พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 462

ก็จริง ความสามารถในการดื่มเหล้าฉันไม่ดีเท่าไหร่ ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกเมาหน่อยๆกำลังพอดี

ฉันจิบเหล้าคำเล็กๆอีกหนึ่งคำ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาสีชิงชวน

โทรศัพท์ดังอยู่สี่ห้าเสียงถึงรับโทรศัพท์ ฉันคิดว่าสีชิงชวนเห็นเบอร์โทรฉันน่าจะประหลาดใจอยู่

ถ้าเอาตามที่เขาเข้าใจฉัน เขาคงคิดว่าฉันไม่น่าจะโทรหาเขาได้

เขารับโทรศัพท์แล้วพูดด้วยเสียงนุ่มลึกว่า “ฮัลโหล”

พอได้ยินเสียงสีชิงชวนแล้ว ความรู้สึกเหมือนช่วงเวลาช่างยาวนานเหมือนผ่านไปเป็นชาติ เวลานั้นน้ำตาของฉันเกือบจะไหลออกมา

ฉันพยายามทำให้เสียงตัวเองไพเราะเพราะพริ้งมากที่สุดแล้วถามเขา “จะมาดื่มเหล้าด้วยกันหน่อยไหม?”

เขาชะงักไปพักหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงอาการประหลาดใจ “อะไรนะ?”

ฉันพูดว่า “มาดื่มเหล้าด้วยกันไง ที่ฉันพูดไม่ใช่ภาษาจีนเหรอ?ฉันยิ้มๆ แล้วจิบเหล้าไปอีก1จิบ

“เซียวเซิง นี่เธอดื่มเหล้าใช่ไหม?” น้ำเสียงของเขาฟังไม่ได้เย็นชาเท่าที่คิดเอาไว้ ฉันฟังออกว่าเป็นห่วง เขาเป็นห่วงฉัน

“ใช่แล้ว ฉันดื่มเหล้าไปแต่ดื่มไปไม่มาก ฉันรอนายมาดื่มให้เมาไปด้วยกัน”

“เซียวเซิง” เสียงเขาดูมีความอดทนมาก : “นี่เธออยู่ไหน?”

“ฉันอยู่” ฉันหันหน้าถามเฉียวอี้ “ที่นี่ชื่อว่าผับอะไรนะ?”

เฉียวอี้บอกชื่อผับกับฉัน ฉันจึงพูดกับสีชิงชวนว่า “ก็อยู่ที่นี่ ผับที่แพงที่สุดในเมืองฮวา”

“ทำไมถึงดื่มเหล้า?”

“เพราะนายกับเซียวซือกำลังจะหมั้นหมายกันไง เซียวซือเหมาร้านจะให้พวกเราไปเป็นประจักษ์พยานความสุขของเธอ ฉันคิดว่าพระเอกไม่อยู่จะได้ยังไง?

เพราะงั้นฉันก็เลยโทรหานายนี่ไง”

ฉันเอามือจับที่สมองของฉัน พูดกับเขาแบบนั้นไปได้ไง เฉียวอี้ยกนิ้วหัวแม่มือให้ฉัน

ฉันพูดได้ดีเหรอ? ฉันไม่รู้สึกแบบนั้นเลย

“เธออยู่ที่ผับที่เซียวซืออยู่เหรอ?”

“นายวางใจเถอะ ฉันไม่ก่อเรื่องหรอก ฉันไม่ใช่คนนิสัยประเภทนั้นนะ! ฉันเป็นคนได้รับความลำบากอย่างขัดขืนไม่ได้ต่างหากละ จริงไม่จริง? สีชิงชวนนายแค่บอกฉันมาว่านายจะมาหรือไม่มา?

เขากดวางสายไป เฉียวอี้ถามฉันทันทีว่า “เป็นไง เป็นไง เขาจะมาหรือเปล่า?”

ฉันขยักไหล่กางมือออก ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสีชิงชวนจะมาหรือเปล่า

เขาเป็นคนประเภทไม่ชอบถูกคนอื่นคุกคามแล้วเป็นคนไม่ยอมให้ใครมาครอบงำ

พอเขาวางหูใส่ฉัน ฉันหายเมาจากเหล้าทั้งหมดเลย แต่ก็ไม่ได้ถือว่าดื่มไปมาก

“เธอคงจะไม่ท้อใจไปแบบนี้ใช่ไหม?” เฉียวอี้ยกไวน์แดงแก้วหนึ่งให้ฉัน ฉันรับแก้วมาดื่มไปต่อเนื่องหมดไปทีนึงครึ่งแก้ว “ใครบอกละ? จะเป็นไปได้ไง?”

“งั้นก็ดี” เฉียวอี้พูด “งั้นฉันก็วางใจแล้ว”

ตอนนี้ฉันจะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ แล้วจะไม่อะไรนิดหน่อยก็เกิดการท้อใจ

ฉันไปทำร้ายเขาไว้ขนาดนั้น สีชิงชวนจะทำเย็นชามึงทึงใส่ฉันก็ไม่แปลกหรอก

ฉันกะว่าจะนั่งอยู่ที่ผับนี้อีกแป๊บนึงก็จะกลับแล้ว มองดูพวกกลุ่มผู้หญิงเหล่านั้นอวยเซียวซืออย่างเว่อร์วัง แล้วมองดูฉันที่ทั้งดูจืดชืดไม่มีสีสัน

เฉียวอี้ไปห้องน้ำ ฉันคิดว่าพอเธอกลับมาพวกเราก็กลับ เพราะระยะเวลาที่ฉันโทรหาสีชิงชวนก็ผ่านไปนานแล้ว ถ้าเขาจะมาก็คงจะมานานแล้ว

เฉียวอี้ออกมาจากห้องน้ำ ฉันกำลังจะพูดกับเธอว่ากลับกันเถอะ เธอแสดงความดีใจแล้วพูดกับฉันด้วยเสียงเบาว่า “สีชิงชวนมาแล้ว เมื่อกี้ตอนฉันอยู่ในห้องน้ำ เห็นเขาจากทางหน้าต่างเขากำลังจอดรถอยู่”

สีชิงชวนมาจริงด้วย ฉันไม่รู้ว่ามาเพราะฉันหรือเพราะเซียวซือ

เฉียวอี้มองมองฉัน “อืม ตาสว่างเป็นประกาย แก้มระเรื่อเป็นสีชมพู ปากแดงๆ สภาพดูดีใช้ได้”

ณ เวลานั้น ใครยิ่งพูดเยอะคนนั้นก็จะยิ่งดูผิดเยอะ

“ใช่แล้วใช่แล้ว คุณสี” เพื่อนหญิงของเซียวซือรีบช่วยเธออธิบาย”พวกเราเห็นกันหมด เป็นเซียวเซิงถือแก้วเหล้ามาสาดใส่เซียวซือก่อน จากนั้นเซียวซือถึงจะลงมือตีเธอ”

ฉันรู้สึกได้ว่าสีชิงชวนก้มหน้ามามองฉัน เขาตีๆที่ไหล่ฉัน อยากลากฉันออกจากอ้อมกอดของเขา แต่ฉันถือโอกาสใช้สองมือกอดเอวเขาไว้ให้แน่น

ฉันคิดว่าตอนนี้หน้าของเซียวซือคงจะโกรธจนหน้าเปลี่ยนแล้ว ฉันได้ยินสีชิงชวนพูดกับเธอว่า “เธอไปล้างหน้าที่ห้องน้ำก่อน เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย”

ข้างๆฉันมีเสียงส้นสูงดังขึ้น พวกเซียวซือน่าจะเดินจากไปกันแล้ว

ตอนนี้สีชิงชวนเอามือมาตีๆที่ไหล่ฉันอีก “พอแล้ว พวกเขาไปแล้ว ไม่ต้องแสดงละครแล้ว”

น้ำเสียงของเขายังถือว่านุ่มนวลอยู่ ฉันยกหัวออกจากอ้อมกอดของเขา แม้อยู่ในผับที่มืดสลัวแต่ตาของเขายังคงสว่างไสวขนาดนั้น

“อืมอืม”ฉันทำเป็นเศร้าๆ “ฉันไม่ได้แกล้งแสดง เซียวซือตบเข้าไปที่หูฉันจริงๆอีกนิดหูฉันจะดับแล้ว

เขามองมาที่หน้าฉันอย่างละเอียด “มีบวมหน่อย เธอไปสาดเหล้าใส่คนอื่นเขา เขาก็ต้องลงมือกับเธอสิ”

สีชิงชวนโบกมือให้เฉียวอี้ที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง “ยังไม่รีบมาช่วยเพื่อนซี้ของเธอทายา”

“ฉันจะให้เธอช่วยฉันทาด้วยตัวเอง” ฉันไม่เคยพูดคำพูดสะอิดสะเอียนแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้พอพูดก็ไม่เสียหายอะไร

สีชิงชวนทำทีจะยิ้มไม่ยิ้มมองดูฉัน “เส้นเอ็นเส้นไหนมันผิดท่า ใช้น้ำเสียงแบบนี้ในการพูดกับฉัน เธอรู้ไหมว่าตอนนี้ขนฉันลุกจนตกไปที่พื้นแล้ว?”

ฉันจะไปส่งทำไมว่าขนเขาจะตกไปกี่เส้นแล้ว เขาจะหมั้นหมายกับเซียวซือเร็วๆนี้แล้ว ถ้าฉันยังไม่ไขว่คว้าโอกาสสุดท้ายนี้ไว้?

ฉันหนีบชายเสื้อของเขาไว้ไม่ยอมปล่อยมือ “มือเท้าที่หยาบกร้านของเฉียวอี้ เธอช่วยฉันทายา”

เขามองดูฉัน “เธอเรียกฉันมาก็เพื่อที่จะมาให้ดูเธอเล่นละครให้ฉันดู? แบบนี้เขาเรียกว่าจัดการศัตรูได้หนึ่งหมื่น ฝั่งตนสูญเสียไปแปดพัน ได้ไม่คุ้มเสียเลย”

เขาแสดงความไม่พอใจแล้วหันหลังแล้วจากไป หน้าฉันยังเจ็บอยู่จึงไม่ทันวิ่งตามเขา สีชิงชวนก็ออกจากผับไปแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)