้าฉันไป แล้วเอานิ้วมาชี้ที่จมูกฉัน

“เมื่อกี้เธอคุยอะไรกับเซียวซือเหรอ?”

ฉันบอกไปว่า “ภายในสามวันฉันจะแย่งสีชิงชวนกลับมา”

“จริงเหรอเนี่ย?” เฉียวอี้ให้ความสนใจมาทันทีทันใด “ก็ดีนะ ฟังแล้วน่าตื่นเต้นดี เธอพูดไปแบบนั้นส่งๆ หรือเธอจะทำแบบนั้นจริงๆ?”

“ทำไมจะไม่ทำละ?” ฉันพูด “สีชิงชวนเดิมทีก็เป็นของฉันอยู่แล้ว เขาชอบฉัน ฉันรู้ดี” ฉันมองเฉียวอี้ “ถ้าหากฉันโง่ถึงขั้นไม่รู้ว่าผู้ชายคนหนึ่งมีความจริงใจชอบฉันหรือไม่ก็ยังไม่รู้ นั่นก็แสดงว่าฉันโง่จริงๆแล้ว”

เฉียวอี้ใช้แรงตีมาที่ไหล่ฉัน เจ็บมากนะ

“ทำได้สวยเลยพี่สาว ถ้าเป็นอย่างนี้ ของของเธอพวกเราก็ต้องไปเอากลับมา ผู้ชายของเธอพวกเราก็ต้องไปแย่งกลับมา”

ฉันนึกถึงวันนั้นในโรงแรมที่น้ำตาของสีชิงชวนไหลลงมา ฉันรู้ดี เขาจริงใจจริงๆ

ทำไมเห็นหน้าฉันถึงต้องทำหน้าเยือกเย็นใส่ ฉันทำร้ายเขาไว้มาก ถ้าเขายังยิ้มให้ฉันคงไม่ใช่สีชิงชวนแล้ว

เพราะฉะนั้นไม่แค่เพราะจะยั่วยุเซียวซือ แต่ฉันทำเพื่อตัวฉันเองด้วย

ฉันรักสีชิงชวน เพราะงั้นฉันจะไปแย่งเขากลับมาให้ได้ และจะไม่ยอมเหมือนครั้งก่อนๆที่ยอมปล่อยเขาประเคนให้เซียวซือ

ฉันดื่มเหล้าในแก้วจนหมด สมองมึนไปนิดหนึ่ง จากนั้นยกแก้วเหล้าให้เฉียวอี้ “เติมเหล้าให้ฉันเต็มแก้วเลย”

“แล้วต่อไปเธอวางแผนที่จะทำอะไร?” เธอมองมาที่ฉัน

“โทรศัพท์หาสีชิงชวน ให้เขาได้มาเห็นภรรยาในอนาคตของเขาสนุกสุดเหวี่ยงสักหน่อย”

“ถ้างั้น ก็ไม่ต้องดื่มมากไป ดื่มให้พอดีแล้วก็พอได้แล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)